'ม็อบชาวนา' บุกกระทรวงเกษตรฯ โครงการช่วยเหลือชาวนา ถูกดึงเรื่องให้ล่าช้า
'ม็อบชาวนา' บุกกระทรวงเกษตรฯ ติดตามโครงการช่วยเหลือชาวนา หลังพบมีการดึงเรื่องให้ล่าช้า เกี่ยวกับการเยียวยาเกษตรกรที่ได้รับผลกระทบจากอุทกภัย ปี 2563/64 ในประเด็นการสนับสนุนเมล็ดพันธุ์ข้าว และการเร่งรัดจ่ายเงินชดเชยให้กับเกษตรกรบางส่วนที่ยังไม่ได้รับ
นายประยูร อินสกุล ปลัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ รับฟังปัญหา และร่วมหารือกับ นายจิตติ เจียมเจือจันทร์ ผู้แทนเกษตรกรจาก 14 จังหวัด เช่น จังหวัดร้อยเอ็ด มหาสารคาม เพชรบูรณ์ อุทัยธานี เกี่ยวกับการเยียวยาเกษตรกรที่ได้รับผลกระทบจากอุทกภัย ปี 2563/64 ในประเด็นการสนับสนุนเมล็ดพันธุ์ข้าว และการเร่งรัดจ่ายเงินชดเชยให้กับเกษตรกรบางส่วนที่ยังไม่ได้รับ ทั้งนี้ปลัดกระทรวงเกษตรฯ ได้สั่งการหน่วยงานที่เกี่ยวข้องติดตามเร่งรัดดำเนินการตามที่กลุ่มเกษตรกรได้ร้องขอ จนเป็นที่พอใจ และได้นำขบวนเกษตรกรกว่า 120 คน เดินทางกลับในทันที
นายจิตติ เจียมเจือจันทร์ ตัวแทนเกษตรกรกล่าวว่า เดิมทีกรมการข้าวขออนุมัติดำเนินการโครงการรักษาระดับปริมาณ คุณภาพข้าว ปี 2563/64 เพื่อช่วยเหลือเกษตรกรที่ประสบภัยธรรมชาติ ภายใต้โครงจารแผนเยียวยาเกษตรกรผู้ประสบภัย ฝนเล้งผนทิ้งช่วงและอุทกภัย ปี 2562 เกษตรกรรวม 450,013 ครัวเรือน ที่จะได้รับความช่วยเหลือรวม 3,414,142.04 ไร่ โดยได้รับการจัดสรรงบประมาณทั้งสิ้น 932,152,161 บาท เพื่อจัดซื้อเมล็ดพันธุ์ข้าวสนับสนุนเกษตรกร ปริมาณ 34,128,306 กิโลกรัม จากแหล่งผลิต 3 แหล่ง ได้แก่ 1) กองเมล็พันธุ์ข้าว 2. ศูนย์ข้าวชุมชน/นาแปลงใหญ่ และ 3.สหกรณ์การเกษตร
ซึ่งในส่วนของเมล็ดพันธุ์ข้าวที่จัดซื้อจากสหกรณ์การเกษตร กรมการข้าวได้ยกเลิกการจัดซื้อเนื่องจากล่วงเลยระยะเวลาปลูก จึงทำให้คงเหลือเกษตรกรที่ยังไม่ได้รับการสนับสนุนเมล็ดพันธุ์ข้าว จำนน 194,492 ครัวเรือน พื้นที่ 1,430,000 ไร่ จากปัญหาความเดือดร้อนของเกษตรกรที่ประสบภัยพิงติด้านการเกษตร ปี 2562 ซึ่งมีความจำเป็นในการเร่งบรรเทาและเยียวยาเกษตรกร
กรมการข้าวได้เสนอขอรับการจัดสรรงบกลาง รายการเงินสำรองจ่ายเพื่อกรณีฉุกเฉินหรือจำเป็น เพื่อดำเนินการตามโครงการรักษาระดับปริมาณและคุณภาพข้าว ปี 2565/66 ซึ่งมีวัตถุประสงค์เพื่อช่วยเหลือเกษตรกรที่ยังไม่ได้รับเมล็ดพันธุ์ข้าวตามโครงการรักษาระดับปริมาณและคุณภาพข้าว ปี 2563/64 โดยสนับสนุนปัจจัยการผลิตข้าวได้แก่ ปุ๋ยชีวภาพให้แก่เกษตรกร จำนวน 194,492 ครัวเรือน
ในพื้นที่ 14 จังหวัด ได้แก่ เพชรบูรณ์, อุทัยธานี, อำนาจเจริญ, หนองคาย, ร้อยเอ็ด, ยโสธร, มุกดาหาร, มหาสารคาม, พิจิตร, นครราชสีมา, นครพนม, ชัยภูมิ, ขอนแก่น และกาฬสินธุ์ จากงบประมาณรายจ่ายงบกลาง รายการเงินสำรองจ่ายเพื่อกรณีฉุกเฉินหรือจำเป็นวงเงินงบประมาณ 404,801,240 บาท
“การมากระทรวงเกษตรและสหกรณ์วันนี้ ได้รับทราบว่าทางรัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ จะดำเนินการต่อเพื่อช่วยเหลือชาวนาให้ได้รับการเยียวยา เรารอมาสามปีแล้ว ไม่รู้ว่ามีการดึงเรื่องอย่างไร อยากจะขอวิงวอนผู้บริหารที่เกี่ยวข้อง อย่าเล่นการเมืองโดยไม่สนใจชาวนาเลย เราเดือดร้อนมาพอแล้ว การช่วยเหลือเยียวยาไม่สมควรมีเรื่องการเมืองมาเกี่ยวข้อง” ตัวแทนชาวนากล่าว
แหล่งข่าวในกระทรวงเกษตรฯ แจ้งว่า "มีความไม่ชอบมาพากลของคนใกล้ชิด รมช. ท่านหนึ่ง ที่เตะถ่วงจนเกิดความล่าช้า ส่งผลให้โครงการทั้ง 3 โครงการ คือ โครงการพัฒนาห้องปฏิบัติการตรวจสอบเอกลักษณ์พันธุกรรม (DNA) ข้าวหอมมะลิไทย โครงการรักษาระดับปริมาณและคุณภาพข้าว ปี 2566/67 และโครงการเยียวยาชาวนาที่ประสบภัยธรรมชาติ ปี 2565 ไม่สามารถดำเนินการในขั้นตอนต่อไปได้"
โครงการเหล่านี้นั้นที่จริงแล้วได้ผ่านการกรั่นกรองจาก"สภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ" สำนักงบประมาณ และกระทรวงการคลัง ไปแล้ว แต่ไม่รู้ท่านนี้จะขอเอกสารอะไรอีก ทั้งที่เสนอเอกสารโครงการไปแล้วตั้งแต่วันที่ 2 ก.พ.66 แต่ก็ดูเหมือนยังไม่ได้รับการพิจารณาใดๆ แสดงให้เห็นว่าคนใกล้ชิดนักการเมืองระดับสูงท่านนี้ ไม่สนโลกว่าจะเข้า ครม. ทันหรือไม่ทัน การกระทำนี้จะทำให้เกษตรกรที่เข้าร่วมโครงการเสียผลประโยชน์ และกระทบต่อคุณภาพของข้าวหอมมะลิ อีกทั้งยังเป็นการส่งสัญญาณว่าถึงแม้เกษตรกรที่ประสบอุทกภัยจะต้องได้รับการเยียวยาเร่งด่วนแค่ไหนก็ไม่สน"