สอบ. ย้ำ "ร้านยา" ต้องมี เภสัชกร อยู่ประจำ พร้อมชงหน่วยงานดูแลอย่างเข้มงวด
สอบ. ย้ำ "ร้านยา" ต้องมี เภสัชกร อยู่ประจำ พร้อมชงหน่วยงานที่เกี่ยวข้องต้องดูแลอย่างเข้มงวด ตามประกาศ วิธีปฏิบัติทางเภสัชกรรมฯ
จากกรณีที่ "ร้านยา" ขนาดเล็กร้องเรียนขอความเป็นธรรมยกเลิกการผ่อนผันตามประกาศของกระทรวงสาธารณสุข ที่กำหนดให้ "ร้านยา" จะต้องมี เภสัชกร อยู่ประจำร้าน และเริ่มบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 1 ตุลาคม 2565 โดยอ้างว่าปัญหาคือจำนวน เภสัชกร ไม่เพียงพอ ทำให้ผู้ประกอบการ "ร้านยา" ไม่สามารถดำเนินการตามระเบียบดังกล่าวได้นั้น วันที่ 27 ตุลาคม 2565 ภก.ภาณุโชติ ทองยัง ประธานอนุกรรมการด้านอาหาร ยา และผลิตภัณฑ์สุขภาพ สภาองค์กรของผู้บริโภค ระบุว่า การบังคับใช้ ประกาศกระทรวงสาธารณสุข เรื่อง การกำหนดเกี่ยวกับสถานที่ อุปกรณ์ และวิธีปฏิบัติทางเภสัชกรรมชุมชนในสถานที่ขายยาแผนปัจจุบันตามกฎหมายว่าด้วยยา พ.ศ. 2557 อย่างเข้มงวดจะทำให้ผู้บริโภคได้รับบริการด้านยาอย่างเป็นมาตรฐานเดียวกัน
ทั้งนี้ สภาองค์กรของผู้บริโภค ได้ส่งความเห็นและข้อเรียกร้องถึงกระทรวงสาธารณสุข สภาเภสัชกรรม และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง โดยย้ำว่า ผู้บริโภคต้องได้รับความปลอดภัยจากการใช้ยา เรียกร้อง "ร้านยา" ให้ความสำคัญกับการคุ้มครองผู้บริโภค พร้อมเสนอให้รัฐเร่งกวดขันให้ เภสัชกร อยู่ทำหน้าที่ตามกฎหมายอย่างแท้จริงและกำหนดนโยบายส่งเสริมการใช้ยาอย่างสมเหตุผล
โดยประกาศกระทรวงสาธารณสุข ดังกล่าวถูกใช้ตั้งแต่ 30 กันยายน 2557 แต่มีการผ่อนผันเป็นระยะเวลา 8 ปีสำหรับ "ร้านยา" ที่เริ่มดำเนินการตั้งแต่ก่อนมีประกาศ เพื่อให้เวลาเตรียมตัวและปรับตัว ดังนั้นเมื่อครบตามกำหนดผ่อนผันแล้ว ก็ควรบังคับใช้ประกาศดังกล่าวอย่างเข้มงวดเพื่อให้ผู้บริโภคได้รับแนะนำในการใช้ยาที่ถูกต้อง ครบถ้วน และเป็นมาตรฐานเดียวกัน ทั้งนี้ จากข้อมูลของสภาเภสัชกรรม ปัจจุบันมี เภสัชกร มากกว่า 45,000 คนกระจายอยู่ทั่วประเทศ โดยในแต่ละปีจะมี เภสัชกร ที่จบการศึกษาจาก 19 สถาบันถึงปีละ 1,700 - 1,800 คน จึงเป็นข้อยืนยันว่ามี เภสัชกร เพียงพอ
สำหรับความเห็นและข้อเรียกร้อง ที่สภาองค์กรของผู้บริโภคส่งไปถึงกระทรวงสาธารณสุข และสภาเภสัชกรรม และหน่วยงานต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้อง มี 4 ข้อ ดังนี้
- ขอให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องคำนึงถึงเรื่องความปลอดภัยของผู้บริโภคจากการใช้ยาเป็นสำคัญ ทั้งการส่งมอบยา การแนะนำ และการติดตามผลจากการใช้ยา ดังนั้น จึงไม่ควรปล่อยให้มีการส่งมอบยาโดยผู้ที่ขาดความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับยา เพราะจะทำให้เกิดความเสี่ยงกับผู้บริโภค
- ขอให้หน่วยงานภาครัฐเร่งดำเนินการให้ร้านยาเป็นแหล่งกระจายยาอย่างเหมาะสม รวมทั้งพัฒนาให้เป็นสถานบริการด้านยาในชุมชน เชื่อมร้อยกับระบบประกันสุขภาพ เพื่อให้สอดคล้องกับนโยบายส่งเสริมการใช้ยาอย่างสมเหตุผลของรัฐบาล
- ขอให้แสดงความจริงจังในการคุ้มครองผู้บริโภคให้ได้รับความปลอดภัยทางด้านยา โดยเร่งกวดขันให้เภสัชกรอยู่ทำหน้าที่ตามกฎหมายอย่างแท้จริง
- เรียกร้อง "ร้านยา" ให้ความสำคัญกับคุ้มครองผู้บริโภค โดยดำเนินการตามประกาศกระทรวงสาธารณสุข เรื่อง การกำหนดเกี่ยวกับสถานที่ อุปกรณ์ และวิธีปฏิบัติทางเภสัชกรรมชุมชนในสถานที่ขายยาแผนปัจจุบันตามกฎหมายว่าด้วยยา พ.ศ. 2557 ที่กำหนดให้ร้านขายยาจะต้องมีเภสัชกรอยู่ประจำร้าน เพื่อให้ผู้บริโภคได้รับบริการด้านยาอย่างเป็นมาตรฐานเดียวกัน
ติดตาม คมชัดลึก ที่นี่
Facebook : https://www.facebook.com/komchadluek/
YouTube : https://www.youtube.com/channel/UCnniqWGq9lOqYd5sGWxVi7w