ข่าว

'ชายพิการ' ได้สิทธิ์รับเบี้ยคืนแล้ว พอใจหลังกรมบัญชีกลางชี้แจง

เกาะติดข่าวสาร >> คมชัดลึก ออนไลน์
logoline

'ชายพิการ' ได้สิทธิ์รับเบี้ยคืนแล้ว พอใจหลังฟัง กรมบัญชีกลาง ชี้แจงปมสิทธิ์คนพิการพร้อมขอโทษทุกคน เผยจะกลับบ้านไปถือศีลสงบจิตสงบใจ

เมื่อวันที่ 9 ก.พ.2567 ที่ผ่านมา  พระครูชาครธรรมโสภณ เจ้าอาวาสวัดราชบรรทม จ.พระนครศรีอยุธยา นำ นายมลฑล เพชรสังข์ อายุ 48 ปี ชายพิการ ซึ่งโยกรถสามล้อมาจากจังหวัดสุโขทัย เข้าพบ น.ส.ศรีนวล อุบลวัฒนสกุล ผู้อำนวยการกลุ่มงานนโยบายสวัสดิการ กองบริหารการรับ - จ่ายเงินภาครัฐกรมบัญชีกลาง เพื่อสอบถามข้อมูลว่า ทำไมชื่อของตนหายออกจากระบบทะเบียนราษฎร์ในอำเภอสีสัชนาลัย จังหวัดสุโขทัย เนื่องจากตนยังไม่เสียชีวิตหรือไปอยู่ต่างประเทศ เพราะที่ผ่านมาได้มีการโยกรถสามล้อไปทวงถามอย่างหน่วยงานต่างๆ ในพื้นที่ แต่ไม่ได้รับคำตอบ เพราะถูกระบุว่าไม่มีรายชื่อในระบบการรับเบี้ยคนพิการ

นายมณฑล ชายพิการ รับฟังคำชี้แจงจากจนท.กรมบัญชีกลาง กรณี ถูกตัดสิทธิ์รับเบี้ยคนพิการ

 


กระทั่งโยกรถสามล้อจาก จ.สุโขทัยมาถึง จ.พระนครศรีอยุธยา  กลับมีชื่อเข้าไปในระบบทะเบียนบ้านและมีสิทธิ์รับเบี้ยคนพิการได้ จึงทำให้รู้สึกสงสัยในการปฏิบัติหน้าที่ของหน่วยงานรัฐที่ปัจจุบันมีเทคโนโลยีสามารถเชื่อมต่อข้อมูลทะเบียนราษฎร์ได้ แต่ไม่ดำเนินการค้นหาหรือแจ้งให้ตนทราบ 


ด้าน น.ส.ศรีนวล อุบลวัฒนสกุล ผู้อำนวยการกลุ่มงานนโยบายสวัสดิการ กองบริหารการรับ - จ่ายเงินภาครัฐกรมบัญชีกลาง ที่สอบถึงข้อมูลของทะเบียนราษฎร์เป็นความรับผิดชอบของกรมการปกครองในสังกัดกระทรวงมหาดไทย เพราะตามหน้าที่ของกรมบัญชีกลางแล้ว จะไม่ทราบในรายละเอียดเนื่องจากกรมบัญชีกลางมีหน้าที่จ่ายเงินสวัสดิการต่างๆให้กับประชาชนเท่านั้น จึงทำให้ไม่ทราบขั้นตอน

นายมณฑล ชายพิการพอใจหลังฟังกรมบัญชีกลางชี้แจงและ ได้รับสิทธิ์ผู้พิการคืน

 

 

แต่จากการจัดการประสานกับหน่วยงานผู้เกี่ยวข้องทราบว่า ขณะนี้ชื่อของนายมณฑล ได้มีชื่อในทะเบียนบ้านแล้ว พร้อมกลับสามารถดำเนินการขอรับสิทธิ์เบี้ยคนพิการได้ตั้งแต่วันที่ 8 มีนาคม เป็นต้นไปในวงเงิน 800 บาทต่อเดือน

 

ซึ่งตามขั้นตอนการโอนเบี้ยคนพิการสามารถทำได้ 4 วิธี คืน

  • 1. โอนเข้าที่บัญชีตรงของผู้ขอรับสิทธิ์
  • 2. รับเงินสดกับกับหน่วยงานท้องถิ่น
  • 3.โอนเข้าบัญชีผู้อื่นที่ผู้ขอรับสิทธิ์มอบอำนาจ
  • 4 มอบอํานาจให้ผู้อื่นรับเงินสดแทน

 

 

หลังได้รับการชี้แจงจากเจ้าหน้าที่กรมบัญชีกลาง นายมณฑล เปิดเผยกับสื่อว่า ต้องขอขอบคุณเจ้าหน้าที่ทุกท่านและขอโทษประชาชน ตลอดจนบุคคลที่เกี่ยวข้องกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น จากที่ตนได้มีพฤติกรรมด่ากราด แสดงพฤติกรรมไม่เหมาะสม เนื่องจากมีความเครียดสะสมและไม่ได้พักผ่อน แต่ตอนนี้รู้สึกสบายใจก็จะเดินทางกลับ เพราะได้ทำตามเป้าหมายที่ตั้งใจไว้แล้ว

 

โดยการเดินทางกลับครั้งนี้จะมีเจ้าหน้าที่กระทรวงพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ ไปส่งที่พระนครศรีอยุธยาและเจ้าอาวาสวัดราชบรรทม นำไปส่งที่จังหวัดพระนครศรีอยุธยา ก่อนเดินทางต่อปรับภูมิลำเนาที่จังหวัดสุโขทัย โดยตั้งใจว่าจะกลับบ้านไปถือศีลพร้อมกับยินดีให้สื่อมวลชนไปติดตามชีวิตได้อย่างเต็มที่

 

 

logoline

ข่าวที่น่าสนใจ