กรมควบคุมโรค ติดตามสถานการณ์เชื้อ"โนโรไวรัส" ระบาดในจ.ชัยภูมิ หลังพบนักเรียนป่วย 315 ราย คาดเชื้อมาจากแหล่งน้ำเดียวกัน กำชับดูแลการผลิตน้ำดื่มและน้ำแข็ง ย้ำเชื้อไม่รุนแรง พบได้ในสิ่งแวดล้อมและช่วงฤดูร้อน
23 ก.พ.2566 นายแพทย์วชิระ บถพิบูลย์ นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดชัยภูมิ เปิดเผยถึงกรณีผู้ป่วยจาก 4 โรงเรียนเกิดอาการป่วยพร้อมกัน รวมทั้งสิ้น 315 ราย เป็นนักเรียน 283 ครู 32 คน อาการส่วนใหญ่ไม่รุนแรง มีคลื่นไส้ อาเจียน ปวดท้อง และถ่ายเหลวร่วมด้วย บางรายต้องพักรักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาล ซึ่งล่าสุดยังรักษาตัวอยู่ 12 ราย ที่ รพ.ชัยภูมิ และยังมีผู้ป่วยที่เข้ารับการรักษาอีก 10- 20 ราย
จากการตรวจทางห้องปฏิบัติการพบว่าผู้ป่วยติดเชื้อโนโรไวรัส ซึ่งเป็นไวรัสที่ทนต่อความร้อน มีระยะฟักตัว 12 - 48 ชม. จะทำให้เกิดอาการทั้งคลื่นไส้ อาเจียน ถ่ายเหลว มีการอยู่ในสำไส้ใหญ่ได้ถึง 2อาทิตย์ ทำให้มีโอกาสในการแพร่กระจายไปสู่บุคคลอื่นในครอบครัว และชุมชนได้
นอกจากนี้ ในผู้ป่วยบางรายยังตรวจพบอีโคไล คาดว่าเชื้อทั้ง 2 ตัวปนเปื้อนมากับอาหาร และน้ำดื่ม โดยธรรมชาติของเชื้อโนโรไวรัส จะพบได้ทั้งน้ำแข็งและอาหารทะเล ขณะนี้ได้ส่งทีมลงไปตรวจสอบแหล่งผลิตอาหาร โรงน้ำแข็ง ตรวจสอบแหล่งผลิต แหล่งวัตถุดิบที่นำน้ำมาผลิต เก็บตัวอย่างของน้ำแข็งมาตรวจที่ศูนย์วิทยาศาสตร์การแพทย์ นครราชสีมา ซึ่งคาดว่าจะทราบผลการตรวจสอบในวันพรุ่งนี้ นอกจากนี้ยังได้เก็บตัวอย่างของอาหารชนิดอื่นอีกด้วย
ส่วนในโรงเรียน ได้ส่งทีมควบคุมโรคเข้าไปพูดคุยกับผู้บริหาร และมีการให้ข้อมูลข่าวสารและแจ้งการปรับปรุงสุขาภิบาลอาหารในโรงเรียน ทั้งนี้ต้องเร่งในการควบคุมโรคให้เร็วที่สุด เพราะนอกจากส่งผลกระทบด้านสุขภาพของเด็กนักเรียนแล้ว ยังอาจมีผลกระทบด้านธุรกิจอีกด้วยเนื่องจากประชาชนมีความวิตกกังวลไม่กล้ารับประทานอาหารบางชนิด ทำให้ร้านค้าได้รับผลกระทบ จึงจำเป็นต้องพิสูจน์ทราบสาเหตุให้เร็วที่สุด ในส่วนของการเฝ้าระวัง พบว่ามีสถานการณ์อุจจาระร่วงยังเป็นไปตามปกติไม่มีการระบาดเป็นคลัสเตอร์
ด้าน นพ.โสภณ เอี่ยมศิริถาวร รองอธิบดีกรมควบคุมโรค กล่าวว่า เชื้อโนโรไวรัสจะส่งผลต่อระบบทางเดินอาหาร ทำให้เกิด อาการ ถ่ายเหลว คลื่นไส้อาเจียน ซึ่งการรักษาให้ยาตามอาการและให้เกลือแร่เพื่อป้องกันการขาดน้ำ ปัจจุบันยังไม่วัคซีนป้องกันเชื้อโนโรไวรัส
สำหรับคำแนะนำในการเฝ้าระวังโดยเฉพาะในโรงเรียนและสถานที่ดูแลเด็ก เน้นยำการดูแลเรื่องความสะอาดในการปรุงอาหาร และน้ำดื่ม โดยตอนนี้มีสำนักงานควบคุมป้องกันโรคในพื้นที่เข้าดูแล
ด้านนพ.อภิชาต วชิรพันธ์ รองอธิบดีกรมควบคุมโรค กล่าวว่า ในช่วงฤดูร้อนมักจะพบการระบาดของเขื้อไวรัสชนิดนี้ การป้องกันคือเน้นย้ำเรื่องสุขอนามัย กินร้อน ช้อนกลาง ล้างมือ ร่วมถึงกำชับไปยัง ผู้ผลิตน้ำดื่มและน้ำแข็ง ควรต้อง เข้มงวดกับที่มาของน้ำที่นำมาใช้ ต้องมาจากแหล่งที่ไม่มีเชื้อแบคทีเรียหรือเชื้อไวรัสปนเปื้อน ส่วนน้ำปะปาควรตรวจสอบระดับคลอรีนให้อยู่ในระดับที่เหมาะสม เนื่องจากการผลิตน้ำปะปามีระดับคลอรีนที่แตกต่างกันในแต่ละช่วง บางพื้นที่ซึ่งใช้น้ำบาดาลในการบริโภค แนะนำ ต้องมีการกรองซึ่งต้องใช้เครื่องกรองที่เหมาะสม หรือนำน้ำมาต้มก่อนการบริโภค
ข่าวที่เกี่ยวข้อง