
สึกด่วน! "พระสายมู" แชตคุยเมียชาวบ้าน ชี้ ทำคณะสงฆ์ เสื่อมเสีย
สึกด่วนอีกราย! "พระสายมู" แชตคุยเมียชาวบ้าน ด้าน พศจ.มุกดาหาร ชี้ หลักฐานชัดเจน ทำคณะสงฆ์เสื่อมเสีย
นายบุญเชิด กิตติธรางกูร ป.ธ.9 รองผู้อำนวยการ สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ โพสต์เฟซบุ๊ก "Ch Kitti Kittitharangkoon" ระบุข้อความว่า ตามที่ปรากฏรายงานข่าววันที่ 21 ก.ค. 2568 เวลาประมาณ 09.36 น. ของสำนักข่าว ระบุ "ผัวไม่ทน แฉแชตลับพระสายมูคุยกับเมีย สุดท้ายครอบครัวแตกสลาย" นั้น
คณะกรรมการฝ่ายสงฆ์จังหวัดมุกดาหาร ได้สอบสวนข้อเท็จจริงแล้ว ปรากฏพระภิกษุที่ถูกร้องเรียน ได้กระทำผิดพระวินัยครุกาบัติ ในส่วนของอาบัติสังฆาทิเสส จึงให้เข้าปริวาสกรรมตามจำนวนวันที่ปกปิดอาบัติไว้
พศ. และ พศจ.มุกดาหาร จึงได้ถวายคำแนะนำแก่เจ้าคณะผู้ปกครองสงฆ์ ว่า กรณีดังกล่าว แม้เป็นครุกาบัติ (อาบัติสังฆาทิเสส) และเข้าสู่กระบวนการวุฏฐานวิธีเพื่อพ้นจากอาบัติ ได้ก็จริง แต่นำมาซึ่งความเสื่อมเสียต่อการคณะสงฆ์โดยรวม กระทบต่อศรัทธาของพุทธศาสนิกชนในวงกว้าง อีกทั้งปรากฏหลักฐานชัดเจนจากผู้ร้องว่า มีการแชตเชิงชู้สาว และบ่อยครั้ง
"เข้าข่ายประพฤติล่วงละเมิดพระธรรมวินัยเรื่องเดียวกันหรือหลายเรื่องเป็นอาจิณ" ตามกฎมหาเถรสมาคม ฉบับที่ 21 (พ.ศ.2538) ว่าด้วยการให้พระภิกษุสละสมณเพศ
เห็นควรพิจารณาโทษที่มากกว่าการประพฤติวุฏฐานวิธี (วุฏฐานวิธี ระเบียบเป็นเครื่องออกจากอาบัติ หมายถึงระเบียบวิธีปฏิบัติสำหรับภิกษุผู้จะเปลื้องตนจากอาบัติหนักขั้นสังฆาทิเสส ซึ่งมีทั้งหมด 4 อย่าง คือ ปริวาส มานัต อัพภาน และ ปฏิกัสสนา)
บัดนี้ พระภิกษุที่ถูกร้องเรียนดังกล่าว ได้ลาสิกขาแล้ว เมื่อเวลา 15.00 น.