
"ดร.ธนกฤต" เล่าลำดับเหตุการณ์คลี่ปมมรณะ "นัทปง" เบื้องหลังที่ไม่มีใครรู้ !
เบื้องหลังที่ไม่มีใครรู้คดี "นัทปง" เหตุใดผลตรวจ "ไซยาไนด์" ออกไวใน 3 วัน? ดร.ธนกฤต เล่าลำดับเหตุการณ์ "การประสานงานหลังฉาก" คลี่ปมมรณะ
จากกรณีการเสียชีวิตอย่างมีเงื่อนงำของนักข่าวช่อง8 "ณัฐวุฒิ ปงลังกา" หรือ "นัทปง" ที่ผลตรวจทางพิษวิทยายืนยันว่าพบ "ไซยาไนด์" ในร่างกาย จนกลายเป็นคดีสะเทือนสังคมที่หลายคนสงสัย! ล่าสุดวันนี้ (7 ธ.ค. 68) นายกองตรี ดร.ธนกฤต จิตรอารีย์รัตน์ เลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (พม.) ได้ออกมาเปิดเผย "เบื้องหลัง" ที่ทำให้ผลตรวจออกได้อย่างรวดเร็วผิดปกติ!
สาเหตุที่หลายคนตั้งคำถาม เพราะโดยทั่วไปแล้ว ผลตรวจทางพิษวิทยาอย่างละเอียดมักใช้เวลานานถึง 1-2 เดือน หลังจากการชันสูตรศพ แต่ในคดีของ "นัทปง" กลับใช้เวลาเพียงแค่ 3 วัน เท่านั้น! ดร.ธนกฤต จิตรอารีย์รัตน์ ได้ออกมาโพสต์ดังนี้
เจาะลึกไทม์ไลน์การตรวจพบ “ไซยาไนด์” : เปิดเบื้องหลังที่สังคมไม่รู้ ทำไมผลตรวจยืนยันออกได้ภายใน 3 วัน
การเสียชีวิตปริศนาของนายณัฐวุฒิ ปงลังกา กลายเป็นคดีสะเทือนสังคมหลังผลตรวจทางพิษวิทยายืนยันว่า “ไซยาไนด์” คือสารพิษที่อยู่ในร่างกายผู้ตาย และผลยืนยันออกภายในเวลาเพียง 3 วัน ซึ่งเรามักจะเคยได้ยินว่าผลการตรวจมักใช้เวลา 1-2 เดือน หลังจากการชันสูตร บทความนี้คือการ เจาะลึกลำดับเหตุการณ์ และการประสานงานหลังฉาก ที่ทำให้ผลตรวจออกได้อย่างรวดเร็ว
จุดเริ่มต้นความสงสัยที่จากประวัติที่ได้รับแจ้งเพื่อการกู้ชีพ ขัดแย้งกับประวัติจากการตรวจที่เกิดเหตุ
จากการตรวจชันสูตร ณ วันที่เกิดเหตุไม่ได้มีการระบุถึงการใช้สารยาหรือสารพิษ แต่แพทย์ผู้ตรวจกลับได้รับข้อมูลแจ้งจากทางศูนย์วิทยุ รวมถึงข้อมูลรับแจ้งเพื่อเรียกทีมกู้ชีพ ว่าผู้ตายอาจเกี่ยวข้องกับ “การใช้สารหรือยาเกินขนาด และเมื่อประกอบกับข้อเท็จจริงว่า ผู้ตาย อายุยังน้อย มีโรคประจำตัวแต่ไม่ได้มีอาการนำที่เกี่ยวข้องในวันที่เสียชีวิต และการเสียชีวิตเกิดขึ้นอย่างเฉียบพลัน จึงทำให้ทีมแพทย์ “หันไปจับที่สารพิษตั้งแต่ชั่วโมงแรก” แต่ในหน้าสื่อ จะชี้สาเหตุการเสียชีวิตเบื้องต้นไปทาง “ใหลตาย” ก็ไม่แปลก เนื่องจากการตรวจสารพิษต้องมีขั้นตอนการตรวจสอบที่รัดกุมและใช้เวลา
เหตุจากคดี “แอม ไซยาไนด์” ทำให้ระบบนิติเวชมีการเฝ้าระวังอย่างเข้มงวด
หลังการเสียชีวิตต่อเนื่องจากคดี “แอม ไซยาไนด์” ซึ่งสร้างแรงสั่นสะเทือนอย่างมากในสังคมไทย ทางสมาคมแพทย์นิติเวชแห่งประเทศไทยและราชวิทยาลัยพยาธิแพทย์แห่งประเทศไทย ได้เปิดการพูดคุยและหารือหลายครั้ง จัดกระทั่งได้มีการจัดทำ แนวทางคัดกรองการตรวจสารพิษรวมถึงสารไซยาไนด์ ในผู้เสียชีวิตที่เข้าเกณฑ์ต้องสงสัยอย่างเข้มงวด เป็นเหตุให้เกิดการตรวจพบการใช้สารไซยาไนด์ ในคดี “ตอง ชลดา” และได้สร้าง “ระบบเตือนภัยเงียบ” ว่าถ้าลักษณะการตายที่ไม่สามารถระบุสาเหตุการตายได้แน่ชัด ต้อง “คิดถึงไซยาไนด์เป็นหนึ่งในสาเหตุเสียชีวิตด้วยเสมอ” ดังนั้น เมื่อคดีล่าสุดเกิดขึ้น แพทย์หลายฝ่ายจึงเข้าสู่ “โหมดเฝ้าระวังสูงสุด” ในทันที



