
นายจ้างเล่า ลูกน้องถูกงูกัด รพ.ให้กินพารา สุดท้ายอาการโคม่า
นายจ้างเปิดใจเล่า ลูกน้องถูกงูกัด รพ.ให้กินพารา แล้วให้กลับบ้าน สุดท้ายชักเกร็ง อาการโคม่าต้องใส่เครื่องช่วยหายใจ เผยคำพูดจุกอก "เคสงูกัดไม่สำคัญ"
8 พ.ค. 2568 เมื่อเวลา 10.00 น. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ผู้ใช้เฟซบุ๊กรายหนึ่งโพสต์เล่าประสบการณ์ลูกน้องถูกงูกัด พาไปรักษา ทาง รพ.ยันในเลือดไม่มีพิษบอกเคสไม่สำคัญ ให้รับยากลับบ้านได้ จนต่อมา คนถูกงูกัดอาการโคม่า หายใจไม่ออก ไม่มีแรง ลิ้นจุกปาก ชักเกร็งต้องใส่เครื่องช่วยหายใจ
นายกิ๊ก (สงวนชื่อ) อายุ 42 ปี นายจ้างของคนถูกงูกัด หรือ นายสุทัศย์ (สงวนนามสกุล) อายุ 18 ปี เล่าผ่านโทรศัพท์ว่า เวลา 01.00 น. ของคืนวันที่ 7 พ.ค. 68 ลูกน้องถูกงูกัด ในบ้านพัก ในพื้นที่ ต.พลงตาเอี่ยม อ.วังจันทร์ จ.ระยอง ซึ่งปลูกเป็นขนำในสวนยาง ต่อมาพาน้องไปรักษาที่ รพ.แห่งหนึ่งใน อ.วังจันทร์ จ.ระยอง แล้วทาง รพ.วินิจฉัยว่าในเลือดไม่มีพิษ เคสงูกัดไม่สำคัญให้รับยาพารา ยาฆ่าเชื่อแล้วกลับบ้านได้
นายจ้างเล่าต่อว่าหลังจากลูกน้องกลับบ้าน ประมาณ 08.00 น. ของวันเดียวกัน อาการน้องแย่ลง หายใจไม่ออก ชักเกร็ง จึงพาส่ง รพ.เป็นการด่วนน้องต้องใส่เครื่องช่วยหายใจ ส่งต่อ รพ.ประจำจังหวัดเพื่อรักษา อาการล่าสุด รพ.ประจำจังหวัดให้เซลุ่มไป 2 เข็ม อาการยังทรงตัว วันนี้ ( 8 พ.ค. 68 ) จะทราบผลเพิ่มเติมว่า น้องอาการเป็นอย่างไร
สำหรับข้อมูลทางโรงพยาบาลต้นเรื่อง ที่น้องไปรักษา หลังจากโพสต์ลงเฟซบุ๊ก ทาง รพ. ยังไม่ติดต่อมาชี้แจงอะไร ตอนนี้ขอดูแลอาการให้ลูกน้องปลอดภัยก่อน ส่วนเรื่องคำชี้แจงของทาง รพ. เอาไว้ทีหลัง อย่างไรก็ตามจากเหตุการณ์ดังกล่าว ขอให้น้องที่ถูกงูกัดอาการปลอดภัย เคสนี้คงจะเป็นอุทาหรณ์สำหรับการวินิจฉัยการรักษา และสิ่งสำคัญ คำพูดที่ว่า เคสงูกัดไม่สำคัญรับยาพารากลับบ้านได้ ไม่ควรพูดออกมาให้สะเทือนใจคนป่วย



