
ผกก.สน.ประเวศ เผยอาจเข้าข่ายฉ้อโกง เปิดปม "ทีม staff" แฉเบื้องลึกงานวิ่งล่ม
ผกก.สน.ประเวศ เผยอาจเข้าข่ายฉ้อโกง เปิดปม "ทีม staff " แฉเบื้องลึกงานวิ่งล่ม ผู้จัดเคยผลัดจ่ายค่าแรงซ้ำถูกแจ้งความดำเนินคดี
25 พ.ค. 2568 พ.ต.อ.ทศพล อำไพพิพัฒน์กุล ผกก.สน.ประเวศ เปิดเผยถึงกรณีกลุ่มนักวิ่งถูกผู้จัดงานเทงานวิ่งว่า ขณะนี้อยู่ระหว่างการสอบปากคํา 2 ผู้จัดงาน ซึ่งเป็นเจ้าของบริษัทชื่อดังแห่งหนึ่ง เบื้องต้นทางผู้จัดอ้างว่ามีเจตตนาที่จะจัดงานจริง เนื่องจากมีการแจกอุปกรณ์ต่างๆ เช่น Bib เสื้อ นาฬิกา และหมวก ให้กับผู้วิ่งประมาณ 600 คน จากผู้ลงสมัครกว่า 1,800 คน ซึ่งตอนนี้อยู่ระหว่างการสอบปากคำ และตรวจสอบรายละเอียดของการจัดส่งของ ที่ลงไว้ในเพจว่าส่งให้ตามสเปคจริงหรือไม่
รวมถึงต้องไปตรวจสอบช่องทางการรับอุปกรณ์ทางรับหน้างาน รับล่วงหน้า หรือรับทางไปรษณีย์ซึ่งรายละเอียดดังกล่าวอยู่ระหว่างการตรวจสอบ และรวบรวมหลักฐาน ซึ่งหากมีความผิดทางอาญาจะเข้าข่ายการฉ้อโกง พ.ร.บ.คุ้มครองผู้บริโภค พ.ร.บ.คอมฯ รวมถึงจะเข้าข่ายความผิดทางคดีแพ่ง แต่ขอให้ตำรวจสอบปากคำรวบรวมพยานหลักฐาน รวมถึงเรียกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทั้งหน่วยที่อนุญาตสถานที่ในการจัดงาน ซึ่งเป็นการดูแลของสำนักสิ่งแวดล้อม กรุงเทพมหานคร
ส่วนผู้เสียหาย ตำรวจให้แจ้งความลงบันทึกประจำวัน ส่วนใครที่ไม่สะดวก จะให้ลงรายละเอียดใน Google ฟอร์มและจะนำมารวบรวมในสำนวน ส่วนนักวิ่งจะได้เงินคืนหรือไม่ทางผู้กำกับไม่สามารถตอบได้เพราะเป็นเรื่องทางแพ่งและทางผู้จัด พ.ต.อ.ทศพล ยืนยันจะเร่งดำเนินการให้เร็วที่สุด ตรงไปตรงมาและตามจริงเพื่อให้นักวิ่งทุกคนได้สบายใจ
ด้าน นางปณิศรา (สงวนนามสกุล) หรือ นาง ทีมสต๊าฟที่ถูกจ้าง กล่าวว่า เธอถูกติดต่อมาให้มาแจกนํ้าและทําสต๊าฟบอกเส้นทางให้นักวิ่ง ได้ค่าจ้างคนละ 500 คน มา 63 คน โดยวันนี้เมื่อมาถึงทีมงานก็ลงจุดแจกนํ้า และกระจายไปตามเส้นทางและจุดฝากของ แต่ก็ไม่มีงานเกิดขึ้นจริง
ส่วนเมื่อถามว่างานล่มได้ไงนั้น เธอไม่ทราบ เพราะจากที่คุยกับผู้จัด ก็ยังยืนยันว่าจะจัดงานอยู่ แต่เธอสังเกตเห็นว่า ที่จัดงานมีซุ้มแต่ไม่เหมือนทุกงานที่เคยทํา ไฟ แสงสีเสียงก็ไม่พร้อม ซุ้มปล่อยตัว งานวิ่งก็เหมือนเด็กอนุบาล ไม่ใช่นาฬิกาที่ใช้กันในงานวิ่ง เหรียญรางวัลก็เห็นมีเมื่อเช้าแต่ไม่ได้เยอะเท่าคนวิ่ง ปกติสเกลงานวิ่งที่เคยทำมา ประมาณ 3-4 พันคน แต่งานนี้เพียง พันกว่าคนเอง
นางปณิศรา บอกอีกว่า เพิ่งเคยทํางานกับผู้จัดนี้ครั้งแรก แต่ยังดีที่เธอได้ค่าตอบแทนค่าแรงมาหมดแล้ว เหลือค่าถุงขยะบางส่วนในราคาหลักร้อยเท่านั้น แต่ก่อนหน้านี้ ที่ตอนจะจ่ายค่าจ้าง ทางทีมผู้จัดมีการผลัดมา 3 - 4 ครั้ง จนเธอพูดว่าถ้าไม่พร้อมก็ยกเลิกจ้างเธอหรือเลิกจัดงานก็ได้ แต่ทางผู้จัดก็ยืนยันว่างานจะยังคงจัดขึ้น และเพิ่งจะจ่ายเงินครบเมื่อวานนี้เอง รวมกว่า 30,000 บาท
และที่ผ่านทาเธอ ติดต่อกับผู้จัด ที่ชื่อไอซ์ อุ๊ ผึ้ง ผ่านการคุยโทรศัพท์และแชทเท่านั้น ไม่เคยเจอตัวจริงและเธอทราบมาว่างานวิ่งที่ถูกเทครั้งนี้ เป็นงานวิ่งที่ถูกเลื่อนมาตั้งแต่เมื่อ 26 มกราคมปีที่แล้ว
นอกจากนี้นางปณิศรา ยังบอกอีกว่า เธอเพิ่งทราบว่าเธอถูกกลุ่มผู้จัดฟ้องดำเนินคดีในข้อหาฉ้อโกงค่าเสื้อเมื่อวันที่ 21 พ.ค. 2568 เธอบอกว่าผู้จัดเป็นคนเสนอให้เธอมาขายเสื้องานวิ่งที่หน้าสวน สาธารณะจำนวน 100 ตัว ขายตัวละ 600-650 บาท ซึ่งตนขอค่าเปอร์เซ็นต์ในการขายเสื้อตัวละ 50 บาท เธอขายหมด รวมขายได้ 65,000 บาท และโอนให้ไปแล้วจํานวน 60,000 บาท อีก 5,000 บาท คือค่าเปอร์เซ็นต์ที่ตกลงคุยกัน แต่กลับถูกแจ้งความดําเนินคดี เธอยืนยันว่ามีหลักฐานการโอนทั้งหมด และยืนยันว่าเงิน 5,000 ที่หักมาเป็นเงินค่าเปอร์เซ็นต์ที่คุยกันในการหักจากการขายเสื้อ