19 ก.ย. 2566 หลังจากที่ นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ได้ลงพื้นที่ จ.เชียงใหม่ และได้มีการพูดถึงประเด็น "แพนด้า" ที่ถือเป็นทูตสันถวไมตรีระหว่างไทยและจีน ว่า เรื่องความสัมพันธ์กับประเทศจีน ถือเป็นเรื่องสำคัญที่สุดอีกเรื่องหนึ่ง ซึ่งตนจะมีกำหนดการเดินทางไปประเทศจีนในเดือน ต.ค. 2566 โดยประเด็นนี้ถือว่าเป็นอีกหนึ่งในหลายๆ ประเด็นที่จะมีการหารือร่วมกัน
ด้าน น.ส.กัญจนา ศิลปอาชา ประธานที่ปรึกษาหัวหน้าพรรคชาติไทยพัฒนา ได้โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัวระบุว่า "ได้ข่าวว่า จะมีการขอแพนด้ามาอีก … ขอบอกว่า อย่าเลย ..เขาอยู่ที่จีนน่ะดีแล้ว .. ดิฉันรักแพนด้า รักสัตว์ทุกอย่าง และหลินปิงคือแรงบันดาลใจแรกๆ ของดิฉันในเรื่องสัตว์ต่างๆ
เมื่อเรารักอะไร เราต้องรักแบบเห็นความสุขเขาเป็นที่ตั้ง ไม่ใช่ความสุขของเรา…
ที่ผ่านมา ทีมแพนด้าของเราทุกคน เลี้ยงช่วงช่วง หลินฮุ่ย หลินปิงได้ดีมาก แต่สภาพที่อยู่ ส่วนจัดแสดงเราจำกัด เขาอยู่จีน ที่โน่นมีสวนให้ออกมาเดินตามธรรมชาติได้ทุกตัว ของเราไม่มี อยู่แต่ห้องแอร์ ไม่เป็นธรรมชาติเลย ช่วงอากาศหนาว ซึ่งสั้นมาก อาจออกมาได้วันละ 1-2 ชั่วโมงแต่ก็เพียงไม่กี่วัน…และเป็นสวนเล็กๆ งบในการเช่าหมีแพนด้าก็สูงมาก และกระแสแพนด้าก็ไม่แรงแล้ว …กระแสช้างไทยต่างหากที่มาแรง…
ขอบอกเลยนะคะ เอางบมาช่วยเรื่องทำแหล่งอาหารสัตว์ดีกว่า โดยเฉพาะสัตว์ป่า ที่ปีหน้าจะแล้งหนัก…
ก็ไม่ทราบจะมีใครฟังเราไหม… ถ้าท่านใดเห็นด้วย กรุณาช่วยดิฉันให้เสียงนี้ดังๆนะคะ…
หลังจากนั้นมีผู้แสดงความเห็นส่วนใหญ่ไม่เห็นด้วย กับการนำแพนด้าตัวใหม่มายังประเทศไทย ควรจะไปให้ความสนใจ ใส่ใจ ดูแลช้างไทย ควรจะนำช้างไทยกลับบ้านมากกว่า และควรที่จะเลิกใช้สัตว์เป็นการเชื่อมความสัมพันธ์ระหว่างประเทศได้แล้ว
ด้าน นายวุฒิชัย ม่วงมัน ผู้อำนวยการสวนสัตว์เชียงใหม่ เปิดเผยว่า การที่สวนสัตว์เชียงใหม่จะได้แพนด้าตัวใหม่มาหรือไม่ ขึ้นอยู่กับการหารือระหว่างรัฐบาลไทยและรัฐบาลจีน ซึ่งที่ผ่านมาทางสวนสัตว์เชียงใหม่ได้ดูแลแพนด้าเป็นอย่างดี อย่างสุดความสามารถ สำหรับ MOU ที่จะหมดลงในเดือนตุลาคมที่จะถึงนี้ ก็เป็นเรื่องปกติตามข้อตกลงที่กำหนดไว้
อย่างไรก็ตามแม้ว่า MOU จะหมดลงแต่การทำงานของทีมสัตวแพทย์ ทีมนักวิจัย รวมถึงทีมงานของสวนสัตว์เชียงใหม่ ก็ยังมีการทำงาน ประสานงาน พูดคุยกับทางทีมงานของจีนอยู่อย่างต่อเนื่อง แต่ในอนาคตหากว่ารัฐบาลไทย-จีน เจรจากันแล้วว่าจะมีการส่งแพนด้าตัวใหม่มา ทางการจีนก็จะต้องมีการส่งเจ้าหน้าที่ ส่งผู้เชี่ยวชาญมาตรวจสอบพื้นที่ ดูสถานที่เลี้ยง ส่วนจัดแสดง รวมถึงการดูแลแพนด้าอย่างละเอียดอีกครั้งหนึ่ง ซึ่งทุกอย่างจะต้อง มีขั้นตอนอย่างเหมาะสม
ด้านนายพัลลภ แซ่จิว นายกสภาอุตสาหกรรมท่องเที่ยวจังหวัดเชียงใหม่ เปิดเผยว่า การที่จังหวัดเชียงใหม่ และประเทศไทยมีแพนด้าถือเป็นเรื่องที่ดีอยู่แล้วในด้านของการท่องเที่ยว และเศรษฐกิจ เพราะแพนด้าเป็นสัตว์ที่น่ารัก เป็นที่รักของคนทุกเพศทุกวัย และไม่ใช่ว่าทุกประเทศจะมีแพนด้า ดังนั้นการที่จังหวัดเชียงใหม่ มีแพนด้าคนในจังหวัดใกล้เคียง คนในประเทศ รวมถึงชาวต่างชาติที่อยู่ใกล้ ๆประเทศไทยก็เดินทางมาชมที่จังหวัดเชียงใหม่ เพราะค่าใช้จ่ายถูกกว่าที่จะเดินทางไปดูที่ประเทศจีน
สำหรับประเด็นที่มีการถกเถียงเรื่องการนำแพนด้าตัวที่ 3 มายังประเทศไทยนั้น ตนมองว่าต้องแบ่งออกเป็นแง่มุม ในมุมแรกคือ แพนด้าถือเป็นสัญลักษณ์ของความสัมพันธ์อันดีระหว่างไทย-จีน การที่ทางการจีนส่งแพนด้ามายังประเทศไทยให้ไทยเป็นผู้ดูแล ก็แสดงว่าทางการจีนให้ความไว้วางใจกับประเทศไทยที่จะดูแลแพนด้า
ในอีกแง่มุมหนึ่งคือ การที่เด็กๆ จะได้เห็นแพนด้าตัวเป็นๆ ซึ่งอาจจะสามารถสร้างแรงบันดาลใจให้กับเด็ก เหล่านั้นได้ อย่างไรก็ตามผู้คนก็อาจจะไม่ได้ตื่นเต้นเท่ากับครั้งแรกที่แพนด้ามายังประเทศไทย เพราะหลายๆ คนก็เคยเห็นแล้ว แต่ก็มีคนที่ยังไม่เคยเห็นและอยากเห็นเช่นกัน
ขณะเดียวกัน จากการสอบถามความเห็นของชาวเชียงใหม่ส่วนหนึ่ง มีความเห็นต้องการให้นำแพนด้า ตัวที่ 3 มายังประเทศไทย แต่ต้องมีการปรับปรุงสถานที่ เนื่องจากพื้นที่ที่ให้แพนด้าอยู่ในปัจจุบันจะคับแคบเกินไป แต่ประชาชนบางส่วน "ไม่เห็นด้วย" เนื่องจากรู้สึกสงสาร ควรให้สัตว์อยู่ในที่ของมันควรหันมาดูแลช้างไทยดีกว่า ให้ต่างชาติเห็นว่า ช้างไทยสวยงาม ให้เขาเดินทางมาเที่ยวที่ไทย จะได้สนับสนุนช้างไทยอย่างถูกทาง และไทยก็จะได้รายได้ทางการท่องเที่ยวด้วย
จักรินทร์ นมนาน จ.เชียงใหม่
ข่าวที่เกี่ยวข้อง