ข่าว

เตือนรัฐบาลรับมือ "พายุเข้าไทย" จัดการอย่างไรกับ พายุโนรู

เกาะติดข่าวสาร >> คมชัดลึก ออนไลน์
logoline

พายุเข้าไทย อย่างต่อเนื่อง อดีต ผอ.ศูนย์เตือนภัยพิบัติแห่งชาติ เตือนรัฐบาลรับมือ "พายุโนรู" 30-35 ล้านคน ได้รบผลกระทบ

ปลอดประสพ สุรัสวดี  ประธานด้านนโยบายปฏิรูปโครงสร้างพื้นฐานด้านการจัดการ"น้ำ" พรรคเพื่อไทย และอดีตรองนายกรัฐมนตรี  อดีต ผอ.ศูนย์เตือนภัยพิบัติแห่งชาติคนแรกของประเทศไทย  เตือน รัฐบาลเตรียมการรับมือกับพายุโนรูที่จะสร้างความรุนแรงและความเสียหายให้กับประเทศไทยเป็นอย่างมาก โดยข้อมูลที่รัฐบาลควรรู้  เกี่ยวกับพายุเข้าไทยประกอบด้วย

 

ปลอดประสพ สุรัสวดี ประธานด้านนโยบายปฏิรูปโครงสร้างพื้นฐานด้านการจัดการน้ำ พรรคเพื่อไทย

พายุโนรูจะเป็นพายุโซนร้อนที่ใหญ่ที่สุดลูกหนึ่ง  นับตั้งแต่ที่ประเทศไทยเคยประสบมา ขนาดของ"พายุ" ลูกนี้  ครอบคลุมเนื้อที่ภาคเหนือ ตะวันออกเฉียงเหนือและภาคกลาง รวมพื้นที่ทั้งหมดครึ่งหนึ่งของประเทศ หรือมากกว่า 250,000 ตารางกิโลเมตร พี่น้องประชาชน 30-35  ล้านคน จะได้รับผลกระทบ เพราะจะทำให้ฝนตกหนัก 100-300 มิลลิเมตรหรือมากกว่าในบางพื้นที่   ซึ่งถือว่าเป็นปริมาณฝนที่สูงมาก ปริมาณฝนดังกล่าวจะเพิ่มน้ำท่า 100,000 ลูกบาศก์เมตร หรือเท่ากับปริมาณน้ำในเขื่อนภูมิพล 10 เขื่อน

แม้เขื่อนขนาดใหญ่ เช่น เขื่อนภูมิพล และเขื่อนสิริกิติ์ จะมีความสามารถรับน้ำได้อีก 10,000 ลูกบาศก์เมตร และระบบน้ำในภาคเหนือ รับน้ำได้อีก 10,000 ลูกบาศก์เมตร  แต่ขณะนี้พื้นที่ภาคกลางอิ่มตัวแล้ว ไม่มีความสามารถซึมน้ำได้อีก  ดังนั้นปริมาณน้ำฝน 100,000 มิลลิเมตร จะมีน้ำเหลือ  ไหลลงสู่ภาคกลาง 70,000-80,000 ลูกบาศก์เมตร และบางพื้นที่"น้ำท่วม" ลงมา ในลักษณะหน้ากระดาน

 

พายุลูกนี้ เป็นพายุลูกที่ 16 แต่เป็นพายุที่ให้น้ำมากที่สุดในประวัติศาสตร์ เมื่อผสมความชื้นในทะเลจีนตอนใต้ และมีร่องมรสุมในพาดผ่านตรงกลาง  มีหน้าที่เป็นกับดักความชื้นที่ถูกป้อนจากมหาสมุทร   รัฐบาลจึงต้องเร่งเตรียมการ  เพราะปริมาณน้ำจากพายุโนรู จะไหลลงสู่พื้นที่กรุงเทพมหานครในช่วงเวลาเดียวกันกับน้ำทะเลขึ้นสูง  ซึ่งยากต่อการระบายเป็นอย่างมาก และต่อจากนี้เชื่อว่าจะมีพายุเข้ามาอีก 1-3 ลูก แต่ความรุนแรงน้อยกว่า

จากการคาดการณ์ดังกล่าว รัฐบาลต้องเตรียมการ รับมือพายุเข้าไทย 5 ข้อ ได้แก่

 

ต้องเตรียมการเผชิญเหตุภายในอีก 24 ชั่วโมง โดยต้องทุ่มเทสรรพกำลังในการเผชิญเหตุประกอบไปด้วย การตั้งหน่วยเผชิญเหตุประจำตำบล   เรียกทหารประจำการกระจายไปในตำบล เพื่อช่วยเหลือกำนัน ผู้ใหญ่บ้านในการเผชิญเหตุ  จัดเตรียมเครื่องมือในการเผชิญเหตุให้พร้อม เช่น เรือบด เชือกฯลฯ  พื้นที่ที่ได้รับกระทบ เช่น พื้นที่ราบ ควรใช้ทหาร  ส่วนพื้นที่บนเขา เจ้าหน้าที่กรมอุทยานและกรมป่าไม้ ประจำการในพื้นที่ใกล้หมู่บ้าน ประชาชน และให้ตำรวจอยู่ในเมืองอย่างเดียว

 

เมื่อผ่านระยะ 3 วันไปแล้วจะเป็นระยะค้นหา ช่วยเหลือ   ต้องเตรียมการอุปกรณ์ช่วยเหลือให้พร้อม เช่น เรือ เฮลิคอร์ปเตอร์ อุปกรณ์ให้กับกลุ่มงานทั้ง 3 กลุ่มข้างต้น รัฐบาลต้องตั้งวอร์รูม เพิ่มการทำงานให้มีบทบาทที่ชัดเจนและจริงจังมากกว่านี้  จัดหาบุคลากรที่มีความรู้ และมีอำนาจเต็มเข้าไปสั่งการโดยตรง  และต้องเป็นคนรู้จริง  ทั้งนักวิชาการ  ผู้มีประสบการณ์ ผู้มีความรู้  ต้องประกาศเป็นวันหยุดราชการทันทีตั้งแต่วันที่27 กันยายน 2565 เป็นต้นไป เช่นเดียวกับเวียดนามที่ดำเนินการแล้ว ทั้งปิดโรงเรียน สถานที่ราชการ ฯลฯ

ตั้งวอร์รูมในทำเนียบรัฐบาล  ต้องเปิดระบบทีวีพูลและวิทยุพูล โดยต้องออกข่าวอย่างต่อเนื่อง  สื่อสารไปยังประชาชน  อย่างเช่น เมื่อครั้งเกิดภัยพิบัติสึนามิ เมื่อปี 2547 เจ้าหน้าที่รายงานของทีวีพูลประจำการที่ตนตลอดและต้องสั่งการให้รัฐมนตรีที่ไม่เกี่ยวข้องเข้าไปในพื้นที่ประสบเหตุโดยเด็ดขาด  ไม่ต้องลงพื้นที่โดยไม่จำเป็น

 

“สิ่งที่พรรคเพื่อไทยกังวลมากๆ คือ   ขณะนี้โชคร้ายที่ประเทศไทยไม่มีนายกรัฐมนตรีตัวจริง สร้างความกังวลให้กับประชาชน  เพราะไม่กล้าสั่งการหน่วยงาน  พรรคร่วมรัฐบาลยังมีการแตกขั้ว  ณ วินาทีนี้ มีพายุใหญ่ลูกใหญ่ที่สุดในโลก 3 ลูก  เป็นเสียงเตือนภัยให้กับรัฐบาลในปัจจุบันและรัฐบาลในอนาคต  ว่าเกิดความผิดปกติ  ซึ่งเชื่อได้ว่าเกิดภาวะโลกร้อน รัฐบาลต้องเตรียมตัว เตรียมแผน เตรียมสมองให้พร้อม  ไม่อยากให้ประชาชนเดือดร้อนเพราะ "น้ำท่วม" อีก

 

ติดตาม คมชัดลึก ที่นี่

 

Line:https://lin.ee/qw9UHd2-

 

YouTube:https://www.youtube.com/channel/UCnniqWGq9lOqYd5sGWxVi7w

 

เช็กรายชื่อศิลปินเข้าชิง "คมชัดลึก ลูกทุ่ง Awards 2565" ใครคือ 6 Candidate กับ 8  สาขา Popular Vote

 

https://www.komchadluek.net/entertainment/524524

logoline

ข่าวที่น่าสนใจ