ข่าว

'ธุรกิจจีนเทา' ยังไม่จบ ปักหลัก ลุกลาม ขยายอาณาจักร แล้วหอบเงินหนีมหาศาล

เกาะติดข่าวสาร >> คมชัดลึก ออนไลน์
logoline

'ธุรกิจจีนเทา' ยังไม่จบแค่ ตู้ห่าว ผุดข้อมูล ปักหลัก ลุกลาม ขยายอาณาจักร ครอบงำธุรกิจของคนไทยเกือบ 100% แล้วหอบเงินหนีมหาศาล

ดูเหมือนจะยังกวาดล้างไม่หมดไม่สิ้น สำหรับเครือข่าย "ธุรกิจจีนเทา" แม้ว่าเมื่อ 3 ปีที่แล้วเจ้าหน้าที่ตำรวจจะจริงจังกับการไล่จับ ทัวร์ศูนย์เหรียญ ที่สร้างความเสียหายทางเศรษฐกิจให้กับประเทศไทยไปจำนวนมากมหาศาล และเมื่อเร็วๆ นี้ ก็มีการกวาดล้างเครือข่าย ตู้ห่าว นักธุรกิจชาวจีนที่เข้ามาสร้างอาณาจักร กว้าวซื้อที่ดิน เข้าหาคนมีสี ทำธุรกิจผิดกฎหมาย ซึ่งเป็นการทะลายเครือข่าย "ธุรกิจจีนเทา" ล็อตใหญ่ของประเทศไทยเลยก็ว่าได้  

 

 

แต่ไม่ว่าจะทะลายเครือข่าย หรือไล่จับ "ธุรกิจจีนเทา" แค่ไหนก็ดูเหมือนว่าการลุกลานของทุนจีนในประเทศไทยจะยังไม่หมกไปง่าย ๆ เพราะล่าสุดมีการไล่ล่า ตามกวาดล้าง ทัวร์อั้งยี่ กันต่อซึ่งพฤติกรรมของ ทัวร์อั้งยี่ นั้นเรียกได้ว่าเป็นการทำธุรกิจที่กวาดเรียบ 100% ตั้งแต่จองทัวร์ จองโรงแรม ร้านของฝาก ไปจนถึงการใช้ไกด์เถื่อนที่ไม่ใช่คนไทย ซึ่งหากยังไม่รีบกวาดล้าง คาดว่าสร้างความเสียหายให้แก่ประเทศอย่างมาก

การกวาดล้าง "ธุรกิจจีนเทา" ในประเทศไทยดูเหมือนว่าจะไม่จบสิ้นกันง่าย ๆ เพราะมีการฝั่งรกรากกันมาอย่างยาวนานนับ 10 ปี แต่ ธุรกิจจีนเทา เริ่มแผร่อิทธิพลมากขึ้นนั้นเกิดขึ้นในช่วงที่ โควิด-19 ระบาด  เพราะปฏิเสธไม่ได้เลยว่า ในช่วงที่เกิดการระบาดเศรษฐกิจไทยซบเซาลงอย่างมาก ธุรกิจโรงแรม ทัวร์ท่องเที่ยว ร้านอาหารทะยอยปิดกิจการไปเป็นแถบๆ  จนในที่สุดก็กลายเป็นช่องว่างให้ กลุ่มทุนจีน เข้ามาเทคโอเวอร์กิจการเพราะเดินต่อไม่ไหว และเก็บกิจการไว้ไม่ได้

  • จุดเริ่มต้น "ธุรกิจจีนเทา" ปักหลัก กว้านซื้อ เปิดกิจการในประเทศ

 

นายปารเมศ วิทยารักษ์สรรค์ ว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.เขตพระนคร ป้อมปราบศัตรูพ่าย สัมพันธวงศ์  พรรคก้าวไกล ให้สัมภาษณ์กับคมชัดลึก ว่า คนจีนเริ่มเข้ามาทำธุรกิจในประเทศไทยตั้งแต่เมื่อ 10 ปีที่ผ่านมา เริ่มแรกกลุ่มทุนจีนนั้นเข้มาในรุปแบบพ่อค้าคนกลางก่อน หลังจากนั้นก็ค่อยๆ เปิดกิจการร้านอาหารในประเทศไทย โดยใช้นอมินีเป็นคนไทย เพราะตามกฎหมายของไทย หากต่างชาติจะเข้ามาเปิดธุรกิจในประเทศนั้นจะมีค่าใช้จ่าย เงื่อนไข ที่มีต้นทุนสูง ดังนั้นกลุ่มคนจีนที่อยากทำธุรกิจ เพราะมองเห็นโอกาสที่จะโกยเงินจากคนชาติเดียวกัน และคนไทยมีค่อนข้างมา จึงใช้วิธีการให้คนไทยเป็นนอมินีจดทะเบียนธุรกิจแทน ในช่วงแรกคนจีนมีการจ้างนอมินีเปิดแค่ร้านอาหารเท่านั้น ยังไม่ได้ลุกลามมาถึงธุรกิจอื่น ๆ  แต่ในช่วงที่เกิดโควิดระบาดย้อนกลับไปเมื่อประมาณ 3 ปี ทุนต่างชาติ โดยเฉพาะทุนจีน เริ่มรุกคืบเข้ามาในประเทศไทย และขยายไปยังธุรกิจอื่น ๆมากขึ้น โดยเฉพาะ ทัวร์ศูนย์เหรียญ ที่นับว่าเป็นการทำธุรกิจที่มีเม็ดเงินหมุนเวียนจำนวนมาก แต่เงินเหล่านั้นกลับหมุนออกนอกประเทศไปหมดจนไทยไม่ได้ประโยชน์อะไรเลย แต่กลับโดนใช้ทรัพยากรณ์พื้นที่เป็นทำธุรกิจแบบเลี่ยงภาษี 

 

 

นอกจากนี้ยังพบว่า เมื่อราว ๆ 5-7 ปีก่อนในช่วงที่ สี จิ้นผิง ประธานาธิบดีของสาธารณรัฐประชาชนจีน เริ่มเอาจริงเอาจังกับการกวาดล้างธุรกิจสีเทา ธุรกิจใต้ดินในประเทศ ทำให้เจ้าหน้าที่นับแสน ๆ คนถูกจับเข้าคุก บรรดานักธุรกิจจึงมองหาประเทศในแทบ เอเซียตะวันออกเชียงใต้  เพื่อให้เป็นฐานในการทำ "ธุรกิจจีนเทา" พื้นที่ใหม่ จึงเลือกประเทศไทยเป็นฐานที่ตั้ง เพราะด้วยความที่มีวัฒนะธรรมที่คล้ายคลึงกัน  และประเทศไทยเป็นประเทศที่กำลังเติบโตทั้งด้านเศรษฐกิจ โครงสร้างพื้นฐานต่าง ๆ  ที่พร้อมและน่าทำธุรกิจ  รวมทั้งคนไทยยังยินดีต้อนรับคนจีนอย่างมาก ไทยจึงกลายเป็นสมรภูมิหลักในการปักหลักทำธุรกิจทั้งแบบใช้ นอมินี และ "ธุรกิจจีนเทา"

 

 

  • บุกรุกพื้นที่ตั้งรกราก ขยายอาณาจักร สร้างกิจการ และเศรษฐกิจของไทย 

 

นายปารเมศ ให้ข้อมูลเพิ่มเติมว่า นับจากนั้นเป็นต้นมาประเทศไทยก็เริ่มมีธุรกิจ ร้านอาหาร รวมไปถึงโรงแรมที่บริหารจัดการ และจ้าคนไทยเป็นผู้ดูแลบ้าง เป็นลูกจ้างบ้างเพิ่มมากขึ้นเรื่อย ๆ จนนำมาสู่การขยายอาณาเขต และธุรกิจที่ผิดกฎหมาย ไม่ว่าจะเป็น เว็บพนัน ทัวร์ศูนย์เหรียญ  เครือข่ายตู้ห้าว ทัวร์อั้งยี่  และธุรกิจบริการต่าง ๆ ไม่จนถึงธุรกิจที่ผิดกฎหมาย ค้าประเวณี โดยจากการลงพื้นที่พบว่า "ธุรกิจจีนเทา" มีการตั้งรกรากในพื้นที่กรุงเทพมหานครในย่านห้วยขวางแถบจะ 100% และปัจจุบันยังพบว่า ในย่านสำเพ็ง เสือป่า ปากคลองตลาดก็เริ่มมีการทำธุรกิจค้าปลีก ที่ขายสินค้าตีตราจีนมากยิ่งขึ้น โดยเฉพาะผลไม้ ดอกไม้ ที่พบว่าเริ่มมีการนำเข้ามาจากประเทศจีน นอกจากนี้บริเวณพื้นที่ภาคเหนือยังพบว่ามีการกวาดซื้อที่ดิน หมู่บ้าน จำนวนมากเรียกได้ว่าสร้างเป็นอาณาจักรของคนจีนกันเลยทีเดียว หนำซ้ำยังเข้ามาทำธุรกิจ ค้าขาย ดูดเงินคนไทยออกจากประเทศจำนวนมาก โดยเฉพาะความเสียหายจาก ทัวร์ศูนย์เหรียญ ที่พบว่า มีเงินจากการหลบเลี่ยงภาษีมากถึง 7 พันล้านบาท 

 

 

  • กฎหมายไม่เอื้อให้เข้าระบบ  "ธุรกิจจีนเทา" ต้องวิ่งหาคนมีสี

 

มีการตั้งข้อสังเกตว่า กฎหมายที่รัดแน่นมากจนเกินไป แต่การบังคับใช้กฎหมายกับละหลวม ทำให้กลุ่ม "ธุรกิจจีนเทา"  วิ่งเข้าหาคนมีสี นักการเมือง เพื่อหลบเลี่ยงกฎหมาย และจะได้ทำธุรกิจแบบราบรื่น โดยนายปารเมศ  ระบุว่า การขอรับใบอนุญาตประกอบธุรกิจของคนต่างด้าว (FBL) มีค่าใช้จ่ายที่สูงมาก จึงทำให้กลุ่มทุนต่างชาติต้องการเลี่ยงค่าใช้จ่าย เพราะเข้าหาผู้ที่มีอำนาจในบ้านเรา เพราะการจ่ายเงินให้คนกลุ่มนี้ถูกกว่าการจ่ายเงินขอใบอนุญาตประกอบธุรกิจ แน่นอนว่าปัญหากลุ่มทุนจีนสีเทา หรือ "ธุรกิจจีนเทา" เป็นปัญหาระดับชาติที่จะต้องเร่งแก้ไข เพราะไม่เช่นไทยกลุ่มทุนจีนจะเข้ายึดธุรกิจไปทั้งหมด และคนไทยจะกลายเป็นเพียงแค่ลูกจ้าง และเงินทั้งหมดที่ได้จากการท่องเที่ยวของท่องเที่ยวจีนจะหายออกไปจากประเทศโดยที่เราไม่ได้อะไรเลย

 

 

ดังนั้นการหาแนวทางในการเอาธุรกิจของคนจีนเข้าสู่ระบบทั้งหมด ด้วยการไม่ปิดกันการลงทุน ผ่อนคลายเงื่อนไขหรือข้อจำกัดบางอย่างที่ไม่เป็นไปเพื่อเอื้อธุรกิจผิดกฎหมายจะทำให้ประเทศไทยได้ประโยชน์มากกว่า เพราะความจริงแล้วการเปิดเสรีทางการค้าเป็นเรื่องที่สำคัญกับหลายๆประเทศรวมทั้งประเทศไทยเองด้วยเช่นกัน แต่จะต้องทำทุกอย่างให้ถูกกฎหมาย เพื่อลดช่องโหว่ในการให้อำนาจสีเทาเข้ามาจัดการ จนเป็นที่มาของยัดเงินใต้โต๊ะ วิ่งหาคนมีเส้น  

logoline

ข่าวที่น่าสนใจ