ข่าว

"โรคลีเจียนแนร์" ทำให้เกิดภาวะปอดอักเสบ เจอ อาการเหล่านี้ต้องพบแพทย์ทันที

เกาะติดข่าวสาร >> คมชัดลึก ออนไลน์
logoline

รู้จัก "โรคลีเจียนแนร์" โรคระบาดมาจากเชื้อแบคทีเรีย ทำให้เกิดภาวะปอดอักเสบ หมอธีระ เผย อาการโรคลีเจียนแนร์ มีอาการเหล่านี้รีบพบแพทย์ก่อนทรุดหนัก

รศ.นพ.ธีระ วรธนารัตน์ คณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย หรือ "หมอธีระ" โพสต์เฟซบุ๊ค Thira Woratanarat ถึงกรณีการเกิดโรคระบาดใหม่ หรือ "โรคลีเจียนแนร์" โรคที่ส่งผลให้เกิดภาวะปอดอักเสบ โดยระบุ ว่า รู้จักกับ "โรคลีเจียนแนร์" (Legionnaires' disease) เป็นโรคที่เกิดจากการติดเชื้อแบคทีเรียชนิดหนึ่งคือ Legionella ที่ทำให้ผู้ป่วยจะมีอาการป่วยรุนแรงจากภาวะปอดอักเสบ และเสียชีวิตได้ การติดเชื้อส่วนใหญ่นั้นมักมาจากการสูดละอองฝอยของน้ำ หรือจากดิน ที่มีการปนเปื้อนของเชื้อแบคทีเรีย เข้าสู่ทางเดินหายใจ  แหล่งน้ำตามธรรมชาติ เช่น แม่น้ำ ลำธาร ทะเลสาบ ตลอดจนในสถานที่ต่างๆ อาทิ บ่อบาดาล น้ำในอุปกรณ์หล่อเย็น เครื่องปรับอากาศ ฝักบัว สปริงเกลอร์ สระว่ายน้ำ เป็นต้น

รศ.นพ.ธีระ ระบุต่อว่า ทั้งนี้  "โรคลีเจียนแนร์" พบการติดเชื้อได้ทั้งภายในสถานพยาบาล โรงแรม อาคารสถานที่ต่างๆ และในชุมชน การติดเชื้อ Legionella ในคนนั้น ส่วนใหญ่มักเป็น Legionella pneumophila แต่ Legionella นั้นมีสายพันธุ์อื่นๆ รวมแล้ว 65 ชนิด บางชนิดก็พบว่ามีผู้ป่วยติดเชื้อ เช่น Legionella longbeachae ซึ่งพบรายงานในประเทศออสเตรเลีย และนิวซีแลนด์ ชื่อของ Legionella นั้นมาจากการระบาดใหญ่ที่เกิดขึ้นในปีค.ศ.1976 (พ.ศ.2519) ในกลุ่มผู้ที่เข้าพักในโรงแรมที่จัดงานรำลึกวันทหารผ่านศึกครบรอบ 200 ปี (The American Legion Convention) ณ รัฐฟิลาเดลเฟีย ประเทศสหรัฐอเมริกา โดยมีผู้ป่วยปอดอักเสบรุนแรงกว่า 200 ราย และเสียชีวิตกว่า 30 ราย ซึ่งในปีต่อมาจึงค้นพบว่าเกิดจากการติดเชื้อแบคทีเรียนี้

ส่วยในไทยมีผู้ป่วย "โรคลีเจียนแนร์" ตั้งแต่ปีพ.ศ.2527 และพบประปรายมาเรื่อยๆ เฉลี่ยแล้วระดับหลักหน่วยต่อปี มักพบในนักท่องเที่ยวผู้ที่ติดเชื้อนั้น ส่วนใหญ่มักจะเกิดอาการราว 5-6 วัน (ระยะฟักตัวตั้งแต่ 2-10 วัน) 

 

อาการ  "โรคลีเจียนแนร์"  พบว่ามีดังนี้  

  • อาจมีอาการเบื่ออาหาร
  • อ่อนเพลีย
  • ปวดกล้ามเนื้อ
  • ปวดศีรษะ
  • มีไข้สูง

ทั้งนี้อาจมีเรื่องปวดท้อง และอุจจาระร่วงเกิดขึ้นตามมาได้  ในกรณีที่ป่วยรุนแรง จะเกิดภาวะปอดอักเสบ มีอาการไอ ไม่มีเสมหะ หอบเหนื่อย เอกซเรย์ปอดจะพบเป็นปื้นหรือจุดขาว อาจพบลุกลามได้ในปอดทั้งสองข้าง และอาจจะทำให้ระบบหายใจล้มเหลว การติดเชื้อนั้น หากรับเชื้อมาน้อย หรือป่วยน้อย อาการจะคล้ายไข้หวัดใหญ่ เรียก ไข้พอนเตียก (Pontiac fever) ซึ่งมักหายเองได้ และไม่เสียชีวิต แต่หากป่วยรุนแรงจนเกิดภาวะปอดอักเสบ จะเรียกโรคลีเจียนแนร์ (Legionnaires' disease) ซึ่งมีอัตราเสียชีวิตราว 15-20%
ยาปฏิชีวนะที่ใช้รักษามีหลายชนิด เช่น ยากลุ่ม Fluoroquinolone (เช่น Levofloxacin, Moxifloxacin, Ciprofloxacin), ยากลุ่ม Macrolide (ได้แก่ Azithromycin)

การดูแลฟื้นฟูแหล่งน้ำ รักษาความสะอาด และบำรุงรักษาระบบต่างๆ ในอาคารสถานที่อย่างสม่ำเสมอ จะช่วยลดความเสี่ยงที่จะเกิดการระบาดได้

 

ติดตาม คมชัดลึก ที่นี่
Facebook : https://www.facebook.com/komchadluek/
YouTube : https://www.youtube.com/channel/UCnniqWGq9lOqYd5sGWxVi7w

เช็กรายชื่อศิลปินเข้าชิง "คมชัดลึก ลูกทุ่ง Awards 2565" ใครคือ 6 Candidate กับ 8  สาขา Popular Vote ได้ที่นี่

(https://awards.komchadluek.net/#)

 

logoline

ข่าวที่น่าสนใจ