'หมอ' ช็อก ทำงานสุจริต มีสิทธิติดคดี เจอ หมายจับ กลางสนามบิน

ประเด็นดราม่า “หมอลาออก” ยังไม่จบดี มีประเด็นใหม่ที่เกิดขึ้นกับ “หมอ” อีกครั้ง เมื่อ คุณหมอท่านหนึ่ง สะท้อนเรื่องราว ที่ไม่น่าเกิดขึ้นกับตัวเอง หลังจากที่ตัวเองโดน “หมายจับ” ทั้งที่ไม่ได้ทำความผิดอะไร เพราะมีหมายเรียกให้มาเป็นพยานในศาล กรณีคดีแพ่ง แล้วหมอไม่ได้ไป จนถูกหมายจับ

 

 

 

ซึ่งทาง นายกสมาคมแพทย์นิติเวชแห่งประเทศไทย มองว่า ถือเป็นเรื่องใหญ่ระดับหนึ่ง เพราะหมอเหมือนโดนกลั่นแกล้งจากระบบยุติธรรม

 

“หมอ” โรงพยาบาลประจำจังหวัดแห่งหนึ่ง ในเขตปริมณฑล โพสต์ข้อความว่า รับราชการมานาน 13 ปี ตั้งใจทำงานด้วยความซื่อสัตย์ สุจริต และที่อยากจะพูดเลยคือ ไม่ค่อยมีโอกาสได้ไปเที่ยวแบบใครๆ เขา อย่างปีใหม่ที่ผ่านมานี้ ถึงไม่ได้อยู่เวร ก็ยังต้องไปสแตนบายงานราชการนอกสถานที่ ก็ยินดีไปนะเพื่อช่วยราชการ

 

 

 

แต่แล้ววันหนึ่ง เมื่อมีโอกาสพาครอบครัวได้ไปเที่ยว โดยอาศัยช่วงวันหยุดสงกรานต์ จองทัวร์ ทำพาสปอร์ต จ่ายเงินเรียบร้อย จนถึงวันเดินทาง คือวันที่ 13 เม.ย 2566 ที่ผ่านมา ได้ไปเจอที่จุดนัดพบของกลุ่มทัวร์ แล้วจึงเข้าเช็คอินกับสายการบิน จากนั้น จึงไปที่ด่าน ตม. แต่ก็ต้องเจอเรื่องช๊อก เพราะติด ตม. เนื่องจากมีหมายจับจากศาลแพ่งธนบุรี  

 

 

“หน้านี้หดลงเหลือสองนิ้ว ความภาคภูมิใจในวิชาชีพ ความมั่นใจในความสามารถ ลงไปกองกับคุกกับตาราง อับอายต่อกลุ่มทัวร์ และคนผ่านไปผ่านมาขนาดไหนไม่ต้องพูดถึง เป็นครั้งแรกในชีวิต ที่เพิ่งเคยเข้าใจคำว่า อยากแทรกแผ่นดินหนีจริงๆ ลูกๆ เราก็ผิดหวังมากนะ ก็ไม่ได้เที่ยวต่างประเทศมาตั้งแต่ 2019 และสุดท้ายทริปเราก็ล่มลง” คุณหมอโพสต์ระบาย

 

จุดเริ่มต้นของเรื่องเกิดขึ้นได้อย่างไร

 

 

“หมอ” เล่าว่า หมายจับที่ได้รับ มาจากการถูกออกหมายเรียก เพื่อเป็นพยานผู้เชี่ยวชาญ ไม่มีส่วนได้ส่วนเสียกับคดี

 

• หมายแรก มาที่โรงพยาบาล และได้ทำหนังสือขอเลื่อนไปเป็นที่เรียบร้อยแล้ว เนื่องจากติดภารกิจ ไม่สามารถไป หนังสือเลื่อน ศาลก็ได้รับอยู่ในสำนวนด้วย
• หมายที่สอง ส่งไปที่บ้าน ทั้งที่หมายแรกส่งไปที่โรงพยาบาล ตอนนั้นก็งง แต่ก็ถือว่าชอบด้วยกฎหมาย เออ!!กระบวนการยุติธรรม
• หมายที่สาม กลับส่งไปที่บ้านเหมือนเดิม แต่หมอได้มีการย้ายบ้านไปก่อนหน้านั้นแล้วเป็นเดือน 

 

สุดท้าย ก็โดนหมายจับ พร้อมกับหมออีกคนหนึ่ง ซึ่งก็ส่งหมายไปที่บ้านเก่าเช่นเดียวกัน

 

หมอ เล่าต่อว่า จากประสบการณ์การขึ้นศาล ทำให้รู้สึกว่า ผู้พิพากษา อัยการ และทนายทุกคน ต่างเป็นผู้มีความรู้ความสามารถ และใจรักในความยุติธรรมทั้งสิ้น ต่างคนต่างตั้งใจทำในบทบาทของตนเองอย่างเต็มความสามารถ เชื่อเสมอว่า ถ้าเราอยู่ข้างความถูกต้อง ก็ไม่ต้องกลัวอะไร ทำให้ไม่กลัวการขึ้นศาล และยินดีให้ความร่วมมือมาตลอด เพราะเป็นคนเคารพวิชาชีพตัวเองมาก ทุกอย่างทำด้วยความตั้งใจเสมอมา แต่ไม่คิดว่าจะต้องมาเจอกับเรื่องพวกนี้

 

 

หมอบอกสาเหตุที่ออกมาบอกเล่าเรื่องราวว่า เพราะมองว่า เรื่องพวกนี้สามารถเกิดขึ้นกับหมอคนไหนก็ได้ รวมไปถึงอาจจะเกิดขึ้นกับตัวเองอีกเมื่อไหร่ก็ได้เช่นเดียวกัน อยากให้หมอ และทุกคนระวังเอาไว้จะได้ไม่เสียหายเหมือนกัน แต่ที่ทำให้น่าประหลาดใจมากไปกว่านั้น ในวันที่ไปขึ้นศาล มีผู้ใหญ่ท่านหนึ่ง กล่าวว่า หมายจับที่ส่งไปที่อยู่เก่า ก็ชอบออกหมายกันแบบนี่แหละ ไม่จำเป็นต้องออกถูกที่ ไม่งั้นผู้ร้ายก็จะหลบหนี  ส่วนตัวที่ออกมาเล่าเพราะยังเชื่อมั่นในความยุติธรรมนะ แม้สิ่งที่เจอมันจะเฮงซวย

 

 

ด้าน หมอสมิทธิ์ ผศ.นพ.สมิทธิ์ ศรีสนธิ์ นายกสมาคมแพทย์นิติเวชแห่งประเทศไทย ระบุว่า เหมือนหมอโดนกลั่นแกล้ง จากระบบยุติธรรม เพราะตามกฎหมายจะถือว่า ภูมิลำเนาของข้าราชการ ได้แก่ถิ่นอันเป็นที่ทำการตามตำแหน่งหน้าที่ (ประมวลกฎหมายแพ่งฯ มาตรา 46) นอกจากนี้ การส่งหมายเรียกครั้งที่ 3 ที่เป็นเหตุของการออกหมายจับต่อมา ยังปิดหมายผิดบ้านด้วย เพราะหมอได้ย้ายออกจากบ้านที่ปิดหมายนั้นไปแล้ว แต่ทนายของโจทก์ในคดี ไม่คัดทะเบียนราษฎร์ก่อน แต่ใช้เอกสารเก่าที่มีอายุเกินกว่า 6 เดือน

 

 

หมอสมิทธิ์ ระบุว่า อยากถามว่าการกระทำแบบนี้ ถือว่าเป็นการให้หมายเรียกโดยชอบ จนออกหมายจับได้หรือไม่ แล้วมีความจำเป็นแค่ไหนที่ต้องออกหมายจับว่าขัดขืนไม่มาศาล กับแพทย์ที่มีที่ทำงานชัดเจน เพื่อให้มาเป็นพยานในคดีแพ่ง

 

 

นอกจากนั้น คดีนี้ แพทย์ที่โดนหมายจับไม่ได้มีคนเดียว มีแพทย์อีกคนที่ทำงานโรงพยาบาลเดียวกันโดนหมายจับด้วย แต่โชคดีที่แพทย์คนแรกทำการตรวจสอบจนพบว่า แพทย์อีกคนก็โดนหมายจับ (หมายเรียกไม่ได้ส่งไปที่โรงพยาบาลเช่นเดิม) ไม่งั้นแพทย์อีกคนก็ติดที่ ตม. เหมือนแพทย์คนแรก เพราะมีกำหนดเดินทางไปประชุมที่ต่างประเทศ ในอีกไม่นาน

 

“ผมเศร้าใจครับ สักวันแพทย์ที่ทำหน้าที่โดยปกติ อยู่ดีๆ อาจโดนหมายจับ โดยไม่มีความจำเป็นแบบนี้ อยากเรียกร้องไปถึงสภาทนายความ กับ คณะกรรมการตุลาการศาลยุติธรรม ให้ตรวจสอบเรื่องนี้ด้วยครับ”