ทนาย และญาติ ‘บุ้ง ทะลุวัง’ คาใจปมเสียชีวิต ร่วมสังเกตการณ์ผ่าชันสูตรศพ

นายกฤษฎางค์ นุตจรัส ทนายความศูนย์ทนายความเพื่อสิทธิมนุษยชน เดินทางมายังโรงพยาบาลธรรมศาสตร์เฉลิมพระเกียรติ หลังจากทีมแพทย์เตรียมจะผ่าชันสูตรพลิกศพนางสาวเนติพร เสน่ห์สังคม หรือ บุ้ง แกนนำกลุ่มทะลุวัง เพื่อหาสาเหตุการเสียชีวิต เนื่องจากญาติร้องขอ

ทนายกฤษฎางค์ ให้สัมภาษณ์กับสื่อมวลชน ว่า หลังจากเมื่อวานนี้ (14พ.ค.) แพทย์ชันสูตรพลิกศพตาม ป.วิอาญาแล้ว วันนี้จะผ่าชันสูตรศพหาสาเหตุการเสียชีวิต เนื่องจาก กรมราชทัณฑ์ ออกแถลงว่า นางสาวเนติพร เสียชีวิตจากภาวะหัวใจล้มเหลว เป็นการแถลงที่กว้างเกินไป จึงได้ปรึกษาทีมแพทย์เพื่อหาสาเหตุการเสียชีวิต และให้พี่น้องประชาชน หรือญาติผู้เสียชีวิตรับทราบไปพร้อมกัน เช่น สภาพทางกายภาพมีบาดแผล หรือมีการถูกทำร้ายร่างกายหรือไม่ มีสารพิษ หรือสารตกค้างก่อให้เกิดอันตรายต่อร่างกายหรือไม่ และร่างกายมีเหตุอะไรที่ทำให้หัวใจล้มเหลว

รวมไปถึงการรักษาพยาบาลในขั้นต้นที่โรงพยาบาลราชทัณท์ ปฏิบัติอย่างถูกวิธีหรือไม่ ซึ่งการชันสูตรพลิกศพเมื่อวาน เป็นแค่การดูสภาพทางกายภาพภายนอก ยังไม่ได้ตรวจดูภายใน คาดว่าน่าจะใช้เวลาผ่าชันสูตรประมาณ 2 ชั่วโมง หลังการผ่าชันสูตรเสร็จสิ้น ญาติสามารถนำร่างนางสาวเนติพรไปประกอบพิธีทางศาสนาได้
 

ทนายกฤษฎางค์ ติดใจอยู่ 2 ข้อ

ข้อแรก นับตั้งแต่บุ้ง ถูกจองจำอยู่ในเรือนจำจนมาถึงเมื่อวานที่บุ้งหมดสติ แพทย์ได้ดำเนินการอย่างไร เพราะตนเองได้ร้องขอมาตลอดเวลา ว่าบุ้งมีอาการไม่ดี อยากให้ออกมารักษาที่ภายนอกดีกว่า ซึ่งตนเองมองในฐานะ ผู้มีประสบการณ์ในการดูแลผู้ต้องขัง ในลักษณะดังกล่าว จึงเชื่อว่า โรงพยาบาลราชทัณท์ อาจมีปัญหาในเรื่องของงบประมาณ เครื่องไม้เครื่องมือรักษาไม่เพียงพอ ที่แพทย์แจ้งว่า บุ้ง รับประทานตามปกติ แต่ปริมาณเกลือแร่ต่ำ นั้น เกิดขึ้นได้อย่างไร ทั้งหมดจึงเป็นข้อสงสัยให้ตนเอง และญาติต้องหาคำตอบ ที่สำคัญ รัฐ ดูแลผู้ต้องขังที่ยังไม่ได้ถูกพิพากษาอย่างไร ในอนาคต ถ้าศาลตัดสินยกฟ้องแต่ผู้ต้องขังเสียชีวิต จะรับผิดชอบอย่างไร

ส่วนประเด็นที่ 2 ที่ติดใจ คือ ช่วงเวลาที่บุ้งจะเสียชีวิต มีการรักษา หรือช่วยชีวิตอย่างไร เช่น การปั๊มหัวใจ การเดินทางมาถึงโรงพยาบาลธรรมศาสตร์ ใช้เวลาเท่าไร ข้อกังวลใจทั้งหมดนี้ เป็นสิ่งที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม นายทวี สอดส่อง ต้องตอบคำถาม เพราะเป็นเรื่องที่ละเอียดอ่อน

จึงอยากเรียกร้องผ่านสื่อ ให้นายทวี สอดส่อง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม รักษาพยานหลักฐานการเสียชีวิตของบุ้ง เมื่อวานนี้ให้ดี ตนเองไม่ได้ต้องการให้ดูแลรักษาผู้ต้องขังในคดีการเมืองให้เหมือนกับอดีตนายกรัฐมนตรี แต่แค่อยากให้ถูกต้องตามหลักสิทธิมนุษยชน
 

ทนายกฤษฎางค์ ยังกล่าวอีกว่า เมื่อเช้า นายทวี ก็โทรหาตนเอง เพื่อจะขอปรึกษา ตนเองจึงบอกว่า รอให้ผลการผ่าชันสูตรศพออกมาก่อน และพึ่งทราบว่า นายทวี ก็จะเดินทางไปเยี่ยมนางสาวตะวัน ที่โรงพยาบาลราชทัณฑ์ด้วยเช่นกัน เพื่อให้กำลังใจ ตนเองก็ไม่รู้ว่ามันสายไปหรือยัง ส่วนกรณีกรมราชทัณฑ์จะแถลงข่าวในวันนี้ตอน 11:00 น. ถ้าราชทัณฑ์เชิญให้ตนเอง และญาติไป ก็พร้อมที่จะไปฟังด้วย

ผู้สื่อข่าวถามว่า เวลานี้ มีผู้ต้องขังทางการเมืองอดอาหารอยู่อีกกี่คน ทนายกฤษฎางค์ กล่าวว่า ยังมีอยู่ 2 คน แต่ไม่รู้ว่าอดในระดับไหน ยังมีผู้ต้องขังทางการเมืองมีกว่า 47 คน แต่ตอนนี้ขอโฟกัสไปที่เรื่อง “บุ้ง ทะลุวัง” ก่อน เพื่อไม่ให้เกิดปัญหาขึ้นอีก เพราะในรอบกว่า 10 ปี มีผู้ต้องขังทางการเมืองหลายราย ที่ถูกคุมขังอยู่ในเรือนจำและเสียชีวิต ด้วยสาเหตุต่างๆ ยกตัวอย่างเช่น คุณเจริญ วัดอักษร ก็เสียชีวิตอยู่ในเรือนจำ ชัดเจนว่ากระบวนการยุติธรรมไทยมีปัญหา