WHO ยุติภาวะฉุกเฉิน 'โรคฝีดาษลิง' พบติดเชื้อลดลงเกือบ 90% ใน 3 เดือน

องค์การอนามัยโลก (WHO) ได้ประกาศให้ 'โรคฝีดาษลิง' (Monkeypox) ไม่เป็นภาวะฉุกเฉินทางสาธารณสุขระหว่างประเทศ (PHEIC) อีกต่อไป ภายหลังที่มีการระบาดของโรคมาเกือบ 1 ปี

ดร.เตโวโดรส อัดฮาโนม กีบรีเยซุส ผู้อำนวยการใหญ่องค์การอนามัยโลก (WHO) กล่าวว่า เขายอมรับคำแนะนำของคณะกรรมการฉุกเฉินของ WHO เรื่อง ฝีดาษลิง เพื่อยกเลิกการเตือนภัยขั้นสูงสุด ซึ่งจะเห็นว่าในช่วง 3 เดือนที่ผ่านมามีรายงานผู้ป่วยติดเชื้อโรคฝีดาษลิงลดลงเกือบ 90%

"ฝีดาษลิงยังคงเป็นความท้าทายด้านสาธารณสุขที่สำคัญ ซึ่งต้องการการรับมือที่เข้มข้น เป็นไปในเชิงรุก และมีความยั่งยืน"

การประกาศยุติภาวะฉุกเฉินด้านสาธารณสุขสำหรับ 'โรคฝีดาษลิง' ชี้ให้เห็นว่า ไวรัสที่สามารถแพร่กระจายผ่านการสัมผัสโดยตรงกับของเหลวในร่างกาย และทำให้เกิดอาการคล้ายไข้หวัดและรอยหนองตามผิวหนังสามารถควบคุมได้แล้ว

ขณะที่รายงานล่าสุดของ WHO พบมีผู้ติดเชื้อมากกว่า 87,000 ราย ทั่วโลก ตั้งแต่ปี 2022 จนถึง 8 พฤษภาคม 2023 และเสียชีวิต 140 ราย ใน 111 ประเทศทั่วโลก

ดร.อนันต์ จงแก้ววัฒนา นักไวรัสวิทยา ไบโอเทค สวทช. โพสต์เฟซบุ๊ค Anan Jongkaewwattana ภายหลังที่ WHO ประกาศถอด 'ฝีดาษลิง' ออกจากบัญชีภาวะฉุกเฉินทางสาธารณสุขระหว่างประเทศ ซึ่งก็มีคำถามใหม่ๆ จาก CDC เกี่ยวกับเคสที่เพิ่งเกิดขึ้นที่ชิคาโก้ สหรัฐอเมริกา ที่คลัสเตอร์ผู้ป่วยฝีดาษลิงเป็นผู้ได้รับวัคซีนมาเรียบร้อยแล้ว

1. ทำไมถึงติดได้อีกทั้งๆ ที่เพิ่งฉีดวัคซีนไปไม่นาน 

2. ติดเพราะภูมิผู้ป่วยขึ้นไม่ดีหรือภูมิตกไว 

3. ไวรัสวันนี้เปลี่ยนไปจากปีก่อนหรือเปล่า

คำถามแบบนี้แสดงว่าเรายังรู้อะไรน้อยมากเกี่ยวกับไวรัสตัวนี้ ไวรัสไม่ได้หายไปจากประชากรมนุษย์ตาม WHO แน่นอน