ข่าว

เปิดโปง อดีต "หัวหน้าอุทยาน" ลักลอบตัดไม้มีค่า-ยักยอกเงิน

เกาะติดข่าวสาร >> คมชัดลึก ออนไลน์
logoline

เปิดโปง ขบวนการทุจริตภายใน "อุทยานแห่งชาติแม่ตะไคร้" แฉ อดีต หัวหน้าอุทยาน มีพฤติกรรมลักลอบตัดไม้มีค่า-ยักยอกเงิน

(9 มกราคม 2565) นายวีระ สมความคิด ประธานเครือข่ายประชาชนต้านคอร์รัปชัน (คปต.) เดินทางลงพื้นที่ตรวจสอบอุทยานแห่งชาติแม่ตะไคร้ อ.ดอยสะเก็ด จ.เชียงใหม่ หลังพบว่ามีการทุจริตภายในอุทยานฯ โดยอดีตหัวหน้าอุทยานฯ ซึ่งนายวีระ ระบุว่า พบการกระทำความผิดอย่างชัดเจน ทั้งหลักฐานคลิปวีดีโอ และ สลิปเงินเดือนแม่บ้าน รวมถึงการเบิกจ่าย โครงการเดินลาดตระเวน ที่ไม่มีคนเดินจริง แม้จะมีการร้องเรียนไปยังผู้ที่เกี่ยวข้อง แต่กลับไม่คืบหน้า จึงอยากให้ผู้มีส่วนเกี่ยวข้องเร่งดำเนินการ เพื่อให้ความจริงปรากฏ และ ทุกฝ่ายได้รับความเป็นธรรม

 

นายสมบูรณ์ สมรักษ์ หัวหน้าหน่วยพิทักษ์อุทยานแห่งชาติแม่ตะไคร้ที่ 2 (ปางแฟน) เปิดเผยว่า ตั้งแต่ปี 2558 อดีตหัวหน้าอุทยานแห่งชาติแม่ตะไคร้ ผู้บังคับบัญชา ได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่ภายในอุทยานฯ ทำการฉีดยาฆ่าหญ้า กับต้นไม้ ที่อยู่ในเขตอุทยานฯ เพื่อให้ต้นไม้ยืนต้นตาย จากนั้น จึงล้มไม้ แล้วเอามาแปรรูป ในพื้นที่หน่วยพิทักษ์อุทยานในสังกัด โดยอ้างว่า ไม้ยืนต้นตายในป่า จึงต้องโค่นทิ้ง

กระบวนการทั้งหมด ใช้เจ้าหน้าที่อุทยานเป็นคนทำ เพื่อเอาไม้แปรรูปไปขาย หรือส่งให้กับผู้ใหญ่ในกรมอุทยานฯ ส่วนเงินที่ได้จากการขายไม้แปรรูป ไม่รู้ว่าจะไปอยู่กับใคร ซึ่งการแปรรูปใช้อุปกรณ์ เจ้าหน้าที่ และ รถของอุทยานฯ ในการขนส่ง ทำให้ตนต้องออกมาร้องเรียนถึงพฤติกรรมที่เกิดขึ้น ทั้งที่สำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 16 รวมถึง ร้องเรียนไปยังกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม

ขบวนการทุจริตลักลอบต้นไม้มีค่า-ยักยอกเงิน

โดยหลังจากร้องเรียนไปเมื่อปี 2563 เรื่องก็ยังเงียบ มีเพียงคำสั่งย้ายอดีตหัวหน้าอุทยาน ไปรับราชการในพื้นที่อื่น ขณะเดียวกัน หลังร้องเรียนตนเองโดนกลั่นแกล้งอย่างต่อเนื่อง ทั้งไม่มีการขึ้นเงินเดือน และถูกโยกย้ายไม่เป็นธรรม จึงออกมาเรียกร้อง  เพื่อขอความเป็นธรรม ให้กับตัวเอง

 

ทั้งนี้ ยังมีการเปิดโปงพฤติกรรมของอดีตหัวหน้าอุทยานรายนี้ว่า ทำการทุจริต โดยการตั้งเบิกเงินเบี้ยเลี้ยงล่วงเวลา ในส่วนโครงการ smart patrol หรือ การลาดตระเวนเชิงคุณภาพ ทั้งที่ไม่มีการเดินลาดตะเวนล่วงเวลาจริง หรือ ลาดตระเวนจริง แต่เดินไม่ครบชุด

ขบวนการทุจริตลักลอบต้นไม้มีค่า-ยักยอกเงิน

ซึ่งชุดลาดตระเวน 1 ชุด จะมี 5 คน โดยจะมีการจ่ายเงินประมาณ 2,500 บาทต่อเดือนต่อคน แต่ไปเดินจริงแค่ 2 คน และมีการเบิกเงินทั้งหมด 5 คน และมีชื่อบุคคล 2 คน ที่มีรายชื่อเบิกเงิน แต่ไม่เคยมาทำงาน พอร้องเรียนก็ถูกกลั่นแกล้งโยกย้ายไม่เป็นธรรม เงินเดือนไม่ขึ้น ทำให้ส่งผลกระทบกับการดำเนินชีวิต และ ส่งผลกระทบกับพื้นที่ป่าที่รับผิดชอบ

ขบวนการทุจริตลักลอบต้นไม้มีค่า-ยักยอกเงิน

ด้าน ลูกจ้างโครงการรายหนึ่ง ก็ได้ออกมาเปิดเผยข้อมูลว่า อดีตหัวหน้าอุทยานแห่งชาติแม่ตะไคร้ ได้ว่าจ้างให้ทำงานเป็นแม่บ้าน โดยได้รับเงินเดือน เดือนละ 6,000 บาท เป็นการจ้างแบบ TOR แต่มีเงินเข้าบัญชี เดือนละ 32,000 ทุกเดือน โดยการจ่ายเงินเดือน อดีตหัวหน้าอุทยานฯ จะให้ตนเองไปกดเงินจากตู้เอทีเอ็ม มาจำนวน 32,000 บาท แล้วให้หักเก็บไว้ 6,000 บาท เป็นเงินเดือน ส่วนอีก 26,000 บาท นำมามอบให้หัวหน้า เป็นเวลานานกว่า 80 เดือน

ขบวนการทุจริตลักลอบต้นไม้มีค่า-ยักยอกเงิน

จากนั้น มีการร้องเรียนกับทาง ปปช. จนกระทั่งมีการตรวจสอบ จึงทำให้ทราบว่า จริง ๆ แล้ว พบว่า ชื่อตนเองมีตำแหน่งทำงานเป็นถึงระดับนักวิชาการป่า ทั้งที่จบแค่ ป.6  และตนเองก็ไม่รู้ว่าเงินส่วนต่างจำนวน 26,000 บาท ที่ทางอดีตหัวหน้าอุทยานฯ คนนี้รับไป นำไปใช้อะไรบ้าง

อุทยานแห่งชาติแม่ตะไคร้

 

โดย วสันต์ ปัญญาเรือน

logoline