อธิบดีกรมการปกครองเต้งผาง สั่งสอบ 'บัตรประชาชน' ผีโผล่ หลังโซเชียลแชร์กระหน่ำ คนเดียวมีถึง 7 ใบ ชื่อ-นามสกุล ไม่ซ้ำกัน ระบุเป็นการปลอมแปลง และไม่เกี่ยวกับฐานข้อมูลการทำบัตรของกรมการปกครอง โทษหนักคุก 5 ปี ปรับ 100,000 บาท
บน โลกโซเชียล มีการแชร์ภาพและข้อความเกี่ยวกับชายหนุ่มรายหนึ่ง ซึ่งมี 'บัตรประชาชน' ถึง 7 ใบ โดยแต่ละใบจะมีชื่อและนามสกุลไม่ซ้ำกัน แต่ใบหน้าเจ้าของบัตรประชาชนเป็นคนเดียวกัน และมีที่อยู่อาศัยอยู่ในพื้นที่ ต.ลาดหญ้า อ.เมือง จ.กาญจนบุรี
ซึ่งจากกรณีดังกล่าวชาวบ้านได้มีการร้องเรียนไปยัง กรมการปกครอง กระทรวงมหาดไทย และสำนักงานตำรวจแห่งชาติ เพื่อให้เร่งดำเนินการตรวจสอบเกี่ยวกับการออกบัตรประชาชนดังกล่าว ว่ามีที่มาอย่างไร ตามที่ได้เสนอข่าวไปแล้วนั้น
เกี่ยวกับเรื่องนี้ (9 มี.ค.) นายแมนรัตน์ รัตนสุคนธ์ อธิบดีกรมการปกครอง เปิดเผยว่า หลังจากที่ กรมการปกครอง ได้รับเรื่องร้องเรียน จึงได้สั่งการให้สำนักบริหารการทะเบียน ตรวจสอบฐานข้อมูลสำนักทะเบียนกลาง ทะเบียนบัตรประจำตัวประชาชนดังกล่าวแล้ว พบว่า บุคคลตามภาพถ่าย ตามหลักฐานทางทะเบียนและข้อมูลการขอมีบัตร ชื่อ นายภาคิน (สงวนนามสกุล) โดยในกรณีดังกล่าว เป็นการปลอมแปลงบัตร ที่ไม่ได้เกี่ยวข้องกับข้อมูลในฐานข้อมูลระบบการจัดทำ บัตรประจำตัวประชาชน ของกรมการปกครองแต่อย่างใด
ทั้งนี้ จากการตรวจสอบยังพบด้วยว่า เป็นการใช้ชื่อบุคคลอื่นกระทำการปลอมแปลงบัตรขึ้นมาเอง โดยกรมการปกครอง จะมีหนังสือแจ้งไปยังจังหวัดกาญจนบุรีซึ่งเป็นนายทะเบียนท้องที่ดำเนินการจัดทำหนังสือกล่าวโทษต่อพนักงานสอบสวน สถานีตำรวจภูธรอำเภอเมืองกาญจนบุรี เพื่อดำเนินการตามกฎหมายต่อไป
"การดำเนินการกรณีปลอมแปลงรายละเอียด ชื่อใน บัตรประจำตัวประชาชน เป็นการกระทำความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 265 ผู้ใดปลอมเอกสารสิทธิ หรือเอกสารราชการ ต้องระวางโทษจำคุกตั้งแต่ 6 เดือนถึง 5 ปี และปรับตั้งแต่ 10,000 - 100,000 บาท" นายแมนรัตน์ กล่าว
นายแมนรัตน์ กล่าวด้วยว่า สำหรับประเด็นที่สังคมได้มีข้อสงสัยว่า การปลอมแปลงเอกสารบัตรประชาชนลักษณะนี้ จะมีผลกับการเลือกตั้งที่กำลังจะมีขึ้นหรือไม่นั้น ขอยืนยันว่า บุคคลดังกล่าวไม่สามารถนำเอกสารที่ปลอมแปลงขึ้นมา ไปใช้ในการเลือกตั้งได้ เนื่องจากฐานข้อมูล ทะเบียนราษฎร และ บัตรประชาชน ที่กรมการปกครอง ในฐานะสำนักทะเบียนกลาง จัดส่งให้คณะกรรมการการเลือกตั้งนั้น ไม่ปรากฏชื่ออื่นๆ นอกเหนือจากชื่อจริงของบุคคลนั้นๆ ซึ่งการแสดงตนเพื่อใช้สิทธิเลือกตั้งจะมีการตรวจสอบความถูกต้องตรงกันของรายการ บัตรประจำตัวประชาชน กับรายการทะเบียนบ้าน
อย่างไรก็ตาม หากพี่น้องประชาชนท่านใด มีข้อสงสัย หรือมีเบาะแส การกระทำผิดในลักษณะนี้ในพื้นที่อื่นๆ สามารถแจ้งผ่านสายด่วนศูนย์ดำรงธรรม โทร. 1567 ตลอด 24 ชั่วโมง
ข่าวที่เกี่ยวข้อง