"โควิด19" ยังกลายพันธุ์ไม่หยุด "หมอยง" ย้ำ การกลายพันธุ์ ไม่มีผลต่อการใช้ ยาต้านไวรัส ล่าสุด เป็นสายพันธุ์ BA.2.75 เกือบทั้งหมด
"หมอยง" ศ.นพ.ยง ภู่วรวรรณ หัวหน้าศูนย์เชี่ยวชาญเฉพาะทางด้านไวรัสวิทยา คลินิกภาควิชากุมารเวชศาสตร์ คณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย โพสต์ผ่านเฟสบุ๊ก Yong Poovorawan เปิดข้อมูลถึงกรณี การกลายพันธุ์ของ "โควิด19"
ซึ่งจากการศึกษาที่ศูนย์ศึกษาสายพันธุ์มาโดยตลอด ด้วยการถอดรหัสพันธุกรรม จะเห็นการเปลี่ยนแปลงของสายพันธุ์มาโดยตลอด สายพันธุ์ "โอไมครอน" เป็นสายพันธุ์ที่อยู่มาตั้งแต่ต้นปี แต่มีลูกหลานเป็นสายพันธุ์ย่อยตั้งแต่เริ่มระบาดเข้ามาเป็น BA.1 แล้วก็เปลี่ยนเป็น BA.2 ตั้งแต่เดือนมิถุนายนเป็นต้นมา BA.5 ก็เข้ามาแทนที่
โดยที่ BA.4 ไม่สามารถต่อขึ้นมาได้ และใน 2 เดือนนี้ ก็ถูกแทนที่ด้วย BA.2.75 โดยที่ขณะนี้เป็นสายพันธุ์ BA.2.75 เกือบทั้งหมด และต่อไปถ้ามีการระบาด สายพันธุ์ต่างประเทศตะวันตก คือ BQ.1 และ BQ.1.1 ก็คงจะเข้ามาแทนที่ต่อไปอีก
อย่างไรก็ตามการเปลี่ยนแปลงจะมีขึ้นตลอดเวลา ส่วนระบบ ภูมิต้านทาน ในการป้องกันการติดเชื้อ ก็เป็นที่ทราบกันดีแล้วว่า เมื่อติดเชื้อแล้วหรือฉีดวัคซีนแล้ว ก็ยังมีโอกาสติดเชื้อซ้ำได้อีก แต่การเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นจะเปลี่ยนแปลงเฉพาะผิวนอก ตัวโครงสร้างของไวรัสยังคงเดิม การกำจัดเชื้อไวรัสเพื่อลดความรุนแรงของโรค โดยเฉพาะระบบ T เซล ยังทำงานได้ดี
วัคซีนที่พัฒนาขึ้นมา ก็จะไล่ไม่ทันการเปลี่ยนแปลงบริเวณผิวนอก หรือสายพันธุ์ที่เปลี่ยนแปลงไปทีละเล็กละน้อย วัคซีน 2 สายพันธุ์ ก็ไม่ได้เหนือกว่าวัคซีนเดิมมาก และเมื่อมีการเปลี่ยนแปลงพันธุกรรมไปอีกก็คงจะไม่ต่างกันมาก อย่างไรก็ตามเมื่อมนุษย์เรารู้จักและประชากรส่วนใหญ่มีภูมิต้านทานเกิดขึ้น ความรุนแรงของโรคก็จะลดลง ประกอบกับมียารักษาที่ดีขึ้น ทุกอย่างก็จะมีแนวโน้มที่ดีขึ้น โดยที่สายพันธุ์ก็จะมีการเปลี่ยนแปลงไปตลอด ทีละเล็กละน้อย เหมือนกับไข้หวัดใหญ่
การกลายพันธุ์ของไวรัส ไม่มีผลต่อยาที่ใช้รักษา
ไวรัส "โควิด19" มีการกลายพันธุ์เรื่อยมา ทุกคนทราบกันดี การกลายพันธุ์เปลี่ยนแปลงพันธุกรรมในส่วนของหนามแหลม ทำให้มีผลต่อวัคซีนที่ใช้ในการป้องกันมีประสิทธิภาพลดลง และยาในกลุ่มของแอนติบอดี รวมทั้งโมโนโคลนอลแอนติบอดี มีประสิทธิภาพลดลง
ส่วนยาที่ใช้รักษา ไม่ว่าจะเป็น remdicevir และ molnupiravir มีผลต่อการแบ่งตัวของไวรัสโดยขัดขวาง RNA dependence RNA polymerase ส่วนยา paxlovid ขัดขวาง enzyme protease ไม่ได้อยู่ในส่วนที่มีการกลายพันธุ์ของไวรัส
ดังนั้น การกลายพันธุ์ของไวรัสในปัจจุบันจึงยังไม่มีผลต่อประสิทธิภาพของการให้ยาต้านไวรัส ในการรักษาดังกล่าว ยาต้านไวรัส ที่กล่าวถึงจึงยังมีประสิทธิภาพในการรักษาเหมือนเดิมถึงแม้ว่าไวรัสจะกลายพันธุ์
ข่าวที่เกี่ยวข้อง