
รู้จัก! "ภูผา นพวิชญ์" จากอดีตพระเอกสู่บทบาท "ผู้ช่วย สส.เพื่อไทย"
รู้จัก! "ภูผา นพวิชญ์" จากอดีตพระเอกสู่บทบาท "ผู้ช่วย สส.เพื่อไทย" นิวเจนเขย่าการเมือง โปรไฟล์สุดแกลม แต่หัวใจไม่ว่างยกให้ "จ๊ะจ๋า" ศรีภรรยาแค่คนเดียว
กลายเป็นไวรัลที่สั่นสะเทือนโซเชียลมีเดียแบบชั่วข้ามคืน! นาทีนี้ไม่มีใครไม่พูดถึง "ภูผา" นพวิชญ์ ไทยแท้ หนุ่มหล่อใสสไตล์โอปป้า ที่ปรากฏตัวในบทบาท ผู้ช่วย สส. พรรคเพื่อไทย ภาพของเขาในงานเปิดตัวผู้สมัคร สส. เรียกเสียงกรี๊ดสนั่นหวั่นไหว เพราะนอกจากหน้าตาที่โดดเด่นสะดุดตาแล้ว โปรไฟล์สุดแกลมของเขายังน่าสนใจจนต้องซูม!
จากนักแสดงสุดหล่อ สู่สนามการเมือง
ภูผา นพวิชญ์ ไม่ใช่คนแปลกหน้าในวงการบันเทิง เพราะเขาคืออดีตนักแสดงหนุ่มหล่อสังกัดช่อง 3 ที่ฝากผลงานละครดังไว้หลายเรื่อง อาทิ เพลิงรักเพลงแค้น และที่ทำเอาสาวๆ ทั่วประเทศตกหลุมรักก็คือบทบาท "เชฟหนุ่มสุดหล่อมาดกวน" ในละครเรื่อง "เมียอาชีพ" รวมถึงผลงานเรื่อง เก็บแผ่นดิน 2020
หนุ่มไทยแท้คนนี้ เกิดเมื่อวันที่ 26 มิถุนายน พ.ศ. 2536 จบการศึกษาจาก คณะนิเทศศาสตร์ สาขาโฆษณา มหาวิทยาลัยกรุงเทพ ซึ่งประสบการณ์ในวงการบันเทิง ทั้งงานละคร งานถ่ายแบบ โฆษณา และมิวสิควิดีโอ ถือเป็นใบเบิกทางที่ทำให้เขามีบุคลิกที่โดดเด่นและเป็นที่จับตามองในทุกเวที
เบื้องหลังความดี: ยกความดีให้ "จ๊ะจ๋า" ศรีภรรยา
สิ่งที่น่าสนใจไม่แพ้โปรไฟล์ส่วนตัวคือไลฟ์สไตล์แบบ "รักธรรมชาติ" และการทำกิจกรรมเพื่อสังคมอย่างต่อเนื่อง โดยข้อมูลระบุว่า "ภูผา" ได้ลงพื้นที่ทำความดีช่วยเหลือชุมชนชาวมักกะสัน ร่วมกับเหล่าจิตอาสาตั้งแต่ช่วงปลายปี 2565 เพื่อมอบของใช้บรรเทาทุกข์ในภาวะเศรษฐกิจฝืดเคือง
เจ้าตัวเคยเปิดเผยอย่างน่ารักว่า เบื้องหลังงานช่วยเหลือสังคมเหล่านี้ต้องยกความดีความชอบให้ "จ๊ะจ๋า" ศรีภรรยา ซึ่งจัดเป็นตัวแม่สายกิจกรรมและคอยชักชวนสามีให้ร่วมทำกิจกรรมเพื่อสังคมมาโดยตลอด สะท้อนให้เห็นว่าเบื้องหลังภาพลักษณ์สุดชิคของเขา คือจิตสำนึกที่ดีงามที่พร้อมช่วยเหลือผู้อื่น
ความหวังใหม่ของเพื่อไทย: พลังมันสมองที่ทรงพลัง
การปรากฏตัวในฐานะ Gen ใหม่ ของพรรคเพื่อไทย พร้อมกับโปรไฟล์ที่ "หล่อใส" และ "สุดแกลม" ทำให้ ภูผา นพวิชญ์ ถูกจับตาว่าจะเป็นอีกหนึ่งสีสันสำคัญที่มาพร้อมกับพลังคนรุ่นใหม่ที่ขับเคลื่อนด้วยฝีมือและมันสมองที่ "ทรงพลัง" ซึ่งน่าติดตามอย่างยิ่งว่า อดีตนักแสดงสุดหล่อคนนี้จะสร้างแรงสั่นสะเทือนและนำความสดใสสว่างไสวมาสู่เวทีการเมืองไทยได้มากน้อยเพียงใด