ข่าว

"อาการโรค RSV" หมอ เตือน ติดง่าย ไม่มียารักษา รุนแรงถึงขั้น ปอดอักเสบ

เกาะติดข่าวสาร >> คมชัดลึก ออนไลน์
logoline

เฝ้าระวัง "โรค RSV" กำลัง ระบาด หมอ เตือน ติดง่าย ไม่มียารักษา เช็ค อาการโรค RSV เบื้องต้นเป็นอย่างไร รุนแรงถึงขั้น ปอดอักเสบ

ในช่วงฤดูฝนและฤดูหนาว มีโอกาสพบโรคติดต่อได้หลายโรค โดยเฉพาะกับในเด็ก ไม่ว่าจะเป็น มือเท้าปาก,โรคไข้หวัด, ไข้หวัดใหญ่ และหนึ่งในนั้น คือโรคติดเชื้อทางเดินหายใจจากเชื้อไวรัสอาร์เอสวี RSV (Respiratory Syncytial Virus: RSV) หรือ โรค RSV ซึ่งกรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข ได้แนะนำให้ผู้ปกครอง เฝ้าระวังสังเกตอาการโรค RSV ในบุตรหลานอย่างใกล้ชิด โดยเฉพาะเด็กเล็กที่อายุไม่เกิน 5 ขวบ ระวังป่วยด้วยโรคติดเชื้อทางเดินหายใจจากเชื้อไวรัส RSV เนื่องจากพบได้บ่อยในช่วงฤดูฝนไปจนถึงฤดูหนาว

(17 กันยายน 2565) นายแพทย์โอภาส การย์กวินพงศ์ อธิบดีกรมควบคุมโรค กล่าวว่า จากข้อมูลการเฝ้าระวังโรคไข้หวัดใหญ่และโรคติดเชื้อระบบทางเดินหายใจในประเทศไทย ตั้งแต่วันที่ 1 ม.ค. - 2 ก.ย. 2565 พบว่า ในกลุ่มเด็กอายุต่ำกว่า 5 ปี จำนวน 1,445 ราย มีผลตรวจพบเชื้อ RSV จำนวน 131 ราย (ร้อยละ 9) โดยตรวจพบเชื้อมากที่สุดในเด็กอายุต่ำกว่า 2 ปี (ร้อยละ 58) โดยพบจำนวนผู้ป่วยสูงขึ้น ในช่วงฤดูฝนและฤดูหนาว ซึ่งเป็นช่วงเวลาใกล้เคียงกับฤดูกาลระบาดของไข้หวัดใหญ่ และสถานการณ์ของโรคติดเชื้อไวรัส RSV ในปีนี้ ตั้งแต่ต้นปี – มิ.ย. 65 พบผู้ป่วยที่ได้รับการวินิจฉัยเป็น RSV จำนวน 2,341 ราย

 

 

โรค RSV ติดต่ออย่างไร

โรคนี้ติดต่อได้จากการสูดละอองฝอยที่ปนเปื้อนเชื้อผ่านการไอ จาม หรือการสัมผัสสารคัดหลั่งของผู้ติดเชื้อ ไวรัสจะเข้าสู่ร่างกายผ่านทาง ตา จมูก ปาก ผู้ที่ได้รับเชื้อจะแสดงอาการได้เร็วที่สุดหลังจากติดเชื้อ 2 วัน ช้าสุดประมาณ 8 วัน โดยส่วนใหญ่เฉลี่ยอยู่ที่ 4-6 วัน ผู้ป่วยสามารถแพร่กระจายเชื้อได้นาน 3-8 วัน หลังจากเริ่มมีอาการ สำหรับการติดเชื้อในกลุ่มเด็กเล็ก โรคมีโอกาสลุกลามไปยังระบบทางเดินหายใจส่วนล่าง เช่น หลอดลม เนื้อปอด ทำให้เกิดอาการหลอดลมใหญ่อักเสบ หลอดลมฝอยอักเสบ และปอดอักเสบตามมาได้

นพ.โอภาส การย์กวินพงศ์

อาการโรค RSV

ในระยะแรก ผู้ป่วยจะมีอาการเพียงเล็กน้อยคล้ายกับโรคไข้หวัด เช่น ไข้ ไอ มีน้ำมูก เจ็บคอ หากมีอาการรุนแรงจะมีอาการหายใจเร็ว หอบเหนื่อย เนื่องจากปอดอักเสบ เสียงหายใจมีเสียงหวีด เสียงครืดคราดในลำคอ รับประทานอาหารได้น้อย ซึมลง และอาจเสียชีวิตได้

 

 

นพ.โอภาส กล่าวว่า ปัจจุบันยังไม่มียารักษาโรคติดเชื้อไวรัสอาร์เอสวีโดยตรง การรักษาส่วนใหญ่เป็นการรักษาตามอาการ โรคนี้สามารถพบได้ในผู้ป่วยทุกกลุ่มอายุ แต่กลุ่มเสี่ยงที่อาจเกิดอาการรุนแรง คือ เด็กเล็ก เด็กที่ภูมิคุ้มกันไม่แข็งแรง เด็กที่คลอดก่อนกำหนด ผู้สูงอายุ 65 ปีขึ้นไป รวมถึงผู้ที่มีโรคประจำตัวเรื้อรัง เช่น โรคเบาหวาน โรคปอด โรคหัวใจ หรือผู้ที่มีปัญหาเกี่ยวกับระบบภูมิคุ้มกันร่างกายผิดปกติ เป็นต้น

ไวรัส RSV

 

นายแพทย์โอภาส กล่าวเพิ่มเติมว่า ขอแนะนำผู้ปกครองและสถานศึกษา หมั่นสังเกตอาการบุตรหลาน เด็กนักเรียน โดยเฉพาะเด็กเล็กที่อายุต่ำกว่า 5 ปี อย่างใกล้ชิด ป้องกันได้โดยการล้างมือบ่อย ๆ ล้างอย่างถูกวิธี ด้วยสบู่และน้ำสะอาด โดยเฉพาะก่อนมื้ออาหารและหลังเข้าห้องน้ำ หลีกเลี่ยงการใช้มือสัมผัสบริเวณหน้า ตา จมูก ปาก ไม่ใช้ภาชนะอาหารและของใช้ส่วนตัวร่วมกันผู้อื่น รักษาสุขอนามัยส่วนตัว หลีกเลี่ยงการสัมผัสผู้ที่ติดเชื้อ เช่น ผู้ที่เป็นไข้หวัดหรือปอดอักเสบ ไม่ควรพาเด็กไปในสถานที่ที่ผู้คนหนาแน่น ส่วนผู้ที่ป่วย ควรงดการออกนอกบ้านในช่วงที่ไม่สบาย เพื่อลดการแพร่กระจายเชื้อไปยังผู้อื่น สวมหน้ากากผ้าหรือหน้ากากอนามัย ปิดปากปิดจมูกทุกครั้งเวลาไอจาม ทำความสะอาดบ้าน รวมทั้งของเล่นเด็กเป็นประจำ รับประทานอาหารที่ถูกสุขลักษณะ ครบ 5 หมู่ ดื่มน้ำมาก ๆ และพักผ่อนให้เพียงพอ หากพบเด็กมีอาการป่วย ควรแยกออกจากเด็กปกติ เพื่อเป็นการป้องกันการแพร่เชื้อ และพาไปพบแพทย์เพื่อรับการวินิจฉัยและรักษาต่อไป สอบถามข้อมูลได้ที่สายด่วนกรมควบคุมโรค โทร.1422

 

 

 

 

 

เพื่อไม่พลาด ข่าวสารต่างๆ คมชัดลึก ไปที่

Youtube - https://www.youtube.com/channel/UCnniqWGq9lOqYd5sGWxVi7w
LineToday - https://today.line.me/th/v2/publisher/100057

เช็กรายชื่อศิลปินเข้าชิง "คมชัดลึก ลูกทุ่ง Awards 2565" ใครคือ 6 Candidate กับ 8  สาขา Popular Vote  https://www.komchadluek.net/entertainment/524524

 

logoline

ข่าวที่น่าสนใจ