บอร์ด สปสช. เห็นชอบหนุนงบบัตรทองปี 2567 2.21 แสนล้านบาท
สปสช. เห็นชอบงบบัตรทองปี 67 กว่า 2.21 แสนล้านบาท ปรับเพิ่มขึ้นกว่า 1.7 หมื่นล้าน พร้อมหนุนนโยบายยกระดับ 30 บาทพลัส
นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ในฐานะประธานกรรมการหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (บอร์ด สปสช.) ได้เข้าร่วมประชุม บอร์ด สปสช. เป็นครั้งแรกหลังดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข โดยทำหน้าที่ประธานการประชุม มีวาระสำคัญพิจารณาร่างข้อเสนองบประมาณกองทุนหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ และร่างข้อเสนองบประมาณบริหารงานของสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ ปีงบประมาณ 2567 ซึ่งได้มีการปรับเพิ่มงบประมาณกองทุนฯ รวมเงินเดือนบุคลากร จากเดิม 212,449.82 ล้านบาท เป็น 221,528.95 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 17,388.92 ล้านบาท ซึ่งที่ประชุมได้มีมติความเห็นชอบ
นพ.ชลน่าน กล่าวว่า วันนี้การพิจารณาของบอร์ด สปสช. ได้เป็นไปตามระเบียบวาระ โดยมีเรื่องสำคัญที่พิจารณาคือแผนจัดทำงบประมาณกองทุนหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ ปีงบประมาณ 2567 ที่ได้มีการปรับแผนตามมติคณะรัฐมนตรี มีการปรับเพดานงบประมาณจากจำนวน 3.35 ล้านล้านบาท จากที่มีการเห็นชอบไปก่อนหน้านี้ เมื่อ 14 มีนาคม 2566 เป็นจำนวน 3.48 ล้านล้านบาท ทำให้ บอร์ด สปสช. ต้องพิจารณาและให้ความเห็นชอบใหม่ และจะมีการนำเสนอต่อ ครม. อีกครั้ง
ทั้งภาพรวมของแผนมีการจัดทำอย่างครอบคลุม เพื่อให้เป็นไปตามวัตถุประสงค์ของ พ.ร.บ.หลักประกันสุขภาพแห่งชาติ พ.ศ. 2545 และแผนการดำเนินงานกองทุนฯ ที่รวมในส่วนของเงินเดือนเป็นจำนวนกว่า 2 แสนล้านบาท หรือคิดเป็นเหมาจ่ายรายหัวจำนวน 3,539 บาทต่อคนต่อปี
“ในการจัดทำแผนปรับปรุงงบประมาณนี้ สปสช. ยังได้นำแผน Quick Win ที่กระทรวงสาธารณสุขได้ประกาศเป็นนโยบายนำมาประกอบเพื่อสนับสนุนงบประมาณด้วย เพื่อให้เป็นไปตามแผนดำเนินงานที่วางไว้” รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข กล่าวและว่า ทั้งนี้ตนได้สั่งการให้ สปสช.จ่ายเงินให้หน่วยบริการอย่างต่อเนื่อง รวดเร็ว เพื่อสร้างความมั่นใจให้หน่วยบริการ และให้ประชาชนเข้าถึงด้วยความมั่นใจ
ด้าน นพ.จเด็จ ธรรมธัชอารี เลขาธิการสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) กล่าวเพิ่มเติมว่า เดิมทีบอร์ด สปสช. มีมติเมื่อวันที่ 14 ธ.ค. 2565 เห็นชอบข้อเสนอคําขอรับงบประมาณกองทุนหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ ปีงบประมาณ 2567 จำนวน 212,449.82 ล้านบาท โดยเป็นยอดเงินสด 146,897.20 ล้านบาท ต่อมาคณะรัฐมนตรีวันที่ 13 ก.ย. 2566 ได้สั่งการให้ปรับปรุงคำของบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ 2567 ใหม่ ให้สอดคล้องกับนโยบายด้านสาธารณสุขของรัฐบาลชุดใหม่ ดังนั้น สปสช. จึงได้ปรับปรุงรายละเอียดงบประมาณรายจ่าย โดยคำนึงถึงนโยบายทั้ง 13 ข้อของกระทรวงสาธารณสุข และปรับเพิ่มงบประมาณที่ต้องใช้เพื่อผลักดันนโยบายเหล่านี้ขึ้นอีก 17,388.92 ล้านบาท
สำหรับ งบประมาณที่เพิ่มขึ้น 17,388.92 บาทนี้ แบ่งเป็น บริการเดิมที่ต่อเนื่องจากปี 2566 จำนวน 8,297.23 ล้านบาท บริการเดิมที่เป็นนโยบายของรัฐบาล 6,164.29 ล้านบาท บริการใหม่/สิทธิประโยชน์ใหม่ที่เป็นนโยบายของรัฐบาล 108.99 ล้านบาท บริการ/สิทธิประโยชน์ใหม่ประจำปี 2567 จำนวน 12.57 ล้านบาท และ การปรับใช้ระบบการจ่ายชดเชยค่าบริการแบบ DRG เวอร์ชั่น 6 อีก 2,805.84 ล้านบาท
ทั้งนี้ ที่ประชุมบอร์ด สปสช. ได้มีมติเห็นชอบร่างข้อเสนองบประมาณฯ ฉบับดังกล่าว โดยได้เน้นย้ำว่าเมื่อมีการปรับเพิ่มงบประมาณขึ้นแล้ว ผลการดำเนินงานจะต้องไม่ต่ำกว่าปีที่ผ่านมา ขณะเดียวกัน ยังได้เห็นชอบ ร่างข้อเสนองบประมาณบริหารงานของสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติปีงบประมาณ 2567 อีกจำนวน 2,086.55 ล้านบาท โดยหลังจากนี้จะนำเสนอต่อที่ประชุมคณะรัฐมนตรีเพื่อให้พิจารณาเห็นชอบต่อไป