'อธิบดีกรมการข้าว' สั่งสอบ 2 โครงการยักษ์ส่อทุจริต พบผิดจริงฟันไม่เลี้ยง

นายณัฏฐกิตติ์ ของทิพย์ อธิบดีกรมการข้าว สั่งตรวจสอบ 2 โครงการใหญ่ หลังมีการร้องเรียนแอบอ้างชื่ออธิบดีเพื่อแสวงหาผลประโยชน์และการเบิกจ่ายเมล็ดพันธุ์เกินสิทธิกว่าที่เกษตรกรจะได้รับ

โดยในปี 2566 กรมการข้าวได้ดำเนินงานโครงการที่สำคัญ 2 โครงการ คือ

1. โครงการส่งเสริมการลดต้นทุนการผลิตข้าวรักษ์โลก BCG MODEL ได้รับการร้องเรียน นำชื่ออธิบดีกรมการข้าว ไปแอบอ้างการให้ซื้อเครื่องจักรตามที่กำหนด ซึ่ง "ไม่เป็นความจริง" 

ซึ่งข้อเท็จจริงอธิบดีกรมการข้าว สั่งการไปยังศูนย์ข้าวชุมชนที่เข้าร่วมโครงการว่า "ควรเลือกซื้อเครื่องมือทางการเกษตรในการทำนาโดยให้คำนึงถึงคุณภาพและประสิทธิภาพของเครื่องมือ เครื่องจักร ให้เกิดประโยชน์สูงสุด และตรงตามความประสงค์ที่แท้จริงของศูนย์ข้าวชุมชน" ส่วนเครื่องมือจัดซื้อควรต้องมีศูนย์บริการหลังการขายในพื้นที่ เพื่อให้ง่ายต่อการซ่อมบำรุง และที่สำคัญควรมีการรับประกันอย่างน้อย 1 – 2 ปี 

ดังนั้นฝากไปยังประธานศูนย์ข้าวชุมชนทุกศูนย์ อย่าหลงเชื่อ หากมีผู้ใดนำชื่ออธิบดีกรมการข้าวไปแอบอ้างหลอกลวงให้มาซื้อเครื่องจักรของตน

2.โครงการส่งเสริมการเปลี่ยนเมล็ดพันธุ์ข้าว ปี 2566 มีการร้องเรียน เบิกจ่ายเมล็ดพันธุ์เกินสิทธิกว่าที่เกษตรกรจะได้รับ รวมถึงเกษตรกรที่มีชื่อรับเมล็ดพันธุ์แต่กลับไม่ได้รับเมล็ดพันธุ์ 

อธิบดีกรมการข้าวจึงได้ตั้งคณะกรรมการสอบข้อเท็จจริง ก่อนรายงานผลภายใน 15 วัน หากพบว่า มีการทุจริตจริงจะดำเนินการตามกฏหมายทั้งทางวินัย ทางแพ่ง และทางอาญา 

นายณัฏฐกิตติ์ ยืนยันอย่างหนักแน่น กรมการข้าวมีความต้องการให้พี่น้องเกษตรกรชาวนาได้รับผลประโยชน์จากโครงการต่างๆให้มากที่สุด เคยตรวจพบและดำเนินการทางวินัยกับเจ้าหน้าที่เกี่ยวกับกรณีทุจริตการยักยอกเงินค่ารักษาพยาบาลและค่าเล่าเรียนบุตรของเจ้าหน้าที่ศูนย์วิจัยข้าวพัทลุง และศูนย์วิจัยข้าวแม่ฮ่องสอนมาแล้ว 

"ผมจะไม่ยอมให้เกิดการทุจริตใดๆขึ้นอีก ดังนั้นทั้ง 2 โครงการดังกล่าว ผมจะทำให้เกิดความโปร่งใส เพื่อให้เกษตรกรได้ใช้เมล็ดพันธุ์ดีในการเพาะปลูก สามารถลดต้นทุนและเพิ่มผลผลิต ได้รับเครื่องไม้เครื่องมือที่ดีมีคุณภาพ ใช้ประโยชน์อย่างคุ้มค่า สามารถลดต้นทุนการผลิตได้จริง หากพบว่าในโครงการใดการมีการทุจริตเกิดขึ้น กรมการข้าวจะดำเนินการตามกฏหมายอย่างเด็ดขาด ย้ำ ผมฟันไม่เลี้ยง" อธิบดีกรมการข้าว กล่าว