กต.เผย 'แรงงานไทย' ลงชื่อขอกลับทะลุ 7,000 'อิสราเอล' เร่งเจรจาช่วยตัวประกัน

14 ต.ค. 2566 นางกาญจนา ภัทรโชค อธิบดีกรมสารนิเทศและโฆษกกระทรวงการต่างประเทศ (กต.) แถลงผลการประชุม "ศูนย์สถานการณ์ฉุกเฉินต่อสถานการณ์ความไม่สงบในอิสราเอล" หรือศูนย์ Rapid Response Center : RRC ที่รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการต่างประเทศ เป็นประธานการประชุมที่กระทรวงการต่างประเทศในวันนี้ (14 ต.ค. 2566) ว่า ที่ประชุมฯ เห็นชอบให้มีการหาเที่ยวบินพิเศษเพิ่มเติมเที่ยวบินเช่าเหมาลำ เพื่อให้สามารถอพยพคนไทยในอิสราเอลให้ได้วันละ 400 คนตามเป้าหมาย

 

 

และวันนี้ มีการอพยพจากอิสราเอล จำนวน 98 คน จากเดิม 100 คน แต่มีการสละสิทธิ์การเดินทางกลับ 2 คน โดยเครื่องบินจะเดินทางถึงสนามบินอู่ตะเภา ในวันพรุ่งนี้ (15 ต.ค.2566) เวลา 07.25 น. เพื่อตรวจสุขภาพร่างกายโดยกระทรวงสาธารณสุข ก่อนเดินทางต่อมายังโรงแรม SC Park เพื่อรับการชดเชยจากกระทรวงแรงงาน และกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ ก่อนเดินทางกลับภูมิลำเนา

 

นอกจากนี้  ในวันพรุ่งนี้ (15 ต.ค.2566) สถานทูตฯ จะอพยพคนไทยออกจากอิสราเอลอีก 137 คน ด้วยเครื่องบินกองทัพอากาศ ในเวลา 13.00 น. โดยจะถึงท่าอากาศยาน 2 กองบิน 6 หรือ บน.6 ในเวลา 04.40 น. และรัฐบาล จะใช้เที่ยวบินพิเศษของอิสราเอลแอร์ไลน์ 250 ที่นั่ง และการบินไทย รวมถึงสายการบินอื่นๆ เพื่อตอบสนองความต้องการของคนไทยในอิสราเอล ที่ต้องการเดินทางกลับประเทศให้ได้โดยเร็วที่สุด โดยขณะนี้ มีผู้ลงทะเบียนขอเดินทางกลับประเทศไทยแล้ว 7,058 คน

 

ส่วนจำนวนผู้เสียชีวิตขณะนี้  ได้รับรายงานจากทางการของอิสราเอล เพิ่ม 3 ราย รวมเป็น 24 ราย และมีผู้บาดเจ็บเพิ่ม 2 คน รวมขณะนี้ 16 คน แต่จำนวนผู้ถูกจับเป็นตัวประกันยังคงเดิม 16 คน

 

โฆษก กต. ยังเปิดเผยถึงแนวทางการส่งร่างผู้เสียชีวิต ว่าต้องใช้เวลา แต่สถานทูตฯ ได้พยายามเร่งประสานงานกับผู้จัดการบริษัท ที่ทางการอิสราเอลมอบหมายให้จัดการดำเนินจัดการกับร่างผู้เสียชีวิตที่เป็นต่างชาติ เพื่อการส่งศพกลับภูมิลำเนา

 

โดยผู้จัดการบริษัทดังกล่าวฯ แจ้งว่ามีมีเสียชีวิตที่เป็นต่างชาติจำนวนมาก แต่จะเร่งดำเนินการให้ได้โดยเร็ว และทางการของอิสราเอล จะเป็นผู้รับผิดชอบค่าใช้จ่ายในการส่งศพกลับภูมิลำเนาทั้งหมด  ทั้งนี้ในช่วงเวลาปกติ ทางการอิสราเอลจะใช้เวลาในการพิสูจน์อัตลักษณ์ผู้เสียชีวิตประมาณ 7 วัน แต่ในภาวะสงคราม อาจจะจะต้องใช้เวลาเพิ่มมากขึ้นไปอีก

 

สำหรับสถานการณ์ การสู้รบในอิสราเอลนั้นยังคงมีความรุนแรง และยังกังวลถึงการประกาศขอให้พลเมืองในพื้นที่ตอนเหนือของฉนวนกาซา อพยพออกจากพื้นที่ภายใน 24 ชั่วโมง แต่กลุ่มฮามาสยังขอให้พลเมืองไม่ต้องอพยพ โดยอ้างเหตุผลสงครามทางจิตวิทยา พร้อมยอมรับว่า การปฏิบัติการทางการทหารของอิสราเอลในพื้นที่ฉนวนกาซานั้น พลเมืองใกล้เคียงก็จะได้รับผลกระทบด้วย

 

ทั้งนี้มีการคาดการณ์ว่า ตัวประกันที่ถูกจับตัวไปนั้น ถูกกระจายไปตามอุโมงค์ใต้ดินต่าง ๆ และจากการติดตามสถานการณ์ สหรัฐอเมริกา รวมถึงสหประชาชาติ ก็ได้ร้องขอให้อิสราเอล ชะลอปฏิบัติการทางทหารในฉนวนกาซาไปก่อน เพราะการอพยพพลเมืองกว่า 1 ล้านคน ในฉนวนกาซาภายใน 24 ชั่วโมงนั้น เป็นไปได้ยาก และการอพยพจริง ก็มีผู้อพยพออกมาได้น้อยมาก

 

สำหรับกรณีมีแรงงานไทย ระบุว่ากลุ่มฮามาสพยายามพูดภาษาไทยเพื่อหลอกล่อให้คนแรงงานแสดงตัวออกมาระหว่างการหลบซ่อนนั้น เชื่อว่า คนไทย ไม่ได้เป็นเป้าหมายพิเศษของกลุ่มฮามาส และจากการพูดคุยกับหลายฝ่าย ก็แสดงความมั่นใจว่า คนต่างชาติไม่ใช่เป้าหมายการทำร้ายของกลุ่มฮามาส 

 

ส่วนประเด็นที่กลุ่มฮามาสออกมาระบุมีตัวประกันเสียชีวิต 13 ราย จากการโจมตีของอิสราเอลนั้น ขณะนี้ยังไม่สามารถยืนยันได้ว่า จำนวนดังกล่าว มีพลเมืองไทยด้วยหรือไม่ เนื่องจากยังไม่มีการเปิดเผยรายชื่อ และหวังว่าจะไม่มีคนไทยเสียชีวิตจากเหตุดังกล่าว โดยหลังจากนี้ จะต้องรอความคืบหน้าต่อไป

 

และขณะนี้ กำลังพลในอิสราเอลใกล้ฉนวนกาซา และชายแดนอิสราเอล กำลังเร่งปฏิบัติการเพื่อหาตัวประกันที่ถูกกลุ่มฮามาสจับตัวไว้ ซึ่งผู้ประสานงานเรื่องตัวประกัน และผู้สูญหายในอิสราเอล ยืนยันว่า ทางการอิสราเอล กำลังเร่งดำเนินการทางการทูต เพื่อนำตัวประกันออกมา แต่ในภาวะสงครามนั้น อาจต้องใช้เวลา รวมถึงจะหาทางส่งสิ่งของจำเป็นต่าง ๆ ให้กับตัวประกัน แต่ก็ยังไม่มั่นใจว่า กลุ่มฮามาสจะยินยอมหรือไม่