ข่าว

เรียน รด. ต้นทุนชายไทยต้องใช้จ่าย แลกไม่ต้อง 'เกณฑ์ทหาร' ทางลัดเลื่อนขั้น

เกาะติดข่าวสาร >> คมชัดลึก ออนไลน์
logoline

เรียน รด. 3 ปี ต้นทุนที่ชายไทยต้องควักกระเป๋าจ่าย แลกไม่ต้อง 'เกณฑ์ทหาร' ทางลัดเลื่อนขั้น กับความเหลื่อมล้ำทางฐานะที่ไม่สามารถเรียน รด. ได้ทุกคน

พรรคการเมืองเริ่มมีนโยบายเกี่ยวกับการปฏิรูปกองทัพ ปฏิรูปการ "เกณฑ์ทหาร" ให้มีความเหมาะสมต่อสภาพสังคมไทยมากยิ่งขึ้น ซึ่งถ้าชายไทยต้องเข้ารับการ "เกณฑ์ทหาร" ทำให้ไร้ซึ่งอิสระภาพในการใช้ชีวิตขั้นพื้นฐานรวมไปถึงเสียโอกาสในชีวิต 

 

 

 

โดยการเรียน รด. เป็นทางเลือกที่ทำให้ชายไทยสามารถหลีกเลียงการ "เกณฑ์ทหาร" ได้โดย ไม่ต้องจับใบดำใบแดง ซึ่งหลักสูตรการเรียน รด. นั้นจะเริ่มสมัครได้ในช่วงที่อายุ 16 ปีขึ้นไป แต่ต้องไม่เกิน 22 ปี จะเป็นช่วงที่เด็ก ขึ้น ม.ปลาย พอดีและหลักสูตรการเรียน รด. นั้นจะต้องมีคุณสมบัติตามเงื่อนไขดังนี้

 

 

  • เป็นชายหรือหญิง และ มีสัญชาติไทย
  • สําเร็จการศึกษาชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 หรือเทียบเท่าขึ้นไปและมีผลการศึกษาชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 ตั้งแต่ 1.00 ขึ้นไป (คิดเฉพาะชั้น ม.3 เท่านั้น)
  • มีน้ำาหนัก ส่วนสูง ขนาดรอบตัว ตามหน่วยบัญชาการ รักษาดินแดนกําหนด และต้องผ่านการทดสอบสมรรถภาพร่างกาย
  • นักศึกษาชาย ลุกนั่ง 34 ครั้ง ใน 2 นาที ดันพื้น 22 ครั้ง ใน 2 นาที วิ่ง 800 เมตร ใน 3 นาที 15 วินาที
  • นักศึกษาหญิง ลุกนั่ง 25 ครั้ง ใน 2 นาที ดันพื้น 15 ครั้ง ใน 2 นาที วิ่ง 800 เมตร ใน 4 นาที

 

ข้อมูลระบุว่า หน่วยบัญชาการรักษาดินแดนได้กําหนดระเบียบการสมัครและรายงานตัวเรียนรักษาดินแดนต้องมีคุณลักษณะและคุณสมบัติ ดังนี้

 

 

  1. เป็นชายหรือหญิงมีสัญชาติไทย
  2. อายุไม่เกิน 22 ปีบริบูรณ์ นับตามกฎหมายหว่าด้วยการรับราชการทหาร และต้องได้รับความยินยอมจาก บิดา มารดา หรือผู้ปกครอง
  3. ไม่พิการ ทุพพลภาพ หรือมีโรค ซึ่งไม่สามารถจะรับราชการทหารได้ ตามกฎหมายว่าด้วยการรับราชการทหาร ตามมาตรา 14 กฎกระทรวงฯ ฉบับที่ 7 พ.ศ.2540
  4. มีดัชนีมวลกาย (BMI) อยู่ในเกณฑ์ปกติ ชาย ต้องน้อยกว่า 35 กิโลกรัม/ตารางเมตร และหญิง ต้องน้อยกว่า 30 กิโลกรัม/ตารางเมตร (ดัชนีมวลกาย (BMI) = น้ําหนักตัว (กก) / ส่วนสูง 2 เมตร)
  5. มีน้ําหนัก ขนาดรอบตัว ขนาดส่วนสูง ตามส่วนสัมพันธ์
  6. มีความประพฤติเรียบร้อย และไม่มีพฤติกรรมที่เกี่ยวข้องกับยาเสพติดให้โทษทุกประเภท
  7. ไม่เป็นทหารประจําการ กองประจําการ หรือถูกกําหนดตัวเข้า "เกณฑ์ทหาร" แล้ว

 

ซึ่งการเรียน รด. นี้จะมีต้นทุนค่าใช้จ่ายที่ครอบครัวต้องออกเงินเอง เพราะหลักสูตรไม่ได้เรียนฟรี ผู้ปกครองจะต้องแบกรับค่าใช้จ่ายในส่วนนี้ทั้งหมด เพื่อที่ลูกชายของตนเองไม่ต้องไปเป็น "เกณฑ์ทหาร" จับใบดำ-ใบแดง โดยค่าใช้จ่ายมีดังนี้

 

ถ้าต้องการปลดทหารเกณฑ์ต้องใช้ต้นทุนกี่บาทในการเรียน รด. เพื่อไม่ต้องจับใบดำ-แดง
ค่าใช้จ่ายเรียน รด. แบ่งเป็นดังนี้

ค่าเรียน รด.

 

  • ค่าการศึกษา 650 บาท/ปี
  • ค่าบัตร 80 บาท/ปี
  • ค่าอุปกรณ์ฝึก 700-900 บาท/ปี
  • ค่ากิจกรรมการกุศล 5 บาท/ปี
  • ค่าสมุดบันทึก 25 บาท/ปี

 

ค่าชุด รด.

 

  • ค่าชุด นศท. 1,200 บาท
  • ค่าเสื้อยืด 170 บาท
  • ค่าเข็มขัด 50 บาท
  • ค่าถุงเท้า 20 บาท
  • ค่าหวงขา 50 บาท
  • ค่ารองเท้าคอมแบท 450 บาท

 

ค่าเล่าเรียนและอปุกรณ์ในการเรียน รด.

 

 

รวม 3,400 บาท/ปี 

ซื้อชุดเดียวใช้ 3 ปี ต้องจ่ายเงิน  6,320  บาท 

เปลี่ยนชุดทุกปี ต้องจ่ายเงิน 10,200 บาท 

 

 

บรรยากาศกาศ "เกณฑ์ทหาร 2566"

 

บรรยากาศกาศ "เกณฑ์ทหาร 2566"

 

 

จากกรณีนี้ทำให้ชายไทยส่วนใหญ่นั้นต้องการหลีกเลี่ยงการ "เกณฑ์ทหาร" ด้วยการเรียน รด. ครบ 3 ปี จะทำให้สามารถ ไม่ต้องเข้ารับการตรวจเลือกการเป็นทหารเกณฑ์ได้ แต่กรณีที่จบ รด. ไม่ครบ 3 ปี ทำให้ต้องจับใบดำ-ใบแดง โดยถ้าจบ รด. ปี 1 และจับได้ใบแดง จะต้องเป็นทหารเกณฑ์ 1 ปี  6 เดือน ถ้าสมัครจะเป็นเป็นทหารเกณฑ์ 1 ปี   จบรด. ปี 2 ถ้าจับได้ใบแดง เป็นทหาร 1 ปี ถ้าสมัครเป็น 6 เดือน 

 

สุดท้าย เมื่อจบ รด.ปี 3 ขึ้นไปจะได้ปลดเป็นทหารกองหนุนแล้วเรียบร้อย และจะได้รับสมุดประจำตัวทหารกองหนุน (สด.8) เล่มเขียว จะได้รับหลังจากที่ หน่วยฝึก/ศูนย์ฝึกนักศึกษาวิชาทหาร ที่สังกัดอยู่ได้ดำเนินการทำเรื่องนำปลดทหารเรียบร้อยแล้ว และสามารถติดต่อขอรับได้ที่ สัสดีอำเภอหรือสัสดีจังหวัดตามภูมิลำเนาทหารที่ได้ขึ้นทะเบียนทหารกอง

 

นอกจากนี้เมื่อจบ รด.ปี 3 จะได้ ยศ เป็นยศเป็นสิบเอก แต่ถ้าเรียนครบ จบ รด.ปี 4 และเรียนจบชั้นปริญญาตรี หรือเทียบเท่า จะได้ ยศ เป็นว่าที่ร้อยตรี และสามารถเรียนต่อเพื่อเติบโตเลื่อนขั้นทางทหารได้อีกเรื่อยๆ

 

อย่างไรก็ตาม การสมัครเรียน รด. นั้นจะต้องมีต้นทุนค่าใช้จ่ายทำให้บางครอบครัวที่ฐานะยากจน ไม่สามารถที่จะส่งให้ลูกของตนเรียน รด. ทำให้ไม่มีทางเลือกที่จะต้องจับใบดำ-ใบแดง 

 

ส่งผลให้เกิดความเหลื่อมทางสังคม  เพราะคนที่มีฐานะจึงจะสามารถเรียน รด. ได้ เพื่อจะได้ไม่ต้องเข้ารับการเกณฑ์ทหาร แต่กลับกันคนที่มีฐานะยากจนกับไม่มีทางเลือก ที่ท้ายที่สุดต้องจับใบดำ-ใบแดง ถ้าเป็นเสาหลักที่บ้านก็ทำให้ขาดรายในส่วนนี้ในการหาเลี้ยงครอบครัวอีกนั้นเอง

 

logoline

ข่าวที่น่าสนใจ