ข่าว

สรุปปมลึก "อดีตรองนายกรัฐมนตรี" เป็นชู้ หรือ เหยื่อเกม หวังตบทรัพย์

เกาะติดข่าวสาร >> คมชัดลึก ออนไลน์
logoline

สรุปปมลึก "อดีตรองนายกรัฐมนตรี" เป็นชู้ หรือ เหยื่อเกม หวังตบทรัพย์ หลังเจ้าตัว ฟ้องฟัน ฉ้อโกง ฝ่ายหญิง ยกครัว

นับเป็นเรื่องร้อนสะเทือนแวดวงการเมือง ตั้งแต่ต้นสัปดาห์ เมื่อมีการเปิดภาพลับเฉพาะ ที่อ้างว่าเป็น อดีตรองนายกรัฐมนตรี มีอายุท่านหนึ่ง เป็นชู้กับภรรยาคนอื่น แต่เรื่องราวกลับอลวน อลเวง เมื่อคดีอาจพลิก แม้จะเป็นชู้จริง แต่อาจเป็นแค่เกมที่สร้างขึ้น เพื่อหวังแบล็คเมลตบทรัพย์ หรือไม่

 

ปมร้อนอดีตรองนายกรัฐมนตรี "ย" เป็นชู้ หรือ เหยื่อเกม

 

1. ประเด็นร้อน ที่ทำเอาต่อมเผือกทำงาน เริ่มจาก ทนายตั้ม ษิทรา เบี้ยบังเกิด เลขาธิการมูลนิธิทีมงานทนายประชาชนฯ โพสต์ภาพแฉ พร้อมข้อความ อ้างว่า นาย ก. เข้ามาปรึกษา หลังจากภรรยามีท่าทีเปลี่ยนไป จึงแอบเอาโทรศัพท์มาดู ทำให้เจอภาพช็อก เพราะภาพที่ปรากฎเป็นภาพภรรยา ถ่ายคู่กับอดีตรองนายกรัฐมนตรีที่ใคร ๆ ก็รู้จัก แบบแนบชิด

2. หลังทราบเรื่อง นาย ก. ได้เป็นโจทย์ฟ้องแพ่ง เรียกค่าตอบแทนจากอดีตรองนายกรัฐมนตรี เป็นจำเลยต่อศาลเยาวชน และครอบครัวกลาง ตั้งแต่เดือน ธ.ค.2565 หวังเรียกค่าเสียหาย กรณีเป็นชู้กับภรรยาของตน แต่อ้างว่า ถูกคุกคาม จึงอยากให้เรื่องสู่สาธารณะ เพื่อความปลอดภัย จึงเข้าร้องต่อทนายตั้ม

 

3. โลกโซเชียล รวมทั้งสื่อจากทุกสำนัก ต่างสืบค้นข้อมูลทันควันว่า อดีตรองนายกรัฐมนตรี เป็นใคร จนได้รับคำใบ้เพิ่มเติมมาว่า เป็นอดีตรองนายกฯ ในสมัยนายกรัฐมนตรีผู้หญิง ชาวเน็ตต่างขุดคุ้ยหาข้อมูล ไล่เรียง รองนายกรัฐมนตรี ในรัฐบาลนี้ มีใครบ้าง ขณะที่ ทนายตั้ม ได้ผุดแชทลับชวนสยิว การพูดคุย ที่อ้างว่าเป็นหญิงสาวกับตัวอดีตรองนายกรัฐมนตรี ออกมาเป็นระยะ

 

4. ต่อมา ทนายตั้ม ตั้งโต๊ะแถลง เปิดคำใบ้เพิ่มเติม อดีตรองนายกรัฐมนตรีเล่นชู้ ว่า รองนายกฯท่านนี้ อายุมากแล้ว เกี่ยวข้องกับกระทรวงมหาดไทย ชอบตีกอล์ฟ แต่ไม่ชอบสนามกอล์ฟอัลไพน์ เคยเป็นสมาชิกพรรคเพื่อไทย เมื่อปี 2551 และพ้นจากสมาชิกเมื่อปี 2561 ส่วนเหตุการณ์ชู้สาวเกิดในปี 2565 และชัดขึ้นไปอีกเมื่อแย้มอักษรย่อ "ย" ออกมา เมื่อคำใบ้ขยับใกล้มากขึ้น ชาวเน็ตจึงเล็งไปที่ อดีตรองนายกรัฐมนตรี ที่มีอักษร "ย" ในชื่อโดยพลัน 

 

5. ภาพลับในโทรศัพท์มือถือ โผล่ขึ้นมาอีก เป็นภาพชายหญิงเปลือยกายกอดกัน ขณะที่ผู้ชายมีผมสีขาว โดยที่ผู้หญิงได้ยกโทรศัพท์มือถือ ถ่ายภาพหน้ากระจกในห้องพักแห่งหนึ่ง ด้วยตัวเอง จากภาพคาดว่า เหตุเกิดช่วงเดือนตุลาคม ปี 2565 ที่นาย ก. มาหา ปรึกษาทนายตั้ม ช่วงเดือนธันวาคม

 

6. ทนายตั้ม อธิบายข้อกฎหมายกับนาย ก.ไปว่า เคสนี้ไม่ใช่คดีอาญา แต่เป็นเรื่องทางแพ่ง ที่ใครก็ตามที่มายุ่งกับภรรยาที่จดทะเบียนสมรสของเราสามารถฟ้องเรื่องชู้สาว เรียกค่าทดแทนได้ และสามารถฟ้องหย่า เรียกค่าทดแทนจากภรรยา และคนที่มาเป็นชู้ได้

เผยภาพลับอดีตรองนายกรัฐมนตรี

7. แต่ยังไม่ทันได้สืบว่าเป็นใคร "ยงยุทธ วิชัยดิษฐ" อดีตรองนายกรัฐมนตรี อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย และ อดีตหัวหน้าพรรคเพื่อไทย ในวัย  80 ปี ออกโรงปกป้องตัวเอง โดยยืนยันว่า ไม่ใช่ตัวเองที่มีพฤติกรรมตามข้อมูลของนายษิทรา เพราะรองนายกฯ มีหลายคน การออกมากล่าวหา พาดพิงไปถึงผู้อื่น อยากให้พรรคเพื่อไทย พิจารณาขับนายษิทรา
ออกจากพรรค 

 

8. ภาพหลุดทยอยออกมาเป็นระยะ ทั้งภาพเปลือยคู่กัน ที่แม้ไม่เห็นหน้าฝ่ายชาย แต่ก็เห็นผมสีดอกเลาโดดเด่น หรือภาพเปิดหน้าชัด ๆ อดีตรองนายกฯ "ย" โอบไหล่สาวสวยรุ่นลูก แชะภาพด้วยกันอย่างเปิดเผย รวมทั้ง ภาพถ่ายร่วมกับครอบครัวของฝ่ายหญิงสาว ที่ไม่การันตีว่า เป็นพ่อ แม่ ญาติพี่น้อง หรือมีการจัดฉาก  

แชทหลุดอดีตรองนายกรัฐมนตรี ขอบคุณภาพจากเพจ ษิทรา เบี้ยบังเกิด

9. แต่ประเด็นได้เบี่ยงเบนไป เมื่อมีการตั้งข้อสังเกตที่น่าสนใจ อันจะเป็นเหตุทำให้คดีพลิก และกระแสตีกลับ เพราะมีการวิเคราะห์ไปในทางเดียวกันว่า อดีตรองนายกรัฐมนตรี "ย" อาจเป็นเหยื่อของเกมพิศวาสนี้หรือไม่ เพราะนาย ก. จะไม่มีสิทธิฟ้องร้องได้ หากไม่ได้จดทะเบียนสมรสกัน ถึงแม้จะอยู่บ้านเดียวกันก็ตาม เพราะจนถึงขณะนี้ ก็ยังไม่มีการยืนยันแน่ชัด ในประเด็นทะเบียนสมรส จึงมีการตั้งข้อสังเกตว่า อาจเป็นแผนการส่งฝ่ายหญิงไปล่อลวง เพื่อร่วมกันแบล็กเมล์ตบทรัพย์หรือไม่ 

 

10. คดีฟ้องแพ่งเรียกค่าเสียหายอดีตรองนายกฯ ย.เป็นชู้ เริ่มอลวน เมื่อมีคดีฟ้องกลับ โผล่ที่ สน.บางยี่ขัน หลังอดีตรองนายกรัฐมนตรี "ย" เข้าแจ้งความร้องทุกข์ ให้ดำเนินคดี 4 ผู้ถูกกล่าวหา ประกอบไปด้วย สามี คือ นาย ก. , ภรรยา และ พ่อกับแม่ฝ่ายหญิง ในข้อหาร่วมกันฉ้อโกง ซึ่งศาลพิจารณาสั่งฟ้อง และพนักงานสอบสวนนำตัวผู้ต้องหาที่ 1-3 นำตัวส่งพนักงานอัยการคดีอาญาตลิ่งชัน 2 พิจารณาสำนวนแล้ว แต่จำเลยที่ 4 คือพ่อฝ่ายหญิง ล่องหน จนถูกศาลอาญาตลิ่งชันออกหมายจับ

 

11. มีการเปิดเผยที่มาคดีฉ้อโกงว่า คดีเกิดขึ้นตั้งแต่ปี 2564-2565 มีรายงานว่า อดีตรองนายกรัฐมนตรี ถูกหญิงสาวหลอกว่ายังไม่ได้แต่งงาน ทั้งที่แต่งงานจดทะเบียนสมรสกับนาย ก.มาตั้งแต่ปี 2560 ทำให้อดีตรองนายกฯ หลงเชื่อ นำทรัพย์สินรวมมูลค่ากว่า 19 ล้านบาทไปสู่ขอกับพ่อและแม่ แต่เมื่อได้ทรัพย์สินไปทั้งหมดแล้ว ต่อมาช่วงเดือน พ.ย.2565 ได้เริ่มตีตัวออกห่าง และเลิกกับอดีตรองนายกรัฐมนตรี ทำให้รู้ตัวว่าถูกหลอก จึงเข้าแจ้งความดำเนินคดีในข้อหาฉ้อโกง

 

12. ล่าสุด ทนายตั้ม เตรียมเข้าแจ้งความเอาผิดอดีตรองนายกรัฐมนตรี ในข้อหาแจ้งความเท็จ ที่ สน.บางยี่ขัน ในวันที่ 12 ม.ค.2566

 

คดีที่ตกเป็นข่าวอื้อฉาวคาวสวาทในวัย 80 ปี ของอดีตรองนายกรัฐมนตรี บทสรุปของเรื่องนี้จะเป็นอย่างไร คงต้องติดตามดูกันต่อไป

 

 

 

logoline

ข่าวที่น่าสนใจ