เปิดแล้ว 'ตลาดปันรักษ์' แห่งที่ 4 ชิมช้อปสินค้าท้องถิ่น

สำนักงานพัฒนาเศรษฐกิจจากฐานชีวภาพ (องค์การมหาชน) หรือ BEDO (เบโด้) สังกัดกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมเปิดตัว "ตลาดปันรักษ์" แห่งที่ 4 อย่างเป็นทางการที่ชุมชนเกาะกลาง บ้านคลองกำ คลองประสงค์ จ.กระบี่

 
นางสุวรรณา เตียรถ์สุวรรณ ผู้อำนวยBEDO กล่าวว่า เบโด้ต้องการสนับสนุนส่งเสริมให้ชุมชนนำทรัพยากรชีวภาพที่มีอยู่ในท้องถิ่นมาพัฒนาให้เกิดคุณค่าและประโยชน์ในเชิงเศรษฐกิจควบคู่ไปกับการอนุรักษ์ จนเกิดโมเดลเศรษฐกิจใหม่ที่เรียกว่า BEDO-BCG ครอบคลุมทั้ง เศรษฐกิจชีวภาพ (B) เศรษฐกิจหมุนเวียน (C) และเศรษฐกิจสีเขียว (G) เนื่องจากเบโด้เข้าไปสำรวจทุกกระบวนการตั้งแต่ต้นน้ำจนถึงปลายน้ำ ส่งเสริมด้านการพัฒนาสินค้าจากความหลากหลายของทรัพยากรที่มีอยู่ในพื้นที่นั้นๆ

โดยมีการพัฒนาเศรษฐกิจให้กับชุมชน 2 แนวทาง คือ

-ชุมชนที่มีผลิตภัณฑ์แปรรูปที่ได้มาตรฐาน เก็บไว้ได้นาน สามารถนำไปจำหน่ายยังที่ไกลๆได้ ก็จะใช้ช่องทางการทำตลาดทางตรง เช่น การรับฝากขายที่ร้านฟ้าใสแกลลอรี่ที่ศูนย์ราชการฯ ที่กรุงเทพฯ การให้ชุมชนออกบูธจำหน่ายสินค้า การจับคู่ธุรกิจกับช่องทางการตลาดหลัก เช่น ตลาดมินิ อตก. ไทยแลนด์โพสต์มาร์ท ขณะเดียวกัน ก็อบรมให้ชุมชนทำตลาดแบบออนไลน์ เป็นต้น 

-ชุมชนที่ไม่สามารถนำออกไปจำหน่ายนอกชุมชนได้ ก็จะสร้างการรับรู้ให้คนภายนอกเข้ามาเยี่ยมชม เพื่อทำให้เศรษฐกิจชุมชนเกิดการหมุนเวียน เบโด้เรียกการตลาดแบบนี้ว่า "ท่องเที่ยวชีวภาพ" ซึ่งดำเนินการต่อเนื่องจากปีที่แล้ว ด้วย "ตลาดปันรักษ์" มาต่อยอดสร้างรายได้ให้ชุมชนอย่างต่อเนื่อง และคาดหวังว่าความร่วมมือด้านการอนุรักษ์ทรัพยากรของชุมชนจะเข้มแข็ง เมื่อเศรษฐกิจดี สิ่งแวดล้อมดี  สังคมก็ดี

ด้านนายศุภสิทธ์ จำปาวงษ์ ผู้อำนวยการสำนักเศรษฐกิจชีวภาพ เบโด้ กล่าวเพิ่มเติม ตลาดปันรักษ์ล่าสุด คือ ตลาดปันรักษ์ สักหอย ปล่อยปู ดูนกแล เขเรือ แลหวันตก มาตะคลองประสงค์ ครั้งที่ 2 ที่บ้านคลองกำ คลองประสงค์ จ.กระบี่ และนับแห่งที่ 4 ที่ เบโด้เปิดตัวอย่างเป็นทางการ และได้เปิดพื้นที่ทุกวันเสาร์-อาทิตย์ 

โดยตลาดปันรักษ์แห่งนี้ มีลักษณะเป็นเกาะใกล้เมือง ทำตลาดชุมชนในกิจกรรมท่องเที่ยวชีวภาพ นำผลผลิต ผลิตภัณฑ์ อาหารพื้นบ้าน มาจำหน่าย เพื่อสร้างรายได้ และจะสามารถขับเคลื่อนเศรษฐกิจชุมชนได้เป็นอย่างดี  และสนับสนุนให้ชุมชน "ลด ละ เลิก" การใช้โฟม พลาสติก โดยเฉพาะพลาสติกแบบใช้ครั้งเดียว เพื่อช่วยลดขยะที่สร้างภาวะโลกร้อน 

นอกจากนี้ยังจะสามารถเยี่ยมชมกลุ่มวิสาหกิจชุมชนอื่นๆ ซึ่งเปิดเป็นศูนย์การเรียนรู้ให้แก่ผู้สนใจด้วย อาทิ กลุ่มผลิตภัณฑ์ผ้ามัดย้อม ซึ่งมัดย้อมด้วยสีธรรมชาติที่มีอยู่ในชุมชน เช่น เปลือกไม้แสม เปลือกไม้โกงกาง ใบหูกวาง ใบสาบเสือ ฯลฯ กลุ่มผลิตภัณฑ์ผ้าปาเต๊ะบ้านคลองประสงค์ และศูนย์เลี้ยงชันโรงบ้านคลองประสงค์ ฯลฯ และยังมี "ธนาคารความหลากหลายทางชีวภาพระดับชุมชน" เพื่อเก็บรวบรวมและจดบันทึกการเติบโตของต้นกาแฟโรบัสต้า ซึ่งเป็นสายพันธุ์ที่ได้รับความนิยม ด้วยสัดส่วนประมาณ 20% รอง จากสายพันธุ์อราบิก้า 

โดยพื้นที่ในจ.กระบี่ ปลูกอยู่ 3 อําเภอ คือ ลําทับ, คลองท่อม และปลายพระยา เฉพาะในชุมชนลําทับมีไร่กาแฟประมาณ 100 ไร่ ไร่ละ 200 ต้น โดยที่การปลูกกาแฟส่วนใหญ่มีลักษณะเป็นสวนผสม มีต้นกาแฟเป็นหลักและปลูกผลไม้แซม ราคากาแฟขี้ชะมดสูงถึง 2 หมื่นบาท/กก. ราคาขายต่อช็อตอยู่ที่ 300 บาท เบโด้จึงนำเสนอ "กาแฟขี้ชะมด" ว่าเป็นพืชที่สร้างเศรษฐกิจชีวภาพให้คนในพื้นที่อีกด้วย