ศิษย์ช็อก 'พระครูพิทักษ์บุญสาร' พระนักเทศน์ ชื่อดัง วูบล้ม มรณภาพ ในกุฏิ

นับเป็นการสูญเสียพระปฎิบัติดีอีกรูป หลังตำรวจรับแจ้งเหตุ “พระครูพิทักษ์บุญสาร” พระนักเทศน์ชื่อดัง วูบล้ม มรณภาพ ภายในกุฎิวัด โดยพนักงานสอบสวน สภ.เมืองสุพรรณบุรี พร้อมแพทย์เวร โรงพยาบาลศูนย์เจ้าพระยายมราช เข้าตรวจสอบ ภายในกุฏิวัดบำรุงราษฎร์ (โพธิ์เขียว) ต.ทับตีเหล็ก อ.เมือง จ.สุพรรณบุรี พบร่างพระครูพิทักษ์บุญสาร อายุ 61 ปี เจ้าอาวาสวัด มรณภาพอยู่บริเวณประตูห้องน้ำ ซึ่งอยู่ติดกัน จากการตรวจสอบเบื้องต้น ไม่พบร่องรอยการต่อสู้ และบาดแผลถูกทำร้าย มีเพียงรอยถลอกเล็กน้อยที่หน้าผาก

จากการสอบถาม นายวันเพ็ญ พัดศรี 75 ปี พี่ชาย “พระครูพิทักษ์บุญสาร” ซึ่งเดินทางมาดูที่เกิดเหตุ เล่าว่า หลวงพ่อมาบวชจำพรรษาที่วัดนี้เกือบ 40 ปีแล้ว โดยหลังจากบวชได้ประมาณ 7 พรรษา ชาวบ้านก็ให้ความเคารพศรัทธา และให้ดำรงตำแหน่งเจ้าอาวาสเรื่อยมา กระทั่งได้เลื่อนสมณศักดิ์เป็นพระครู

ที่ผ่านมา หลวงพ่อเป็นพระนักเทศน์ สอนธรรมะให้ญาติโยมทางอากาศ เนื่องจากหลวงพ่อได้ขออนุญาต ตั้งสถานีวิทยุชุมชนไว้ที่วัด เพื่อเผยแผ่ธรรมะ โดยมีสโลแกน “การเมืองไม่ยุ่งมุ่งแต่ธรรมะ” ข่าวสารทางราชการ และเพลงสบายๆ โดยหลวงพ่อจะเทศน์ออกอากาศ สอนธรรมะญาติโยมในช่วงเช้าทุกวัน เป็นที่ถูกอกถูกใจของผู้เฒ่าผู้แก่ ที่ได้ฟังเทศน์ฟังธรรมะช่วงวันธรรมดา ที่ไม่ใช่วันพระ แต่ระยะหลัง หลวงพ่อสุขภาพไม่ค่อยแข็งแรง เนื่องจากมีโรคประจำตัวหลายอย่าง ทั้งโรคเบาหวาน โรคกระดูก ต้องเข้ารับการผ่าตัด

เมื่อประมาณ 2 ปีที่ผ่านมา หลวงพ่อได้หยุดเทศน์ และหยุดจัดรายการวิทยุ เพราะต้องรักษาอาการอาพาธ อยู่ในกุฏิเพียงลำพัง จะมีญาติโยมลูกหลาน และพระลูกวัด ช่วยจัดหาอาหารมาถวาย ก่อนเกิดเหตุ หลวงพ่อก็อยู่ในกุฏิเพียงลำพัง โดยปิดประตูล็อกกลอนภายใน เมื่อเวลาเพล พระลูกวัดนำอาหารมาถวาย เคาะประตูเรียกแต่หลวงพ่อไม่ตอบ โทรศัพท์หาหลวงพ่อก็ไม่รับ จึงโทรไปหาญาติให้มาดู เมื่อญาติมาถึง ได้เดินไปด้านหลังกุฏิ ปีนดูช่องลมห้องน้ำ ก็พบร่างหลวงพ่อนอนคว่ำหน้าแน่นิ่ง จึงช่วยกันงัดประตูเข้าไปดู ก็พบว่าหลวงพ่อมรณภาพแล้ว

ทั้งนี้ ญาติไม่ติดใจสาเหตุการมรณภาพ เพราะเชื่อว่าขณะหลวงพ่อเข้าไปปฏิบัติภารกิจส่วนตัวเสร็จแล้ว กำลังจะเดินกลับห้อง เกิดลื่นล้ม หรือเกิดอาการวูบจากโรคประจำตัว ทำให้มรณภาพ อย่างไรก็ตาม ตำรวจจะส่งร่างพระครูพิทักษ์บุญสาร ไปตรวจพิสูจน์ สาเหตุการมรณภาพอย่างละเอียดอีกครั้ง เพื่อจะได้ดำเนินการตามขั้นตอนต่อไป

โดยภายหลังทราบข่าว ญาติโยม รวมทั้งลูกศิษย์ ต่างเดินทางมาที่วัด ท่ามกลางความเศร้าโศกเสียใจ เพราะเป็นพระนักเทศน์ที่ครองใจชาวบ้าน