เทรนเนอร์หนุ่ม...สานต่อนาแห้วออร์แกนิค-แปรรูปหลากหลายส่งออก

หลังจากจบการศึกษาจาก"คณะวิทยาศาสตร์การกีฬา"จากราชภัฎจันทรเกษม "ซานโต๊ส" ภภาค ดอกกุหลาบ อายุ 27 ปี ได้ทำงานในฟิตเนสที่กรุงเทพมหานคร 10 ปี ในตำแหน่งเทรนเนอร์ย่านเอกมัย แต่ด้วยสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19  ประกอบกับต้องการดูแลครอบครัวจึงทำให้"ซานโต๊ส"ต้องอำลาอาชีพที่ตนเองรักและเรียนมาทางด้านนี้โดยตรงจากเมืองกรุงมุ่งสู่สุพรรณบุรีบ้านเกิด..ประกอบกับที่บ้านได้ทำนาแห้วอยู่แล้ว...จึงเป็นจุดเริ่มของการเป็นเกษตรกรรุ่นใหม่เพื่อสานต่ออาชีพของครอบครัว

"แห้วสุพรรณ" (water chestnuts suphan) เป็นแห้วพันธุ์จีน หัวมีลักษณะกลมคล้ายหอมหัวใหญ่ รสชาติหวาน มัน เนื้อแน่น กรอบสีขาว มีการนำมาปลูกในพื้นที่จังหวัดสุพรรณบุรีเมื่อปีพ.ศ.2493 ปัจจุบันพื้นที่ตำบลวังยาง อ.ศรีประจันต์ จ.สุพรรบุรี เป็นแหล่งผลิตแห้วที่ใหญ่ที่สุดในประเทศ

 โดย"จ.ส.อ.อนันต์ ดอกกุหลาบ" ผู้ซึ่งเป็นบิดาเป็นผู้ทำนาแห้ว รวมทั้งมีความคิดริเริ่มที่จะทำอย่างไรให้แห้วธรรมดามีมูลค่าตลอดสามารถสร้างอาชีพให้กับคนในชุมชน ทำให้การทำนาแห้ว...ซึ่งเป็นพืชภูมิศาสตร์สำคัญ..มีการแปรรูปเป็นผลิตภัณฑ์หลากหลายรูปแบบภายใต้ชื่อ "แห้วมีคุณอนันต์"

สำหรับผลิตภัณฑ์ที่ทำมาจากแห้ว นอกจากแห้วต้มที่เรานิยมรับประทานกันมาเนิ่นนานแล้ว ยังมีสินค้าชนิดอื่น ๆ ที่น่าสนใจคือไข่มุกแห้ว แห้วแช่อิ่มอบแห้ง ทอดมันแห้ว น้ำพริก 
แห้ว สบู่แห้ว แป้งแห้ว แห้วดอง แห้วเฟรนฟราย เป็นต้น แห้วเป็นพืชสากลต่างประเทศให้การยอมรับมีการส่งออกไปสหรัฐอเมริกาแบบแห้วต้มสุก ซึ่งนำไปทานแบบสลัดหั่นเป็นแว่น ๆ ปี 2564 ที่ผ่านมาส่งไป 22 ตัน ส่วนเกาหลีมีปัญหาเรื่องการแพร่ระบาดของโควิด-19 การส่งออกก็ต้องเริ่มต้นใหม่ ส่วนเอกวาดอร์จะจัดส่งอีก 25 ตัน

"สำหรับผมนอกจากเริ่มมาเรียนรู้ การทำการเกษตรคือนาแห้วของครอบครัวแล้วยังมีแนวคิดที่จะทำผลิตภัณฑ์ใหม่ ๆ เพื่อให้สอดคล้องกับการเรียนของตนและการทำงานนั่นคือการเป็นเทรนเนอร์ของฟิตเนส ซึ่งหมายถึงแนวสุขภาพ นอกจากนี้มีแนวความคิดในการแปรรูปเบียร์แห้ว และไวน์แห้ว  เพราะเห็นจากที่ประเทศญี่ปุ่นนำผลผลิตที่มีอยู่ในชุมชน หรือประเทศตนเองนั่นคือ"บ๊วย"มาทำเป็นเหล้าบ๊วย  

"ผลิตภัณฑ์จากแห้วจะเน้นปลอดสารเคมีหรือออร์แกนิค ออกแนวสุขภาพ รวมทั้งเชื่อว่าหากเราสามารถยกระดับมาตรฐานสินค้าให้มีคุณภาพมีความหลากหลายมากขึ้นจะทำให้เป็นที่ยอมรับ และมีอนาคตไกล ต่างชาติให้การยอมรับ"

ตำบลวังยาง อ.ศรีประจันต์ จว.สุพรรณบุรี เป็นแหล่งปลูกแห้วที่ใหญ่ที่สุดและสนับสนุนให้เกษตรกรทำนาแห้วปลอดสารพิษ นอกจากแห้วที่นี่จะมีคุณภาพดีแล้วคือรสชาติหวาน มัน กรอบ ที่สำคัญคือปลอดภัย มีสรรพคุณทางสมุนไพร นำมาทำเมนูอาหารทั้งคาว หวาน เช่นน้ำพริก แกงส้ม ต้นจืด ทอดมัน ข้าวเกรียบ เม็ดขนุน ขนมชั้น

แห้วมีฤทธิ์เย็นให้พลังงานสูงมีคาร์โบไฮเดรตเป็นส่วนประกอบสำคัญ 70 % แก้อาการร้อนใน กระหายน้ำ แก้คออักเสพ ละลายเสมหะ บำรุงปอด และลดความดันโลหิต มีสารประกอบฟีนอลิก(Phemolic Compound) เป็นสารต้านอนุมูลอิสระและป้องกันการเกิดมะเร็ง โดยเฉพาะในบริเวณจุดสีดำตรงกลางของเนื้อแห้ว 

สำหรับตำบลวังยาง อยู่ติดกับถนนสาย 340 ห่างกรุงเทพ 100 กิโลเมตร การคมนาคมสะดวก จึงเป็นแหล่งท่องเที่ยวเชิงเกษตรสร้างสรรค์ ที่ผู้มาเยือนจะได้เรียนรู้การทำนาแห้ว วิถีชีวิตที่เรียบง่าย ผู้สนใจสามารถติดต่อโปรแกรมท่องเที่ยวและศึกษาดูงาน ในแบบการท่องเที่ยวโดยชุมชนเชิงเกษตรสร้างสรรค์ ได้ที่  จ.ส.อ.อนันต์ ดอกกุหลาบ 081-274-3882

ติดตาม คมชัดลึก ที่นี่
เพิ่มเพื่อน Line: https://lin.ee/qw9UHd2
Facebook : https://www.facebook.com/komchadluek/

เช็กรายชื่อศิลปินเข้าชิง "คมชัดลึก ลูกทุ่ง Awards 2565" ใครคือ 6 Candidate กับ 8  สาขา Popular Vote ได้ที่นี่   

 (https://awards.komchadluek.net/#)