
รพ.ตราด แจงละเอียดยิบ! เคสแม่กัมพูชาทิ้งลูก ไม่ใช่ปฏิเสธรักษา
รพ.ตราด แจงละเอียดยิบ! เคสแม่กัมพูชาทิ้งลูก ไม่ใช่ปฏิเสธรักษา ผู้ป่วยขอกลับเอง แถมไม่อยากได้ลูก ประสานส่งตัวกลับบ้านอย่างปลอดภัย
จากกรณีโลกออนไลน์ แชร์ข้อมูล แพทย์กัมพูชา ประณามโรงพยาบาลตราด ว่าไร้จรรยาบรรณ ปฏิเสธการรักษาแม่ลูกอ่อน ชาวกัมพูชาที่ไม่มีเงิน จนถูกแชร์และด่าทออย่างหนัก แต่จากรายงานข่าวของสื่อไทย พบว่า แรงงานสาวกัมพูชาทิ้งลูกที่ รพ.ตราด เพราะไม่มีเงินจ่ายค่าคลอดและสามีกลับประเทศไปแล้ว เจ้าหน้าที่ไทยกำลังประสานส่งตัวแม่ลูกกลับกัมพูชา โดยให้ รพ.ในกัมพูชารับช่วงดูแลต่อ มีการเรียกร้องให้ รพ.ตราด ชี้แจงข้อเท็จจริง 3 ภาษา และฟ้องหมิ่นประมาทแพทย์-รพ.กัมพูชาที่ทำให้เสื่อมเสียชื่อเสียง นั้น
27 มิ.ย. 2568 โรงพยาบาลตราด ออกแถลงการณ์ ชี้แจงข้อเท็จจริง ดังนี้
เวลา 14.15 น. วันที่ 25 มิ.ย. 2568 โรงพยาบาลได้รับรายงานจากพยาบาลตึกหลังคลอด ว่ามีผู้ป่วยหญิงพยายามจะออกจากโรงพยาบาล โดยให้เหตุผลว่าไม่มีค่าใช้จ่าย ทางโรงพยาบาลได้ให้คำแนะนำอย่างละเอียดแก่ผู้ป่วยถึงความจำเป็นในการพักรักษาตัว เนื่องจากเพิ่งคลอดบุตรได้ไม่กี่ชั่วโมง ซึ่งอาจนำไปสู่ภาวะแทรกซ้อนที่เป็นอันตรายถึงชีวิต เช่น ภาวะตกเลือดหลังคลอด หรือการติดเชื้อ นอกจากนี้ ยังได้แจ้งให้ทราบถึงสิทธิ์และช่องทางการขอรับความช่วยเหลือสงเคราะห์ด้านค่าใช้จ่าย
อย่างไรก็ตามผู้ป่วยยังคงยืนกรานปฏิเสธการรักษาและประสงค์จะกลับทันที เมื่อสอบถามถึงบุตร ผู้ป่วยแสดงเจตนาไม่ต้องการ อีกทั้งขอให้โรงพยาบาลนำไปทิ้ง หลังจากชักถามซ้ำ ผู้ป่วยได้ลุกจากเตียงและพยายามวิ่งออกจากโรงพยาบาลทันที ทางโรงพยาบาลจึงได้ประสานงานกับเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัย กุมารแพทย์ นิติกรโรงพยาบาล และสังคมสงเคราะห์ เพื่อเข้าพูดคุยระงับเหตุการณ์ดังกล่าว แต่ผู้ป่วยมีพฤติกรรมก้าวร้าว และพยายามหลบหนี โรงพยาบาลตราดจึงดำเนินการประสานกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ เพื่อช่วยในการดูแล
ต่อมาเวลา 15.40 น. ของวันเดียวกัน เจ้าหน้าที่ตำรวจ ได้เดินทางมาถึงตึกหลังคลอด และได้พูดคุยกับผู้ป่วยอีกครั้ง เพื่อชี้แจง ถึงความจำเป็นในการพักรักษาตัว และการทอดทิ้งบุตร ซึ่งอาจส่งผลตามกฎหมาย ผู้ป่วยยังคงยืนกรานที่จะเดินทางกลับประเทศกัมพูชาภายในวันดังกล่าวทันที และเริ่มมีท่าทีก้าวร้าวขึ้น เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้เข้าดำเนินการประสานงานเพื่อผลักดันผู้ป่วยกลับประเทศภูมิลำเนา โดยคำนึงถึงความปลอดภัย และสวัสดิภาพของผู้ป่วยเป็นสำคัญ
สำหรับทารกแรกเกิด กุมารแพทย์ ได้ประเมินสัญญาณชีพและค่าออกซิเจนของทารกอย่างละเอียด พบว่าคงที่และปลอดภัย เนื่องจากมารดามีพฤติกรรมหลบหนี และประสงค์จะทอดทิ้งทารกไว้ที่โรงพยาบาล ทางโรงพยาบาลจึงได้ประสานงานกับกุมารแพทย์โรงพยาบาลเกาะกง ซึ่งมีการพัฒนาระบบส่งต่อผู้ป่วยระหว่างโรงพยาบาลทั้งสองอย่างต่อเนื่อง อีกทั้งโรงพยาบาลได้มีโครงการพัฒนาศักยภาพของเจ้าหน้าที่โรงพยาบาลเกาะกง ร่วมกันเป็นประจำทุกปี รวมถึงได้รับประสานงานจากกุมารแพทย์ ว่ายินดีรับผู้ป่วยกลับประเทศไปดูแลอย่างดี
เพื่อความปลอดภัยสูงสุดของทารก โรงพยาบาลตราดได้จัดเตรียมรถพยาบาลพร้อม อุปกรณ์ที่จำเป็น อาทิ ออกซิเจน และตู้ควบคุมคุมอุณหภูมิ โดยมีพยาบาลเฉพาะทางทารกแรกเกิดดูแลอย่างใกล้ชิด ตลอดการเดินทางไปส่งยังจุดนัดหมายบริเวณชายแดน ทำให้มารดาและทารกได้อยู่ด้วยกันอย่างปลอดภัย
เวลา 21.52 น. เมื่อถึงโรงพยาบาลเกาะกง กุมารแพทย์จากโรงพยาบาลเกาะกง ได้ประสานกลับมายังโรงพยาบาลตราด เพื่อยืนยันการรับตัวทารก พร้อมแนบภาพถ่ายการดูแลทารกเป็นหลักฐาน ทางศูนย์ Refer โรงพยาบาลตราดจึงได้แจ้งกุมารแพทย์ที่เกี่ยวข้องเพื่อรับทราบสถานการณ์
โรงพยาบาลตราด ขอยืนยันว่าได้ดำเนินการทุกขั้นตอนตามมาตรฐานวิชาชีพอย่างเคร่งครัด โดยคำนึงถึงความปลอดภัยและสวัสดิภาพของผู้ป่วยเป็นสำคัญที่สุด พร้อมทั้งประสานงานกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อให้การช่วยเหลือตามหลักมนุษยธรรมและกฎหมายอย่างเหมาะสมที่สุด โรงพยาบาลตราด ขอขอบคุณทุกฝ่ายที่ให้ความร่วมมือในการแก้ไขปัญหานี้ให้ลุล่วงไปได้ด้วยดี