ข่าว

เฟกนิวส์! "เบื้องหลังไส้กรอกแสนอร่อย" ที่แท้ทำจากกระดูกไก่ราคาถูก?

เฟกนิวส์! "เบื้องหลังไส้กรอกแสนอร่อย" ที่แท้ทำจากกระดูกไก่ราคาถูก?

04 พ.ย. 2568

"อ.เจษฎา" แจงละเอียด! คลิปว่อนเน็ตเบื้องหลังไส้กรอกแสนอร่อยที่แท้ทำจาก กระดูกไก่ราคาถูก? ที่แท้เป็นเฟกนิวส์!

 

จากกรณีมีการเผยแพร่คลิปวิดีโอผ่านสื่อสังคมออนไลน์ โดยมีลักษณะคล้ายขั้นตอนการผลิตไส้กรอก พร้อมระบุข้อความอ้างว่า "เบื้องหลังไส้กรอกแสนอร่อย ทำจากกระดูกไก่ ราคาถูก" ทำให้ผู้บริโภคเกิดความเข้าใจผิดและกังวลเกี่ยวกับความปลอดภัยและคุณภาพของผลิตภัณฑ์ รศ.ดร.เจษฎา เด่นดวงบริพันธ์ อาจารย์ประจำภาควิชาชีววิทยา คณะวิทยาศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ได้โพสต์ข้อเท็จจริงเกี่ยวกับการผลิตไส้กรอก

 

เฟกนิวส์! \"เบื้องหลังไส้กรอกแสนอร่อย\" ที่แท้ทำจากกระดูกไก่ราคาถูก?

ไส้กรอก ทำจากกระดูกไก่ จริงหรือ !?

มีการแชร์คลิปวิดีโอ คล้ายๆ กับเป็นกระบวนการผลิตไส้กรอก พร้อมแคปชั่นว่า "เบื้องหลังไส้กรอกแสนอร่อย ทำจากกระดูกไก่ ราคาถูก โดยในคลิปนั้น จะเปิดมาเป็นการที่คนงานเทกระดูกจำนวนมาก ลงไปในเครื่องบด พร้อมกับเนื้อบางส่วน ... จากนั้น ก็จะเป็นภาพของเนื้อบด ที่ถูกนำไปอัดบรรจุออกมาเป็นไส้กรอก .. ทำเอาหลายต่อหลายคนแตกตื่นตกใจกันใหญ่ ซึ่งไม่จริงนะครับ ! ไส้กรอก ไม่ได้จะทำจากกระดูกไก่แบบนั้นครับ .. กระดูกไก่ ไม่ได้จะสามารถเอามาบดผสมเนื้อ แล้วยังทำให้เนื้อไส้กรอกเนียนอย่างที่เรากินอยู่ได้หรอกครับ ถึงจะเป็นไส้กรอกราคาถูก ถ้ามีกระดูกปนอยู่จริง ลิ้นของเรา ก็ต้องสัมผัสเจอเศษกระดูกป่นบ้างแล้วครับ

 

ดังนั้น คลิปดังกล่าว จึงน่าจะเป็นแค่การตัดต่อ เอาภาพของโรงงานแปรรูปซากสัตว์ (เช่น เอาไปทำเป็นส่วนผสมของอาหารสัตว์ หรือไปทำปุ๋ย) มาตัดต่อผสมกับโรงงานไส้กรอก ทำให้คนหวาดกลัว เรียกยอดวิว แค่นั้นเองข่าวปลอมจากคลิปทำนองนี้ ในอดีตก็เคยมีมาก่อนแล้ว (ดูคลิป) โดยรายการชัวร์ก่อนแชร์ สำนักข่าวไทย อสมท. ได้เคยมีตอน "โรงงานไส้กรอกบดหมูทั้งตัวจริงหรือ?" ที่อ้างว่าเป็นการผลิตของไส้กรอกยี่ห้อหนึ่ง ของสหรัฐอเมริกา ที่เอาซากหมูทั้งตัวใส่เข้าไปในเครื่อง แล้วออกมาเป็นไส้กรอกโดยความจริงแล้ว คลิปดังกล่าวเป็นการนำภาพ "เครื่องกำจัดซาก" ที่มีการโยนลูกหมูทั้งตัวเข้าไปในเครื่อง มาตัดต่อกับวิดีโอสารคดีชุด How It's Made เรื่อง Hot Dogs ที่มีการนำเสนอเนื้อหาเกี่ยวกับขั้นตอนการผลิตไส้กรอก ในปี ค.ศ. 2008 (ดูคลิป) เพื่อให้เข้าใจผิด ว่าเป็นส่วนหนึ่งของการผลิตไส้กรอกจริงๆ

 

 

 

 

แถมตอนนั้น ยังมีการเขียนแคปชั่นชี้นำว่า โรงงานไส้กรอกของผู้ผลิตไทยรายหนึ่ง ก็ใช้เครื่องเช่นเดียวกันนี้ เพื่อหวังบิดเบือนให้ผู้บริโภคเข้าใจผิดและงดบริโภคไส้กรอก จนทางบริษัทได้ออกมาปฏิเสธ และยืนยันถึงคุณภาพมาตรฐานการผลิต ความจริงคือ เป็นไปไม่ได้เลย เพราะการทำไส้กรอก จะต้องแยกประเภทส่วนต่าง ๆ ของสัตว์ ทั้งเนื้อ และไขมัน นำมาใช้ให้เหมาะกับการผลิตไส้กรอกแต่ละชนิด ... ซึ่งหากมีสิ่งแปลกปลอม เช่น กระดูก ฟัน เครื่องในด้วยแล้ว ย่อมทำให้ผิวสัมผัส คุณภาพ และรสชาติผิดเพี้ยนเปลี่ยนไป ซึ่งผู้บริโภค จะรู้สึกได้ถึงความผิดปกตินั้น ซึ่งในกระบวนการผลิตไส้กรอก ที่ได้มาตรฐานนั้น จะมีการควบคุมตั้งแต่ขั้นตอนการฆ่าและแปรรูปเนื้อ โดยในโรงฆ่าสัตว์ จะแยกเลือดออกจากซากจนหมด แยกเครื่องในออก โดยเฉพาะลำไส้ที่มีของเสีย จากนั้นจะทำการตัดแยกชิ้นส่วนต่าง ๆ ออกเป็นส่วนเนื้อสันใน สันนอก เนื้อสามชั้น กระดูกซี่โครง แล้วนำเอาแต่ "เนื้อคุณภาพ" ไปใช้ในการผลิตไส้กรอก ไม่สามารถใช้ส่วนของกระดูก เพื่อไปทำให้ละเอียด จนเป็นไส้กรอกได้อย่างแน่นอน

 

 

กระบวนการผลิตสัตว์ของไทย ตลอดจนการแปรรูปเนื้อสัตว์ ให้เป็นไส้กรอกหรืออาหารพร้อมรับประทานอื่น ๆ ทั้งหมด อยู่ภายใต้มาตรฐานการผลิต ที่ควบคุมโดยภาครัฐ และหน่วยงานราชการที่เกี่ยวข้อง อาทิ กรมปศุสัตว์ สำนักงานมาตรฐานสินค้าเกษตรและอาหารแห่งชาติ (มกอช.) สำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค (สคบ.) ตลอดจนมีมาตรฐานสากลรองรับ เพื่อให้ทุก ๆ กระบวนการผลิตมีความปลอดภัยสำหรับการบริโภค ดังเช่นที่มีข่าว เจ้าหน้าที่ตำรวจ กองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับการคุ้มครองผู้บริโภค ได้ร่วมกับ สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) และสำนักงานสาธารณสุขจังหวัด (สสจ.) บุกจับโรงงานผลิต "ไส้กรอกพิษ" ที่จังหวัดชลบุรี นั้น ที่ทำให้เด็กหลายราย เข้ารักษาตัวในโรงพยาบาล เนื่องจากการรับประทานไส้กรอก และเกิดภาวะ methemoglobinemia (เมธฮีโมโกลบินนีเมีย) พบว่าโรงานดังกล่าว ทำการผลิตโดยไม่ได้รับอนุญาต และฉลากผลิตภัณฑ์ไส้กรอก ก็ไม่แสดงเลขสารบบอาหาร และสถานที่ผลิตแห่งนี้ ไม่ผ่านเกณฑ์ GMP ที่กฎหมายกำหนด ไม่มีการควบคุมการผลิต

 

 

แถมพบว่ามีปริมาณไนไตรท์ ในไส้กรอก เกินมาตรฐาน ซึ่งทางเจ้าของโรงงานยอมรับว่า ในการผลิตพนักงานจะตักไนไตรท์ โดยการกะเกณฑ์คร่าวๆ ไม่ได้มีการชั่ง ตวง หรือวัดตามมาตรฐาน ทำให้ปริมาณไนไตรท์เกินค่าความปลอดภัยเบื้องต้นการกระทำดังกล่าวเป็นความผิดตามพระราชบัญญัติอาหาร พ.ศ.2522 ฝ่าฝืนมาตรา 6(7) สถานที่ผลิตอาหารไม่เป็นไปตามหลักเกณฑ์วิธีการผลิตที่ดี (GMP) โทษปรับไม่เกิน 1 หมื่นบาท และฝ่าฝืนมาตรา 6(10) ผลิตภัณฑ์อาหารแสดงฉลากไม่ถูกต้อง โทษปรับไม่เกิน 3 หมื่นบาท หากพบสารต้องห้ามในอาหาร จะเป็นความผิดตาม พ.ร.บ.อาหาร พ.ศ. 2522 มาตรา 25 ฐาน "ผลิตอาหารไม่บริสุทธิ์" ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 2 ปีหรือปรับไม่เกิน 2 หมื่นบาท หรือทั้งจำทั้งปรับและหากเป็นอาหารปลอม ต้องระวางโทษจำคุกตั้งแต่ 6 เดือนถึง 10 ปี และปรับตั้งแต่ 5 พันบาทถึง 1 แสนบาท