ข่าว

“ดร.ตฤณห์” ผ่าพฤติกรรมมนุษย์ชอบเxือก! เผย 5 ประเภทการเxือก ตามหลักจิตวิทยา

“ดร.ตฤณห์” ผ่าพฤติกรรมมนุษย์ชอบเxือก! เผย 5 ประเภทการเxือก ตามหลักจิตวิทยา

19 ส.ค. 2568

ใครชอบเสือกมารวมตรงนี้! “ดร.ตฤณห์ โพธิ์รักษา” วิเคราะห์ “พฤติกรรมการเxือก” ที่คนไทยคุ้นเคย ว่าจริง ๆ แล้วมีรากทางจิตวิทยา แบ่งได้ถึง 5 ประเภท

มีประเด็นที่ทำเอาคนดูตั้งใจฟังแบบสุด ๆ เมื่อ ดร.ตฤณห์ โพธิ์รักษา นักจิตวิทยาและนักพูดชื่อดัง ออกมาอธิบายว่า “การเสือก” ไม่ใช่แค่เรื่องน่ารำคาญในสังคมเท่านั้น แต่ยังสามารถอธิบายได้ตามหลักจิตวิทยาพฤติกรรมมนุษย์

 

“ดร.ตฤณห์” ผ่าพฤติกรรมมนุษย์ชอบเxือก! เผย 5 ประเภทการเxือก ตามหลักจิตวิทยา

โดย ดร.ตฤณห์ ได้วิเคราะห์ว่า การเสือกแบ่งออกเป็น 5 ประเภทหลัก ได้แก่

เสือกเพราะอยากรู้ (Curiosity Seeker) – เกิดจากความอยากรู้อยากเห็นธรรมชาติของมนุษย์

เสือกเพราะอยากเปรียบเทียบ (Comparison Seeker) – มักชอบเอาชีวิตคนอื่นมาเทียบกับตัวเอง

เสือกเพราะอยากช่วย (Helper Seeker) – เสือกเพราะมีเจตนาช่วยเหลือ แต่บางครั้งกลายเป็นล้ำเส้น

เสือกเพราะหาผลประโยชน์ (Opportunistic Seeker) – สนใจเรื่องคนอื่นเพื่อหาประโยชน์เข้าตัว

เสือกเพราะเสพดราม่า (Drama Seeker) – ติดตามชีวิตคนอื่นเพื่อความบันเทิงและความสะใจ

 

 ทำไมถึงชอบเสือก? (5 เหตุผลทางจิตวิทยา)


▪️ ไม่กล้าถามเจ้าตัวตรง ๆ
เลยไปอ้อมเสือก แทนที่จะเดินไปถามให้รู้เรื่อง
▪️ อยากมีอะไรไปต่อรอง
ไม่มีใครคุยด้วย เลยใช้ข้อมูลชาวบ้านสร้างสัมพันธ์ เช่น “เธอรู้ยังว่า...?”
▪️ สะใจเวลาคนอื่นเจ็บ
บางคนอยากเห็นคนอื่นพัง และตัวเองเป็นต้นเหตุ
▪️ ชีวิตไม่มีอะไรน่าสนใจ
เลยต้องดึงเรื่องคนอื่นมาทำให้ตัวเองดูมีอะไร
▪️ กลัวตกกระแส (FOMO)
เสือกเพราะไม่อยากหลุดวงสนทนา ต้องรู้ให้ทันโลกตลอดเวลา

 

แล้วบางคนไม่ขี้เสือกล่ะ?

คนพวกนี้เรียกพวก “บลีน (bleen)” หรือสาย “ฮิปปี้” ไม่อิน ไม่แคร์โลก ไม่อยากยุ่งเรื่องใคร อาจดูแปลกในสายตาคนทั่วไป แต่อาจารย์มองว่าเขาคือ “outsiders” ที่มีวิถีชีวิตของตัวเอง ถามใจตัวเองสิ... คุณกำลังเสือกแบบ “บริสุทธิ์ใจ” หรือ “เจตนาไม่บริสุทธิ์”? ใครอ่านจบแล้วรู้สึกจี๊ด...แสดงว่าเข้าตัวแน่ ๆ 

 

 

“ดร.ตฤณห์” ผ่าพฤติกรรมมนุษย์ชอบเxือก! เผย 5 ประเภทการเxือก ตามหลักจิตวิทยา

 

ดร.ตฤณห์ เสริมว่า พฤติกรรมเหล่านี้ไม่ได้มีแค่ในไทย แต่เป็นธรรมชาติของมนุษย์ทั่วโลก อยู่ที่ว่าเราจะ “เสือกอย่างมีสติ” หรือ “เสือกจนเป็นพิษ” ต่อความสัมพันธ์ในสังคม นักจิตวิทยายังทิ้งท้ายว่า การเสือกไม่ใช่เรื่องผิดเสมอไป เพราะบางครั้งเป็นแรงขับเคลื่อนให้สังคมรับรู้และช่วยเหลือกันได้ แต่ถ้าเกินขอบเขต ก็อาจสร้างปัญหาและทำลายความเป็นส่วนตัวของผู้อื่น