ข่าว

เปิดใจลูกสาว ผู้เสียชีวิต เหตุกระบะจอดขวางรถฉุกเฉิน เล่านาทีบีบหัวใจ

เปิดใจลูกสาว ผู้เสียชีวิต เหตุกระบะจอดขวางรถฉุกเฉิน เล่านาทีบีบหัวใจ

19 ต.ค. 2568

เปิดใจลูกสาว ผู้เสียชีวิต เหตุกระบะจอดขวางรถฉุกเฉิน เล่านาทีคุกเข่าอ้อนวอน สุดท้ายคนขับกระบะ ยอมเลื่อนรถ เพราะ จนท.ขู่จะเรียกตำรวจ

จากกรณี โรงพยาบาลปลายพระยา จ.กระบี่ โพสต์เรื่องราวของผู้ป่วยรายหนึ่ง ที่เสียชีวิตลงเนื่องจากไม่สามารถเคลื่อนย้ายขึ้นรถฉุกเฉินของโรงพยาบาล เพื่อส่งต่อไปรักษาได้ เพราะมีรถกระบะจอดปิดทางการเคลื่อนย้ายผู้ป่วย กลายเป็นกระแสดราม่าที่สังคมให้ความสนใจ

ผู้สื่อข่าวเดินทางไปที่บ้านของผู้เสียชีวิต ทราบชื่อ นายสมควร พานิชย์ อายุ 69 ปี อยู่ในพื้นที่ หมู่ 8 ต.คีรีวง อ.ปลายพระยา จ.กระบี่ บรรยากาศเต็มไปด้วยความโศกเศร้าเสียใจของญาติ ๆ

น.ส.ภัทราพร อายุ 29 ปี ลูกสาวผู้ตาย เป็นพนักงานจ้างของ รพ.สต.บ้านโคกแซะ เล่าว่า คืนเกิดเหตุพ่อมีอาการหายใจไม่ออก และเจ็บแน่นหน้าอก ตนจึงรีบพาพ่อส่งโรงพยาบาลปลายพระยา เมื่อไปถึงอาการพ่อก็ไม่ดีขึ้น ทางโรงพยาบาลจึงเตรียมส่งตัวต่อมารักษาที่โรงพยาบาลกระบี่

ระหว่างเคลื่อนย้ายพ่อเตรียมจะขึ้นรถฉุกเฉินของโรงพยาบาล รถกระบะคันดังกล่าวก็ขับมาจอดปิดท้ายรถพยาบาล ทำให้ไม่สามารถเข็นพ่อขึ้นรถพยาบาลได้ เพราะคนขับรถกระบะพาแม่ของเขาเข้าไปในห้องฉุกเฉิน และไปมีปากเสียงกับเจ้าหน้าที่ห้องฉุกเฉิน ตอนนั้นตนร้อนใจมาก เพราะอาการพ่อยิ่งทรุดลงต้องใส่เครื่องช่วยหายใจ จึงไปบอกเจ้าของรถให้ช่วยเลื่อนรถกระบะให้ แต่ทางเจ้าของรถกระบะก็เอะอะโวยวายใส่เจ้าหน้าที่ และมีปากเสียงกับญาติ ๆ ของตน

เปิดใจลูกสาว ผู้เสียชีวิต เหตุกระบะจอดขวางรถฉุกเฉิน เล่านาทีบีบหัวใจ

ตนพยายามอ้อนวอนคนขับรถกระบะ และทรุดตัวลงนั่งคุกเข่ากับพื้น เพื่อกราบอ้อนวอนขอให้เค้าเลื่อนรถให้ แต่ก็ยังไม่ได้ผล สุดท้ายทางเจ้าหน้าที่โรงพยาบาลต้องบอกคนขับกระบะ ว่าหากไม่ยอมเลื่อนรถก็จะเรียกตำรวจมา คนขับกระบะจึงยอมไปเลื่อนรถ

 

ช่วงเวลาเกิดเหตุตนจำไม่ได้ว่านานกี่นาที แต่สำหรับตนถือว่านานมาก เพราะผู้ป่วยโรคหัวใจ เวลาเพียงแค่ 1 นาทีก็มีความสำคัญ จึงอยากฝากเรื่องนี้เป็นอุทาหรณ์ ไม่อยากให้เกิดเหตุการณ์ขัดขวางการทำงานของเจ้าหน้าที่ เพราะเวลาเพียงเสี้ยววินาทีอาจจะช่วยชีวิตของผู้ป่วยฉุกเฉินได้ หากวันนั้นไม่มีรถกระบะจอดขวาง ตนเชื่อว่าพ่ออาจจะยังรอดชีวิตได้ ส่วนของการดำเนินคดี ตอนนี้ยังไม่คิดอะไรเพราะตั้งใจจะจัดงานศพให้พ่อเสร็จก่อน ส่วนที่ทางโรงพยาบาลจะดำเนินคดีก็ให้เป็นอำนาจหน้าที่ของโรงพยาบาล ส่วนตนหลังจากนี้ก็จะหารือกับญาติอีกครั้งว่าจะดำเนินการอย่างไรต่อไป

ด้าน นพ.ณัฐพงษ์ ดูงาม ผอ.รพ.ปลายพระยา ให้ข้อมูลผ่านทางโทรศัพท์ ว่า เหตุการณ์ดังกล่าวถือเป็นบทเรียนสำคัญให้เห็นถึงการทำงานในการช่วยชีวิตผู้ป่วย โดยเฉพาะผู้ป่วยโรคหัวใจ เวลาเพียงนาทีเดียวก็สำคัญมาก จึงไม่อยากให้เกิดเหตุการณ์แบบนี้ขึ้นอีกไม่ว่าที่ไหน

ในส่วนของ รพ.ตอนนี้มอบหมายให้นิติกรของ รพ.รวบรวมหลักฐานทุกอย่าง เพื่อเตรียมเข้าแจ้งความเอาผิดกับรถกระบะคันดังกล่าว ส่วนจะดำเนินคดีข้อหาอะไรได้บ้าง ต้องรอทางนิติกรสรุปอีกครั้ง แต่เบื้องต้นเป็นการขัดขวางการปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่ เป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย หากทางญาติของผู้เสียชีวิต ประสงค์จะร่วมเป็นโจทก์ก็สามารถร่วมได้ โดยจะให้ นิติกรเข้าแจ้งความที่ สภ.ปลายพระยา วันจันทร์ที่ 20 ต.ค.นี้

เปิดใจลูกสาว ผู้เสียชีวิต เหตุกระบะจอดขวางรถฉุกเฉิน เล่านาทีบีบหัวใจ เปิดใจลูกสาว ผู้เสียชีวิต เหตุกระบะจอดขวางรถฉุกเฉิน เล่านาทีบีบหัวใจ