
ตำรวจทางหลวง แจงดราม่า เรียกตรวจลัมโบร์กินี "มาดามยุ้ย" ไม่ติดแผ่นป้ายทะเบียน
ตำรวจทางหลวง แจงดราม่า เรียกตรวจลัมโบร์กินี ไม่ติดแผ่นป้ายทะเบียน หลัง "มาดามยุ้ย" อัดคลิปโวย ตำรวจขับตาม 2 รอบ ชี้ อันตราย อย่าทำแบบนี้
จากกรณี "คุณยุ้ย" ดร.กันธิชา ฉิมศิริ โพสต์คลิปผ่านเฟซบุ๊กชื่อ "Kanthicha Chimsiri" ระบุข้อความว่า "ตำรวจต้องการอะไร ขับรถตาม ตอนตีหนึ่งครึ่ง ทั้งๆ ที่ไม่ได้ทำผิดอะไร โบกให้จอด ถ้าจะทำแบบนี้ไม่ควรทำ เสียเวลาประชาชน อย่าใช้ตำแหน่งทำอะไรที่เกินเส้นกัน ทางใครทางมัน คุณจะขับรถตามให้จอดทุกคันไปเลยสิ ที่นี่เมืองไทย มันควรพัฒนา ศักยภาพความสบายใจประชาชนมากกว่านี้"
9 พ.ย. 2568 ล่าสุด ตำรวจทางหลวง ชี้กรณีดังกล่าว ว่า เมื่อวันที่ 7 พ.ย. 2568 เวลาประมาณ 13.00 น. บริเวณทางหลวงพิเศษหมายเลข 7 กม.100 (มุ่งหน้าชลบุรี) เจ้าหน้าที่ตำรวจทางหลวงได้พบรถยนต์ยี่ห้อลัมโบร์กีนี ไม่ติดแผ่นป้ายทะเบียนด้านหน้า จึงได้เรียกให้หยุดเพื่อตรวจสอบ
เมื่อทำการตรวจสอบแล้วพบว่า รถคันดังกล่าวไม่ได้ติดแผ่นป้ายทะเบียนจริง เจ้าหน้าที่จึงได้ดำเนินการออกใบสั่งในข้อหา "ใช้รถที่ไม่ติดแผ่นป้ายทะเบียน" ซึ่งมีโทษปรับไม่เกิน 2,000 บาท จากนั้นผู้ขับขี่ได้ชำระค่าปรับผ่านระบบสแกน QR Code ที่ปรากฎในใบสั่ง ซึ่งเป็นขั้นตอนตามกฎหมาย
ต่อมา วันที่ 8 พ.ย. 2568 เวลาประมาณ 01.30 น. บริเวณทางหลวงพิเศษหมายเลข 7 กม.45 (มุ่งหน้า กทม.) เจ้าหน้าที่ตำรวจทางหลวงอีกนายหนึ่ง ซึ่งปฏิบัติหน้าที่ในผลัดกลางคืน ได้พบรถยนต์คันเดียวกันที่ยังไม่ได้ติดแผ่นป้ายทะเบียน จึงได้เรียกให้หยุดเพื่อตรวจสอบ ซึ่งขณะนั้นเจ้าหน้าที่ไม่ทราบว่ารถคันดังกล่าวเคยถูกออกใบสั่งมาก่อนแล้วหรือไม่
อย่างไรก็ตาม เมื่อทำการตรวจสอบภายหลังพบว่า รถคันดังกล่าวได้ถูกออกใบสั่งไปก่อนหน้านี้แล้ว ในข้อหาไม่ติดแผ่นป้ายทะเบียน เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงไม่ได้ดำเนินการเปรียบเทียบปรับเพิ่มเติม และได้เชิญให้ผู้ขับขี่เดินทางต่อได้ตามปกติ ซึ่งในขณะนั้นผู้ขับขี่ได้ใช้โทรศัพท์มือถือบันทึกภาพวิดีโอ จนปรากฏเป็นคลิปที่เผยแพร่ในสื่อสังคมออนไลน์ในเวลาต่อมา
การที่เจ้าหน้าที่เรียกตรวจในลักษณะนี้ ถือเป็นเหตุอันควรสงสัยตามกฎหมาย เนื่องจากเป็นการพบการกระทำความผิดซึ่งหน้า เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงสามารถเรียกให้หยุดเพื่อตรวจสอบ ทั้งนี้ ในช่วงเวลากลางคืน รถที่ไม่ติดแผ่นป้ายทะเบียนมักถูกนำไปใช้ในการกระทำผิดกฎหมายหรือก่ออาชญากรรม การเรียกตรวจดังกล่าวจึงเป็นการปฏิบัติหน้าที่ตามอำนาจที่กฎหมายกำหนด ซึ่งสามารถกระทำได้ตลอด 24 ชั่วโมง เพื่อรักษาความสงบเรียบร้อยและความปลอดภัยของประชาชน
สำหรับกรณีที่มีการกล่าวถึง การจัดส่งใบสั่งถึงบ้านของผู้กระทำความผิด นั้น การส่งใบสั่งทางไปรษณีย์สามารถดำเนินการได้เฉพาะเมื่อมีหลักฐานชัดเจน เช่น ภาพจากกล้องตรวจจับความเร็ว หรือการจอดรถในที่ห้ามจอด ซึ่งมีหมายเลขทะเบียนปรากฏชัดเจน แต่ในกรณี "รถที่ไม่ติดแผ่นป้ายทะเบียน" เจ้าหน้าที่ไม่สามารถทราบหมายเลขทะเบียนได้ จึงไม่สามารถดำเนินการออกใบสั่งอิเล็กทรอนิกส์และส่งถึงบ้านได้ตามขั้นตอนดังกล่าว
กองบังคับการตำรวจทางหลวง ขอเรียนให้ประชาชนเข้าใจว่า การปฏิบัติหน้าที่ของเจ้าหน้าที่ตำรวจเป็นไปตามอำนาจหน้าที่ที่กฎหมายบัญญัติไว้ เพื่อรักษาความสงบเรียบร้อย ความปลอดภัย และกฎระเบียบของบ้านเมือง



