ข่าว

กรมอุตุนิยมวิทยา ประกาศการเข้าสู่ 'ฤดูร้อน' ปี2566 อุณหภูมิพุ่ง 40-43 องศา

เกาะติดข่าวสาร >> คมชัดลึก ออนไลน์
logoline

กรมอุตุฯประกาศเข้าสู่ 'ฤดูร้อน' ปี 2566 ตามเกณฑ์พิจารณาฤดูร้อน ปีนี้เริ่มต้น 5 มี.ค. อุณหภูมิพุ่ง 40-43 องศา คาดการณ์สิ้นสุดช่วงกลาง พ.ค.2566 คาดปีนี้จะร้อนกว่าปีที่แล้ว

ดร. ชมภารี  ชมภูรัตน์ อธิบดีกรมอุตุนิยมวิทยา กล่าวระหว่างการแถลง ประกาศ "ฤดูร้อน" ของประเทศไทย ประจำปี พ.ศ. 2566  ณ ห้องปฏิบัติการพยากรณ์อากาศ ชั้น 11 อาคาร 50 ปี อุตุนิยมวิทยา โดยกล่าวกับผู้สื่อข่าวว่า ประเทศไทยสิ้นสุดฤดูหนาวและจะเริ่มเข้าสู่ฤดูร้อนในวันที่ 5 มีนาคม 2566 ตามเกณฑ์การพิจารณาการเข้าสู่ฤดูร้อน 2 องค์ประกอบ ดังนี้

 

1.ลมที่พัดปกคลุมบริเวณประเทศไทยตอนบนเปลี่ยนจากมรสุมตะวันออกเฉียงเหนือเป็นลมตะวันออกเฉียงใต้

 

2.พื้นที่ประเทศไทยตอนบนส่วนใหญ่มีอากาศร้อนในตอนกลางวัน อุณหภูมิวัดได้ตั้งแต่ 35 °ซ. ขึ้นไป จากนั้นจะสิ้นสุด "ฤดูร้อน" ในช่วงกลางเดือนพฤษภาคม 2566 โดยปีนี้อุณหภูมิสูงสุดเฉลี่ย 35.5 °ซ. ซึ่งสูงกว่าปีที่แล้ว จังหวัดที่คาดว่าอุณหภูมิจะสูงที่สุด  40-43 °ซ. ได้แก่ จังหวัดสุโขทัย ตาก ลำปาง และแม่ฮ่องสอน สำหรับกรุงเทพมหานครและปริมณฑล อุณหภูมิสูงสุด 38-39 °ซ. 


 

กรมอุตุนิยมวิทยา ประกาศการเข้าสู่ \'ฤดูร้อน\' ปี2566 อุณหภูมิพุ่ง 40-43 องศา

 

ดร. ชมภารี กล่าวต่อว่าจากคาดหมายลักษณะอากาศ บริเวณประเทศไทยตอนบนในช่วงตั้งแต่เริ่มต้น "ฤดูร้อน" ไปจนถึงกลางเดือนมีนาคม 2566 จะมีอากาศร้อนหลายพื้นที่ในตอนกลางวันกับมีหมอกหนา โดยที่ภาคเหนือและภาคตะวันออกเฉียงเหนือยังคงมีอากาศเย็นในตอนเช้า จากนั้นจนถึงปลายเดือนเมษายน อากาศจะร้อนอบอ้าวโดยทั่วไป รวมทั้งมีอากาศร้อนจัดหลายพื้นที่ อุณหภูมิสูงที่สุด 40-43 °ซ. ในช่วงนี้อาจเกิด พายุฤดูร้อน

 

โดยจะมีพายุฝนฟ้าคะนองกับลมกระโชกแรง รวมทั้งอาจมีลูกเห็บตกในบางแห่ง ก่อให้เกิดความสูญเสียทั้งชีวิตและทรัพย์สินตลอดจนผลผลิตทางการเกษตรได้ ส่วนในช่วงปลายเดือนเมษายนถึงกลางเดือนพฤษภาคมที่เป็นช่วงปลายฤดูร้อน ลักษณะอากาศจะเริ่มแปรปรวน โดยยังคงมีอากาศร้อนอบอ้าวในบางช่วงกับจะมีฝนฟ้าคะนองเกิดขึ้น

 

 

สำหรับทางด้านภาคใต้ของประเทศไทย ประมาณปลายเดือนมีนาคมถึง ปลายเดือนเมษายน จะมีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 20-30 ของพื้นที่ คลื่นลมทั้งทะเลอันดามันและอ่าวไทยสูง 1-2 เมตร จากนั้นจนถึงกลางเดือนพฤษภาคมจะมีฝนตกชุกหนาแน่นเพิ่มขึ้นและต่อเนื่องโดยเฉพาะภาคใต้ฝั่งตะวันตก จะมีฝนตกหนักร้อยละ 60-80 ของพื้นที่ คลื่นลมในทะเลอันดามันจะมีกำลังแรงขึ้น ในบางช่วงอาจสูง 2-3 เมตร ส่วนทะเลอ่าวไทยยังคงมีคลื่นสูง 1-2 เมตร

 

 

ในช่วงเปลี่ยนฤดูจากปลายฤดูหนาวไปต้นฤดูร้อน (ปลาย ก.พ.-กลาง มี.ค.) บริเวณภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคกลาง และภาคตะวันออก จะมีพายุฝนฟ้าคะนองเกิดขึ้น เนื่องจากมวลอากาศเย็นจากประเทศจีน แผ่ลงมาปะทะกับอากาศประเทศไทยที่เริ่มร้อนขึ้น ต่อมาในช่วงกลางฤดูร้อน (กลาง มี.ค.-เม.ย.) ความกดอากาศต่ำเนื่องจากความร้อนที่ปกคลุมประเทศไทยตอนบน ประกอบกับกับมวลอากาศเย็นจาก  ประเทศจีน ทำให้ลมที่พัดนำความชื้นจากทะเลจีนใต้เข้ามาปกคลุมประเทศไทย ซึ่งทั้ง 3 ปัจจัยนี้ก็จะส่งผลให้เกิดพายุฤดูร้อน พายุฝนฟ้าคะนอง ลมกระโชกแรง และลูกเห็บตกได้ในบางพื้นที่ โดยจะมีผลกระทบกับ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือก่อนในวันแรก ส่วนภาคเหนือ ภาคกลาง ภาคตะวันออก กรุงเทพมหานครและปริมณฑล จะมีผลกระทบในวันถัดไป 

 

กรมอุตุนิยมวิทยา ประกาศการเข้าสู่ \'ฤดูร้อน\' ปี2566 อุณหภูมิพุ่ง 40-43 องศา

 

ช่วงท้ายของการแถลง อธิบดีกรมอุตุนิยมวิทยาเปิดเผยคาดการณ์ปริมาณฝนในปี 2566 โดยกล่าวว่า ปีนี้กรมอุตุฯ คาดว่าประเทศไทยตอนบนจะมีฝนใกล้เคียงค่าปกติ ภาคใต้ปริมาณฝนจะมากกว่าค่าปกติเล็กน้อย อาจเกิดสภาวะฝนทิ้งช่วงในปลายเดือนมิถุนายนและต้นเดือนกรกฎาคม ดังนั้นจึงขอให้พี่น้องเกษตรกรวางแผนรับมือกักเก็บสำรองน้ำไว้ใช้เพาะปลูกและติดตามคาดหมายสภาพอากาศจากกรมอุตุนิยมวิทยาอย่างต่อเนื่องไว้ด้วย

 

logoline