ข่าว

ธปท.แจงเหยื่อมิจฉาชีพถูกโอนเงินเกลี้ยงบัญชี ไม่เกี่ยว "สายชาร์จปลอม"

เกาะติดข่าวสาร >> คมชัดลึก ออนไลน์
logoline

ธปท.- สมาคมธนาคารไทย แจงกรณีผู้เสียหายถูกดูดข้อมูล โอนเงินออกจากบัญชี ไม่เกี่ยวใช้"สายชาร์จปลอม" แต่ถูกหลอกติดตั้ง"แอปพลิเคชันปลอม"สวมรอยทําธุรกรรมแทนจากระยะไกล

18 ม.ค.2566 จากกรณีที่มีผู้ร้องเรียนว่าถูกดูดข้อมูลจากโทรศัพท์มือถือ และโอนเงินในบัญชี หลังจากใช้สายชาร์จโทรศัพท์ปลอม  ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ได้หารือสมาคมธนาคารไทย เพื่อตรวจสอบกรณีดังกล่าวแล้ว

 

พบว่ากรณีดังกล่าวไม่ได้เกิดจากการใช้งานสายชาร์จปลอม แต่เกิดจากผู้เสียหายถูกมิจฉาชีพหลอกลวงให้ติดตั้ง"แอปพลิเคชันปลอม"ที่แฝงมัลแวร์ ทําให้มิจฉาชีพล่วงรู้ข้อมูลการทําธุรกรรมของลูกค้า และควบคุมเครื่องโทรศัพท์ เพื่อสวมรอยทําธุรกรรมแทนจากระยะไกล เพื่อโอนเงินออกจากบัญชี โดยอาจเลือกทําธุรกรรมในช่วงเวลา ที่ผู้เสียหายไม่ได้ใช้งานโทรศัพท์

 

 

 


 

ธปท.แจงโดนดูดเงินในบัญชี ไม่เกี่ยวสายชาร์จปลอม

 

 

ปัจจุบันมิจฉาชีพมีวิธีหลอกลวงหลายรูปแบบ อาทิ SMS หลอกลวง , แก๊งคอลเซ็นเตอร์ และแอปพลิเคชัน ให้สินเชื่อปลอม เป็นต้น และมีการปรับเปลี่ยนอย่างต่อเนื่อง โดยล่าสุดใช้การหลอกลวงให้ติดตั้งแอปพลิเคชัน ปลอมที่แฝงมัลแวร์ 

 

ธปท. ได้ดําเนินการเพื่อป้องกันและแก้ไขปัญหา โดยการออกมาตรการต่างๆ ให้ สถาบันการเงินต้องปฏิบัติ และร่วมกับกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม สํานักงาน กสทช. สํานักงาน ปปง. และสํานักงานตํารวจแห่งชาติ เพื่อดําเนินการต่าง ๆ ได้แก่

- ปรับปรุงพัฒนาระบบรักษาความปลอดภัยบน Mobile Banking อย่างต่อเนื่อง

- ปิดกั้นเว็บไซต์หลอกลวงและตัดการเชื่อมต่อกับเครื่องคอมพิวเตอร์ที่มิจฉาชีพใช้ควบคุมเครื่อง
ผู้เสียหายจากระยะไกล

- แก้ไขปัญหา SMS หลอกลวง ที่แอบอ้างชื่อเป็นสถาบันการเงิน

- จัดให้มีช่องทางการรับแจ้งความออนไลน์เพื่อให้ประชาชนแจ้งความได้สะดวกและอายัดบัญชีได้รวดเร็วขึ้น

- ประชาสัมพันธ์สร้างการตระหนักรู้ แจ้งเตือนภัย และให้คําแนะนําประชาชนอย่างต่อเนื่อง

 

ทั้งนี้ สถาบันการเงินจําเป็นต้องพัฒนาเครื่องมือและการตอบสนองให้เท่าทันอย่างสม่ำเสมอ รวมทั้งการพัฒนากลไกความร่วมมือกับผู้ที่เกี่ยวข้องทั้งหน่วยงานภาครัฐและเอกชนให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น

 

 

 

นอกจากนี้ ขอความร่วมมือจากประชาชนเพิ่มความระมัดระวัง เพื่อมิให้ตกเป็นเหยื่อมิจฉาชีพ โดยสามารถป้องกันภัย ในเบื้องต้นได้ ดังนี้

 

1. ไม่คลิกลิงก์จาก SMS LINE และ อีเมลที่มีแหล่งที่มาที่ไม่รู้จักหรือไม่น่าเชื่อถือ

2. ไม่ดาวน์โหลดโปรแกรม นอกเหนือจากแหล่งที่ได้รับการควบคุมและรับรองความปลอดภัยจาก
ผู้พัฒนาระบบปฏิบัติการที่เป็น Official Store อาทิ Play Store หรือ App Store เท่านั้น

3. อัปเดต MobileBanking ให้เป็นเวอร์ชันล่าสุดอยู่เสมอ หรือตั้งค่าให้มีการอัปเดตแบบอัตโนม้ติ ซึ่งจะมีมาตรการป้องกันการควบคุมเครื่องทางไกลรวมถึงมีการปรับปรุงพัฒนาระบบรักษาความมั่นคง ปลอดภัยอย่างสม่ําเสมอ

4. ไม่ใช้เครื่องโทรศัพท์มือถือที่ไม่ปลอดภัยมาทําธุรกรรมทางการเงิน อาทิ เครื่องที่ปลดล็อก (root/jailbreak) เพื่อให้สามารถติดตั้งแอปพลิเคชันใด ๆ ก็ได้ หรือใช้เครื่องที่มีระบบปฏิบัติการล้าสมัย เป็นต้น

5. ร่วมมือกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในการให้ข้อมูลที่ถูกต้อง เพื่อให้การติดตามแก้ไขปัญหาเป็นไปอย่างรวดเร็ว และหากลูกค้าธนาคารพบธุรกรรมผิดปกติ สามารถติดต่อคอลเซ็นเตอร์หรือสาขาของธนาคารที่ ลูกค้าใช้งาน เพื่อแจ้งตรวจสอบและยืนยันความถูกต้องของธุรกรรมในทันที โดยธนาคารจะดูแลแก้ไขปัญหาที่ เกิดขึ้นโดยเร็วที่สุด

 

ทั้งนี้ ธปท. ได้เน้นย้ำให้สถาบันการเงินมีมาตรการดูแลลูกค้าทุกรายอย่างเต็มที่ตามขั้นตอนปฏิบัติ ที่กําหนด ซึ่งหากได้ตรวจสอบและพิสูจน์พบว่าลูกค้าไม่มีส่วนเกี่ยวข้องในการให้ข้อมูลส่วนตัว สถาบันการเงิน ต้องรีบพิจารณาช่วยเหลือและดูแลความเสียหายของลูกค้าโดยเร็วภายใน 5 วัน

 

 

 

 

 

 

 

logoline

ข่าวที่น่าสนใจ