ข่าว

เปิดนโยบาย กทม. 5 ด้าน 5 ดี ฟื้นคนพิการให้มีคุณภาพชีวิตที่ดี

เกาะติดข่าวสาร >> คมชัดลึก ออนไลน์
logoline

รองผู้ว่าราชการกรุงเทพฯ ได้ประชุมถึง นโยบาย กทม. 5 ด้าน 5 ดี ช่วยด้านสุขภาพดี ด้านเรียนดี ด้านเศรษฐกิจดี ด้านเดินทางดี และด้านบริหารจัดการดี เพื่อพัฒนาคุณภาพชีวิตคนพิการให้ดียิ่งขึ้น 

17 มี.ค. 66 นายศานนท์ หวังสร้างบุญ รองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ประธานการประชุมคณะกรรมการขับเคลื่อนนโยบายด้านคนพิการของกรุงเทพมหานคร ครั้งที่ 1/2566 ได้ติดตามการดำเนินงานนโยบาย 5 ด้าน ได้แก่ ด้านสุขภาพดี ด้านเรียนดี ด้านเศรษฐกิจดี ด้านเดินทางดี และด้านบริหารจัดการดี เพื่อพัฒนาคุณภาพชีวิต "คนพิการ" ให้ดีขึ้น 

 

นายศานนท์ หวังสร้างบุญ รองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ประธานการประชุมคณะกรรมการขับเคลื่อนนโยบายด้านคนพิการของกรุงเทพมหานคร

 

นายศานนท์ กล่าวว่า การประชุมงานด้าน "คนพิการ" ไม่ใช่งานที่สำนักพัฒนาสังคมทำเพียงหน่วยงานเดียว แต่ต้องเป็นงานที่ครอบคลุมหลายด้าน ฉะนั้นการประชุมเรื่อง "คนพิการ" จึงต้องมีหลายสำนัก ซึ่งได้ 5 อนุกรรมการ ที่ทำงานเกี่ยวข้องกับนโยบาย 5 ด้าน 5 ดี ได้มาประชุมประเด็นสำคัญ


โดย ด้านเศรษฐกิจดี นั้น กฏหมายกำหนดให้จ้างงาน "คนพิการ" ในองค์กร 1% ของบุคลากร ซึ่งหน่วยงาน 1% ของ กทม. เท่ากับ 600 กว่าคน ทำให้ตอนนี้ กทม.มีการจ้างงานคนพิการร่วมแล้ว 300 คน โดยปัญหาใหญ่ของ "คนพิการ" คือการเดินไปทำงานเป็นไปได้ยาก จึงมีการแก้ไขให้ "คนพิการ" ได้ Work from home ภายในเดือน มี.ค. นี้ 

 

 

ส่วนที่สองจะมีระบบ Live Chat Agent เริ่มพัฒนามาตั้งแต่เดือน ส.ค. 65 โดยมี Startup มาเสนอโครงการที่จะให้คนพิการได้ทำงาน ในรูปแบบคล้าย Customer Service โดยโครงการนี้จะเป็นช่องทางสื่อสารแบบ Live Chat Agent คือ นำทุกช่องทางมารวมในระบบแชทเดียว จึงเป็นการฝึก "คนพิการ" ให้มีการตอบคำถามประชาชนผ่านแชทได้ใน กทม. ซึ่งมี 50 สำนักงานเขต 17 สำนัก แต่ละหน่วยงานมีหลายช่องที่จะสื่อสารได้

 

โดยระบบจะเสร็จภายในเดือน ม.ย. นี้ ซึ่งจะปลดล็อกอย่างแรกคือ Work from home อย่างที่สองคือเราสามารถจ้าง "คนพิการ" ได้อย่างมีความหมาย เพราะที่ผ่านมามีการจ้าง "คนพิการ" แล้วไม่มีงานที่ชัดเจนให้ทำ แต่ระบบนี้จะมีตัวงานที่ชัดเจนให้ทำ ทั้งยังต่อยอดทักษะพิเศษของ "คนพิการ" บางคนไปสู่การเขียนโค้ด หรือนักพัฒนาได้

 

เปิดนโยบาย กทม. 5 ด้าน 5 ดี ฟื้นคนพิการให้มีคุณภาพชีวิตที่ดี

 

ในส่วนนโยบายด้านเดินทางดี ก่อนหน้านี้ได้มอบนโยบายให้มีการปรับปรุงด้านการเดินทางของ "คนพิการ" ในส่วนต่างๆ ที่ให้เป็น Universal Design แต่หลายๆ ที่ไม่ใช่ที่ของกทม. ปรับปรุงได้ยาก จึงทำได้แค่พื้นที่เดียวอย่างเต็มรูปแบบเพื่อเป็นโมเดล โดยเลือกโซนอนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิตีวงเป็นบล็อกใหญ่ไปเขตพญาไท และราชเทวี เพราะบริเวณนี้ "คนพิการ" อาศัยอยู่เยอะมาก ทำให้หน่วยงานต่างๆ เช่น โรงพยาบาล 

ที่จะต้องทำให้เป็น Universal Design ภายในปี 2567 

 

 

สุดท้าย นโยบายด้านเรียนดีของ "คนพิการ" สำหรับ "คนพิการ" ปัจจุบันมี 2 แนวคิด

1.เรียนร่วม คือ การนำเด็กไปรวมกันไว้ในโรงเรียนเดียวกัน

2.เรียนรวม คือ การนำเด็กไปอยู่ในห้องเรียนเดียวกัน 

ทั้งนี้ "คนพิการ" อยากเรียนรวมไม่ได้ต้องการเรียนร่วม เพราะเรียนร่วมทำให้เขารู้สึกเหมือนเป็นประชาชนชั้นสอง แต่การจะไปสู่เรียนรวมได้นั้นข้อจำกัดคือไม่มีครูเฉพาะดูแล โดยอย่างแรกจะทำให้ครูทุกคนในโรงเรียนเรียนเรียนร่วมของกทม. เป็น ครูการศึกษาพิเศษ เพราะปัจจุบันครูการศึกษาพิเศษสำหรับ "คนพิการ" ต้องจ้างแยก ทำให้ครูทุกคนต้องเข้าใจแนวคิดนี้ว่าเป็นการดูแล เด็กพิการ 158 โรงเรียนเรียนร่วม ที่มีครูประมาณ 6,800 คน และการอบรมครูภายในปีนี้ 

 

อย่างที่สองคือต้องมีพี่เลี้ยงผู้พิการ ซึ่งตอนนี้กำลังดูเรื่องอัตราส่วนระหว่างพี่เลี้ยงกับ เด็กนักเรียนพิการ ว่าควรจะเป็นเท่าไร รวมถึงการจ้างลูกจ้างที่ปัจจุบันจำกัดว่าต้องเป็นข้าราชการเท่านั้น สามคือจัดคอร์สอบรมครูการศึกษาพิเศษของกทม.เอง ซึ่งสิ่งนี้จะทำให้กทม.ได้ครูการศึกษาพิเศษเพิ่มขึ้นสำหรับนักเรียนนั้นเอง

 

logoline

ข่าวที่น่าสนใจ