ข่าว

หมอ เตือนไม่ควรลืมเด็กในรถ หวั่นซ้ำรอย 'เด็กเสียชีวิต' เมื่อปีที่ผ่านมา

เกาะติดข่าวสาร >> คมชัดลึก ออนไลน์
logoline

หมอ เตือน อย่าลืมเด็กไว้ในรถยนต์ อาจส่งผลทำให้เด็กเสียชีวิตได้จากความร้อนพร้อมให้คำแนะนำช่วยป้องกันเด็กในรถยนต์

จากเหตุการณ์เด็กเสียชีวิตในรถยนต์ เดือน ส.ค. ปีที่ผ่านมา ทางสถาบันแห่งชาติเพื่อการพัฒนาเด็กและครอบครัว ม.มหิดล หรือ รพ.เด็ก โดย รศ.นพ.อดิศักดิ์ ผลิตผลการพิมพ์ ผู้อำนวยการสถาบันแห่งชาติเพื่อการพัฒนาเด็กและครอบครัว ม.มหิดล ได้อธิบายถึงเหตุการณ์นี้ว่า "เด็กเสียชีวิต" ไม่ได้เกิดจากการขาดอากาศหายใจ แต่เป็นเพราะร่างกายได้รับความร้อนสูงจนเกินไป ส่งผลให้ระบบร่างกายหยุดทำงาน  ดังนั้นเพื่อเป็นการลดอัตราการเสียชีวิตของเด็กจากกรณีลืมเด็กไว้บนรถจึงควรคำนึงถึงเด็กทุกครั้งหลังจากออกจากรถ และไม่ควรประมาท


 

เกี่ยวกับกรณีดังกล่าว รศ.นพ.อดิศักดิ์ ได้ให้สัมภาษณ์กับ คมชัดลึก ว่า เหตุการณ์ที่เด็กเสียชีวิตส่วนใหญ่พบว่าร่างกายไม่สามารถทนควาร้อนได้ เพราะโดยปกติแล้วรถที่อยู่กลางแจ้งจะมีอุณหภูมิเกิน 42 องศา ทำให้เด็กทนได้ไม่เกิน 2 ชม. โดยสาเหตุที่ทำให้เสียชีวิตนั้นเกิดจาก ความร้อนกระจุกในร่างกายสูงและยังไม่มีอากาศถ่ายเทความร้อน ส่งผลให้เซลล์เริ่มตาย เลือดเป็นกรด สมองบวม และปิดกั้นการทำงานของสมองมีผลทำให้เสียชีวิต เพราะปกติมนุษย์สามารถกักเก็บความร้อนในร่างกายได้ 37 องศา เท่านั้น

 

 

 

รศ.นพ.อดิศักดิ์  เปิดเผยว่า สถิติที่เด็กถูกลืมไว้ในรถปี 1 จะมี 2-3 ราย จากข้อมูล "เด็กเสียชีวิต" จากการถูกลืมไว้ในรถ พบว่าจะอยู่ในช่วง 2-5 ปี ซึ่งมีเคสเดียวที่มีอายุ 7 ปี นอกจากนี้รถที่มีการลืมเด็กไว้ในรถแบ่งออกได้เป็น 2 แบบ คือ แบบรถยนต์ส่วนตัวกับแบบรถรับส่งนักเรียน

 

แบบรถยนต์ส่วนตัว

1.ลืมจริงๆ จะเป็นเหตุการณ์ ที่ผู้ปกครองลืมจริงๆว่ามีเด็กอยู่ในรถและล็อครถไปทำธุระเพราะความเคยชินปล่อยให้เด็กอยู่ในรถจนได้รับความร้อนจึงเสียชีวิต

2.ลืมทีหลัง จะเป็นเหตุการณ์ ที่ไปทำธุระและปล่อยเด็กให้อยู่ในรถลำพังแต่ว่าตนใช้เวลาไปนานเกินไปจนพึ่งจำได้ว่ามีเด็กอยู่ในรถส่งผลทำให้ "เด็กเสียชีวิต" ภายในรถ

 

 

แบบรถรับส่งนักเรียน

1.บกพร่องในนาที จะเป็นเหตุการณ์ที่ไปรับเด็กและลืมเด็กไว้ในรถ เพราะไม่ได้นับจำนวนเด็กที่ลงจากรถจึงมีเด็กตกค้างบางคนในรถ ซึ่งเป็นการปฏิบัติหน้าที่บทพร่องมีความผิดทางกฏหมาย

 

อย่างไรก็ตามมีวิธีที่จะช่วยป้องกันไม่ให้ลืมเด็กจากในรถยนต์ส่วนตัวและรถรับส่งนักเรียน ดังนี้

 

รถยนต์ส่วนตัว

1.มีสติ ดูก่อนล็อก

2.ไม่ทิ้งเด็กไว้ในรถคนเดียว

3.ฝึกทักษะให้เด็ก เช่น สอนให้เด็กรู้จักบีบแตร่ เปิดประตูให้เป็น ปลดล็อกให้เป็น

รถรับเด็กสาธารณะ

1.ในรถต้องมีผู้ช่วยเสมอ 

2.นับจำนวนและเช็คชื่อเด็กขึ้น-ลงทุกครั้ง

 

 

รศ.นพ.อดิศักดิ์ ฝากถึงสื่อที่มีส่วนสำคัญที่จะกระตุ้นให้เห็นถึงปัญหาการลืมเด็กไว้ในรถ และตอนนี้มี พ.ร.บ เกี่ยวกับคาร์ซีท ออกมาจึงใช้โอกาสนี้รณรงค์ให้ช่วยกันสร้างความตระหนักถึงการ ลืมเด็กไว้ในรถ และก็เตือนให้คนฝึกปฏิบัตินิสัยให้ดูก่อนล็อคเสมอ ช่วยกันติดตั้งสปิงเกอร์ที่จะค่อยเตือนว่ามีคนอยู่ในรถไหม เพื่อป้องกันการลืมเด็กไว้ในรถและป้องกันการเสียชีวิตในอนาคต

 

 

 

logoline

ข่าวที่น่าสนใจ