ข่าว

'ครูชัยยศ' แจงแค่เซ็นรับวัตถุดิบอาหารกลางวัน ไม่รู้เรื่องงบประมาณจัดซื้อ

เกาะติดข่าวสาร >> คมชัดลึก ออนไลน์
logoline

"ครูชัยยศ" แจงตรวจรับวัตถุดิบอาหารกลางวัน ไม่มีเจตนาทุจริต ไม่รู้เรื่องงบประมาณจัดซื้อ ทำไปตามคำสั่งที่ให้ตรวจรับอาหารตามรายการอาหารเท่านั้น เตรียมยื่นศาลปกครอง ขอความเป็นธรรม

8 ธ.ค. 2566  นายชัยยศ สุขต้อ อายุ 57 ปี หรือครูชัยยศ อดีตครูชำนาญการพิเศษ (คศ.3)โรงเรียนบ้านยางเปา อ.อมก๋อย จ.เชียงใหม่ ที่ถูกคำสั่งปลดออกจากราชการ หลัง ป.ป.ช. มีมติชี้มูลความผิดทางอาญาและวินัย กรณีเป็นกรรมการตรวจรับอาหารกลางวัน ที่พบว่า มีการละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ ด้วยเหตุผลของการเซ็นเอกสารการตรวจรับวัตถุดิบอาหารกลางวัน ไม่ตรงกับข้อเท็จจริง เปิดเผยว่า ในเจตนาที่ เซ็นเอกสารนั้น เนื่องจากตนได้รับคำสั่งมาให้เป็นผู้ตรวจรับอาหารกับครูอีกคน  ซึ่งตนคิดว่า เป็นการตรวจรับรายการอาหาร จึงไปเซ็นต์ เพราะตามคำสั่ง จึงไม่มีสิทธิที่จะไปทำหน้าที่อย่างอื่นได้เลย


 ครูชัยยศ ยืนยันอีกว่าในการตรวจรับวัตถุดิบอาหารกลางวัน ไม่ทราบว่ามีเรื่องเงินงบประมาณด้วย เพราะมีรายการอาหารในแต่ละล็อตมาก็เซ็นรับ ซึ่งในการตรวจไม่ได้มีการตรวจรับอย่างละเอียด  

ครูชัยยศ ยืนยันไม่เจตนาทุจริต งบอาหารกลางวัน แค่ทำตามคำสั่งเซ็นตรวจรับวัตถุดิบ

 


ส่วนวัตถุดิบที่นำมาส่งแต่ละครั้ง ดูสอดคล้องกับจำนวนเงินที่ใช้จ่ายไป 60,000บาทต่อครั้ง ตามที่ ป.ป.ช.อธิบายหรือไม่นั้น ครูชัยยศ ระบุว่าตนไม่ได้ไปดูเรื่องเงินเลย เพราะตามหน้าที่ของตนเองไม่มีสิทธิ ไปดูว่าซื้อมาราคาเท่าไร ซื้อที่ไหนยังไง ก็ไม่มีสิทธิไปดู จึงไม่รู้ยอดว่า มีงบประมาณ 60,000บาท เพราะไม่เกี่ยวข้องกับการเงิน ไม่ใช่หน้าที่ มีหน้าที่ตรวจรับอาหาร ก็ไปตรวจรับอาหารแล้วก็เซ็น พร้อมกับครูอีกคน  และยืนยันว่ารู้แค่ว่ารายการอาหารมาเท่าไร ก็ตรวจรับว่าตรงกับรายการอาหารเท่านั้น 

  

ก่อนหน้าที่จะชี้มูล ป.ป.ช.ก็ได้เข้ามาสอบถาม และถามถึงเอกสาร ตนยังคิดว่ายังไงก็ไม่ใช่เรื่องของเรา เพราะเราไม่ได้มีอะไรที่ทุจริต หรือจะทำให้ ป.ป.ช.มาชี้มูลเรา และเมื่อ ป.ป.ช.ชี้แจงมาว่าเป็นเรื่องของลายเซ็นตนเองก็ตกใจว่ามีผลขนาดนี้

 

 

และหลังจากตกเป็นผู้ถูกกล่าวหา ป.ป.ช. ก็ให้ส่งหนังสือไปชี้แจงใหม่ หาหลักฐานใหม่เข้าไปชี้แจง แต่น่าจะไม่ผ่านเพราะ ป.ป.ช.ไม่อยู่ และชาวบ้านก็เข้าไปพบเพื่อจะชี้แจงว่า ทั้งครูชัยยศ และครูอีกคน ไม่ได้ทำอะไรตรงนี้ แต่เป็นผลพวง ซึ่ง ป.ป.ช.ก็ไม่อยู่เช่นกัน ส่วนที่เซ็นไป ตนเองก็จำไม่ได้ว่ากี่ครั้ง แต่เซ็นต์มาตั้งแต่ปี 2561

 

ส่วนแนวทางการต่อสู้หลังจากนี้ ครูชัยยศ จะยื่นศาลปกครองเพื่อขอความเป็นธรรมให้กับตนเองเพราะหากดูเจตนาแล้วตนเองไม่ได้มีเจตนาที่ไปทำทุจริตแม้แต่นิดเดียว

 

ครูชัยยศ ยังบอกอีกว่าที่ตนถูกปลดก็มองว่า ตัวหนังสือฆ่าคน กฎหมายฆ่าคน เพราะหากดูเจตนาแล้ว ตนเป็นคนที่สละตัวเองเพื่ออาชีพตัวเอง ใช้เงินส่วนตัวในการสอน เลี้ยงข้าวนักเรียนฟรี ใช้เงินซื้ออุปกรณ์การเรียนการสอนต่างๆ ทั้งโต๊ะปิงปอง ทั้งเครื่องเสียง แล้วแววที่ตนเองจะไปทุจริตมันไม่ใช่ละ จากที่ผมได้รับรางวัลมาก็จากตนเองงานที่ได้ทำไป ไม่ใช่ยกรางวัลให้เราเฉยๆ ต้องผ่านการตรวจงาน ตนเองไม่ได้ส่อแววทุจริตอันใดเลย เราใช้เวลาอยู่กับงาน

 

ครูชัยยศ ยังยอมรับว่า ครั้งแรกก็ตกใจว่าลายเซ็นเรามีผลกับเราแบบนี้เลยเหรอ ตนบอกนักเรียนเสมอว่า ครูไม่เคยผิดหวังอะไรเพราะไม่เคยตั้งหวังอะไร และครั้งนี้ก็ไม่ได้ผิดหวัง แต่เสียใจในสิ่งที่เกิดขึ้น ด้วยเจตนาเรามันบริสุทธิ์ เพื่อให้นักเรียนได้กินข้าว ถ้าวันนั้นตนไม่เซ็น ถามว่าอาหารจะออกมามั้ย ก็ไม่มีอาหารออกมา แล้วถ้าไม่มีอาหารออกมาให้กินแล้วจะเดือดร้อนใคร ก็ต้องเดือดร้อนทั้งโรงเรียน แต่สิ่งที่เราทำไปกับตัวหนังสือที่มาฆ่าเรา มันก็ขัดกัน เพราะนักกฎหมายก็พูดถึงกฎหมาย แต่เราเป็นครูใช้บารมีและความเมตตา ไม่มีอำนาจไปใช้ตรงนี้
   

ทั้งนี้ตนผ่านความยากลำบากมา เจอครั้งนี้ก็ตั้งรับกับมัน แต่ไม่ได้ยอมรับ ไม่ยอมรับในสิ่งที่ตนเองไม่ได้ทำและไม่ได้ตั้งใจ เพราะฉะนั้นตัวหนังสือ และกฎหมายที่มาฆ่าตนเองตอนนี้ก็อยากจะให้เขาพิจารณาและให้ความเมตตากันใหม่
 

 

logoline

ข่าวที่น่าสนใจ