"ครูฝน" ฝ่ายปกครอง เปิดใจยอมรับ ทำรุนแรง สั่งลงโทษเด็ก ดื่มน้ำผสมบุหรี่ | คมชัดลึก

จากกรณีโลกออนไลน์วิพากษ์วิจารณ์อย่างหนัก เกี่ยวกับพฤติกรรมของ "ครูฝน" ครูฝ่ายปกครองของวิทยาลัยแห่งหนึ่ง ใน จ.นครสวรรค์ ที่ลงโทษนักเรียน ปวช.ปี 1 ด้วยการนำบุหรี่ผสมน้ำให้นักเรียนที่สูบบุหรี่ 11 คนดื่ม หลังพบพฤติกรรมสูบบุหรี่ของนักเรียนภายในสถาบันหลายครั้ง

1 มิ.ย. 2568 ครูฝน เปิดใจยอมรับว่า อาจกระทำเกินกว่าเหตุ แต่ทั้งหมดเกิดจากความตั้งใจจริง ที่อยากให้เด็กหลุดพ้นจากพฤติกรรมเสี่ยง ปัญหาเกิดจากนักเรียนกลุ่มเดิมๆ 11 คน แอบสูบบุหรี่หลังโรงเรียน ซึ่งติดกับแหล่งชุมชน จนได้รับการร้องเรียนจากชาวบ้านหลายครั้ง เนื่องจากกลิ่นควันรบกวน บางคนมีโรคประจำตัว

เมื่อมีการตักเตือนกลับถูกนักศึกษาท้าทายมา 3-4 ครั้ง ในทำนอง "ยึดไปก็หามาได้อีก" สะท้อนถึงการไม่เกรงกลัวกฎระเบียบและไร้ความยำเกรงต่อสังคม ซ้ำยังพยายามหาวิธีซุกซ่อนนำบุหรี่ซุกในส่วนต่างๆ ของร่างกาย ซึ่งบางจุดคุณครูผู้หญิงก็ไม่กล้าที่จะค้นตัว
 

จากความหวังดีและความเป็นห่วงอนาคตของเด็ก ครูฝนจึงตัดสินใจใช้วิธีการลงโทษที่รุนแรง โดยนำยาเส้นที่อยู่ในบุหรี่ที่ยึดได้มาจากนักเรียนเอง ผสมน้ำให้ดื่มเล็กน้อยแค่เพียงให้รู้รสและกลิ่น เพื่อหวังให้เด็กเข็ดขยาดและหลาบจำ แต่ก็ยอมรับว่า มันเป็นวิธีที่ไม่เหมาะสม จึงอยากจะขอโทษผู้ปกครองรวมถึงสังคมอย่างสุดซึ้ง

"ครูผิดเองที่เลือกวิธีที่รุนแรงไป แต่ครูแค่อยากให้เด็กไม่เดินผิดทาง ครูอยากให้สถาบันเป็นพื้นที่สีขาวจริงๆ ไม่มีอบายมุข ไม่มีสารเสพติด ครูรักลูกศิษย์ทุกคน อยากให้มีอนาคตที่ดี" กับคำถามจากสื่อว่า "ท้อไหม" ทำเอาครูฝนถึงกับนิ่งไปสักพักก่อนตอบปนเสียงสะอื้นว่า "ไม่ค่ะ เพราะมันเป็นผลดีกับพวกเขา (เด็กเรียน) ครั้งนี้ถือเป็นบทเรียนของตนเองและเด็กๆ 

จากเหตุการณ์ดังกล่าว และเบื้องต้นทางวิทยาลัยได้สั่งพักงานครูฝนเป็นเวลา 1 สัปดาห์ เพื่อรอผลสอบสวนข้อเท็จจริง ขณะที่ผู้ปกครองบางรายเริ่มเสียงแตก หันมาให้กำลังใจและเข้าใจครูฝนมากขึ้น สำหรับชาวบ้านบางส่วนที่ได้รับรู้เรื่องราวนี้ ก็มีจำนวนไม่น้อยที่สะท้อนให้เห็นว่า สังคมควรให้พื้นที่แก่ครูที่ทำผิดแล้วสำนึก โดยเฉพาะในกรณีที่เกิดขึ้น เกิดจากเจตนาดี เพียงแต่ผิดวิธีเท่านั้น

ด้าน ผู้อำนวยการสถาบันฯ ยอมรับว่า ครูฝนลงโทษนักเรียนเกินกว่าเหตุจริง แต่ก็เข้าใจถึงเหตุผลของครูฝน แต่บทลงโทษเด็กก็ไม่ควรทำแบบนี้ โดยมาตรการของสถาบันจะยังคงตรวจสอบพฤติการณ์เด็กนักเรียนที่สูบบุหรี่เข้มงวดขึ้น และบทลงโทษก็จะทำให้เข้มขึ้นแต่อยู่ในกรอบของกฎระเบียบที่ถูกวิธี เพื่อตัวประโยชน์และภาพพจน์ของเด็กนักเรียนเองและก็ยังทำตามนโยบายของกระทรวงฯ ที่ต้องการให้โรงเรียนเป็นโรงเรียนสีขาวต่อไป