"รมว.แรงงาน" เตือน นายหน้าเถื่อนระบาดในโซเชียล หลอกคนไทยทำงานที่สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ พฤติกรรมทักชักชวนในแชท ก่อนบังคับให้ลบทำลายหลักฐาน อ้างป้องกันสืบสวน
มื่อวันที่ 11 ต.ค. นาย สุชาติ ชมกลิ่น รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน เปิดเผยว่า ได้รับรายงานจากฝ่ายแรงงานประจำสถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงอาบูดาบี สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ ว่า มีผู้เสียหายจากการถูกสาย-นายหน้าเถื่อน โฆษณาชักชวนไปทำงานในประเทศสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ ทางสื่อออนไลน์ ผ่านเพจ Facebook ชักชวนผ่านการแชท เพื่อให้ไปทำงานในตำแหน่งนวดสปา นวดแอบแฝงค้าบริการ
อ้างว่ามีรายได้ดี ค่าจ้างเดือนละ 50,000 - 100,000 บาท และจะเป็นผู้จัดการเรื่องค่าใช้จ่ายในการเดินทาง พร้อมทั้งจะออกค่าตั๋วเครื่องบิน ค่าวีซ่าท่องเที่ยว ค่าหนังสือเดินทาง และค่าที่พัก ให้ก่อน เมื่อผู้เสียคนหายหลงเชื่อ ตกลงเดินทาง สาย-นายหน้าเถื่อนจะเป็นคนจัดการเรื่องการเดินทาง ให้ลบข้อความแชทเพื่อไม่ให้เจ้าหน้าที่ตรวจสอบได้
เมื่อเดินทางไปถึงจะถูกให้เซ็นสัญญาการรับสภาพหนี้ และพาไปทำงานอื่นที่ไม่ได้ตกลงไว้ เช่น งานในร้านนวดที่มีการลักลอบขายบริการทางเพศ งานด้านการพนันออนไลน์ ระหว่างนี้จะยึดหนังสือเดินทางไว้ เพื่อไม่ให้เหยื่อหนี ซึ่งการโฆษณารับสมัครงานดังกล่าว เป็นโฆษณาชักชวนคนไทยให้เดินทางเข้ามาทำงานในธุรกิจที่ผิดกฎหมาย มีหญิงไทยตกเป็นเหยื่อถูกบังคับค้าประเวณีและขอรับความช่วยเหลือจากหน่วยงานภาครัฐเป็นจำนวนมาก
นายสุชาติ กล่าวว่า สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์นั้น มีกฎหมายแรงงานที่เข้มงวดและรุนแรง ซึ่งการค้าประเวณีถือเป็นการกระทำที่ผิดกฎหมาย มีโทษทั้งจำทั้งปรับหรือตามที่ศาลพิจารณาและจะถูกเนรเทศ
"ในฐานะรัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงานไม่เคยนิ่งนอนใจ สั่งการกรมการจัดหางานเพิ่มความเข้มงวดตรวจสอบการลักลอบเดินทาง และประชาสัมพันธ์คนหางาน รู้ทันเล่ห์กลของสาย-นายหน้าเถื่อน และช่วยเป็นหูเป็นตาและแจ้งเบาะแสต่อเจ้าหน้าที่ได้" รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน กล่าว
ด้านนายไพโรจน์ โชติกเสถียร อธิบดีกรมการจัดหางาน แนะนำ คนไทยที่กำลังหางานในต่างประเทศ หาก ถูกชักชวนให้ทำงานผิดกฎหมาย ให้ลักลอบเข้าประเทศหรือไปทำงานต่างประเทศโดยไม่แจ้งกับกรมการจัดหางาน ให้สันนิษฐานเป็นลำดับแรกว่า "กำลังถูกหลอกลวง" โปรดอย่าหลงเชื่อ
ซึ่งขณะนี้ผู้ที่เดินทางเข้าสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ จะต้องแสดงเอกสารหลักฐาน เช่น ตั๋วเครื่องบินขากลับ การจองที่พัก ขณะเดียวกันเจ้าหน้าที่ตำรวจ มีความเข้มงวดอย่างมากในการจับกุมผู้ใช้วีซ่าผิดประเภทและผู้ถือวีซ่าหมดอายุ
สำหรับโทษผู้ที่ลักลอบเข้าทำงาน
ผู้ที่เดินทางด้วยวีซ่าท่องเที่ยว หากพบว่าลักลอบทำงาน มีโทษปรับ 50,000 ดีแรห์ม หากกระทำผิดซ้ำจะถูกปรับสองเท่า และถูกเนรเทศ หากไม่มีเงินค่าปรับ ต้องจำคุกแทนค่าปรับวันละ 100 ดีแรห์ม
ผู้ที่อยู่เกินวีซ่า (Overstay) จะโดนปรับวันแรก 200 ดีแรห์ม และวันต่อไปวันละ 100 ดีแรห์ม และค่าธรรมเนียมอีก 100 ดีแรห์ม
โดยความผิดที่มีการค้าประเวณีมีโทษจำคุกอย่างน้อย 2 เดือน ถูกปรับหรือตามที่ศาลพิจารณาและถูกเนรเทศ
อย่างไรก็ตาม หากใครถูกกักขัง ทำร้ายร่างกาย หรือเกรงว่าจะเกิดอันตรายแก่ตนเอง ขอให้แจ้งความกับเจ้าหน้าที่ตำรวจโดยทันที หรือขอความช่วยเหลือโดยกดหมายเลขโทรศัพท์ฉุกเฉิน (999) หรือ Facebook ตำรวจดูไบ Dubai Police
ติดตาม คมชัดลึก ที่นี่
เพิ่มเพื่อน Line https://lin.ee/qw9UHd2
ข่าวที่เกี่ยวข้อง