ปลัด ทส. แจงปม สอบ ชัยวัฒน์ ปลูกป่าลมแก่งกระจาน ระบุหลักฐานมีจำนวนมาก

ความคืบหน้า กรณี นายชัยวัฒน์ ลิ้มลิขิตอักษร ผู้อำนวยการสำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 9 (อุบลราชธานี) เดินทางไปยังกองบังคับการป้องกันปราบปรามการทุจริตและประพฤติมิชอบ (บก.ปปป.) เพื่อแจ้งความ ดำเนินคดีปลัดกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ที่ตั้งคณะกรรมการสอบสวนข้อเท็จจริง เรื่องโครงการปลูกป่าเฉลิมพระเกียรติ พร้อมเอาผิดคณะกรรมการ ป.ป.ท. 12 คน ที่เคยชี้มูลความผิดในคดีเผาบ้านชาวกระเหรี่ยงและคดีบิลลี่

นายจตุพร บุรุษพัฒน์  ปลัดกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (ปกท.ทส.) เปิดเผยถึงการสืบสวนข้อเท็จจริง กรณีการดำเนิน โครงการปลูกป่าเพื่อลดปัญหาอุทกภัย และภาวะโลกร้อนในพื้นที่ป่าแก่งกระจานเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระ เจ้าอยู่หัว เนื่องในโอกาสมหามงคลเฉลิมพระเกียรติ พระชนมพรรษา 84 พรรษา ว่า กรณีดังกล่าว กรมอุทยาน แห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช ได้มีการตั้งคณะกรรมการสืบสวนข้อเท็จจริงมาแล้วตั้งแต่ก่อนปี 2561 และได้ส่งเรื่อง
 

ต่อมาให้กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมดำเนินการสืบสวนข้อเท็จจริงต่อในช่วงปี 2561 เนื่องจากผู้ถูก กล่าวหาได้เลื่อนมาดำรงตำแหน่งในระดับอำนวยการสูง ซึ่งอยู่ในอำนาจของกระทรวงฯ ที่จะต้องเป็นผู้ดำเนินการ สืบสวนหาข้อเท็จจริงต่อจากที่กรมอุทยานฯ ได้ดำเนินการสืบสวนหาข้อเท็จจริงมาแล้ว
ภายหลังจากที่กระทรวงฯ ได้รับเรื่องมาสืบสวนหาข้อเท็จจริงซึ่งปลัดกระทรวงฯ ในสมัยนั้น ได้แต่งตั้งคณะกรรมการสืบสวนข้อเท็จจริงชุดใหม่ขึ้นตั้งแต่เดือนพฤษภาคม 2562 เพื่อสืบสวนหาข้อเท็จจริงอย่างต่อเนื่อง

และในระหว่างการสืบสวนหาข้อเท็จจริงของกระทรวงฯ ได้มีการปรับเปลี่ยน คณะกรรมการสืบสวนข้อเท็จจริงมาแล้ว 4 ครั้ง เนื่องจากประธานกรรมการ และกรรมการบางคนเกษียณอายุราชการ ซึ่งคณะกรรมการสืบสวนข้อเท็จจริงชุดปัจจุบัน ได้มีการสืบสวนหาข้อเท็จจริงต่อเนื่องมา แต่เนื่องจากยังมีข้อมูลที่เกี่ยวข้องอีกเป็นจำนวนมาก จึงทำให้ยังไม่สามารถสรุปผลการสอบข้อเท็จจริงได้  และอาจจะต้องมีการสืบสวนข้อเท็จจริงเพิ่มเติมอีก เพื่อให้เกิดความรอบคอบ ครอบคลุม และเป็นธรรมแก่ทุกฝ่าย
 

ส่วนกรณีที่ นายชัยวัฒน์ ลิ้มลิขิตอักษร ที่เกรงว่าจะไม่ได้รับความเป็นธรรมในการสืบสวนข้อเท็จจริงต่อ กรณีดังกล่าวนั้น หากนายชัยวัฒน์ มีพยานหลักฐานเพิ่มเติม ก็สามารถนำมาชี้แจงต่อคณะกรรมการฯ เพิ่มเติมได้  เพื่อให้การสรุปผลการสืบสวนข้อเท็จจริงเป็นไปอย่างเป็นธรรมแก่ทุกฝ่าย

ทั้งนี้ กระทรวงฯ จะเร่งรัดการสืบสวนข้อเท็จจริงต่อกรณีดังกล่าว ให้ได้ข้อสรุปโดยเร็ว เพื่อคลายข้อสงสัยของประชาชนต่อกรณีที่เกิดขึ้น ซึ่งกระทบต่อภาพลักษณ์การทำงานของกระทรวง ทั้งยังอยู่ในความสนใจของประชาชน ในวงกว้างมาอย่างต่อเนื่อง โดยหากคณะกรรมการสืบสวนข้อเท็จจริงที่ตั้งไว้ยังสืบสวนหาข้อเท็จจริงไม่แล้วเสร็จ แต่หมดวาระลงก่อน ก็จะเร่งแต่งตั้งคณะกรรมการชุดใหม่เพื่อสืบหาข้อเท็จจริงต่อไปโดยทันที