ข่าว

ดราม่าแรง "นพ.ธนีย์" งัดหลักฐานโชว์  หลังโดนทัวร์ตั้งคำถามไม่ใช่อาจารย์หมอ

ดราม่าแรง "นพ.ธนีย์" งัดหลักฐานโชว์ หลังโดนทัวร์ตั้งคำถามไม่ใช่อาจารย์หมอ

05 พ.ค. 2568

ดราม่าแรง "นพ.ธนีย์" งัดหลักฐานโชว์ หลังโดนทัวร์ตั้งคำถามไม่ใช่อาจารย์หมอ ไม่เคยเป็นอาจารย์แพทย์ที่ "Harvard Medical School"

เรียกได้ว่ากำลังเป็นดราม่า ร้อนฉ่าในโลกออนไลน์ เกี่ยวกับประเด็นที่ผู้ใช้เฟซบุ๊กรายหนึ่งออกมาตั้งคำถามถึงตัวของ นายแพทย์ธนีย์ ธนียวัน หรือ หมอแทน อาจารย์แพทย์อยู่ที่ประเทศสหรัฐอเมริกา เชี่ยวชาญโรคปอด การปลูกถ่ายปอดและวิกฤตบำบัด เจ้าของช่องยูทูป Doctor Tany ที่ทำคอนเทนต์ให้ความรู้สุขภาพ ล้อไปกับประเด็นที่เกิดขึ้นในสังคม 

 

 

ดราม่าแรง \"นพ.ธนีย์\" งัดหลักฐานโชว์  หลังโดนทัวร์ตั้งคำถามไม่ใช่อาจารย์หมอ

โดยเฟซบุ๊กดังกล่าวโพสต์ภาพ  นายแพทย์ธนีย์ ธนียวัน พร้อมข้อความอ้างว่า "แพทย์หรือตัวแทนบริษัทวัคซีนกันแน่ ? แว้บแรกคิดว่าผู้แทนวัคซีนไฟเซอร์ ตั้งใจมองไม่ bias(ประสาหมอกับแพทย์เขาคุยกัน) ว่าความคิดใครถูกใครผิด สงสัยว่าเชี่ยวชาญทางด้านไหน ทำงานโรงพยาบาลอะไร ให้ความเห็นหรือวิพากษ์วิจารณ์ในฐานะอะไร แพทย์หรือตัวแทนบริษัทผู้ผลิตวัคซีนกันแน่ เลยลองหาข้อมูลเล่นๆดู เจอเป็นหลักทางยูทูป ข้อมูลในช่องระบุว่า เป็นเจ้าของช่อง Doctor Tany หรือ นพ. ธนีย์ ธนียวัน (Tany Thaniyavarn, MD)....."

 

ดราม่าแรง \"นพ.ธนีย์\" งัดหลักฐานโชว์  หลังโดนทัวร์ตั้งคำถามไม่ใช่อาจารย์หมอ

ต้นฉบับ คลิกที่นี่ 
 

เกี่ยวกับประเด็นนี้ รศ. ดร. เจษฎา อาจารย์ประจำภาควิชาชีววิทยา คณะวิทยาศาสตร์ จุฬาฯ และนักสื่อสารวิทยาศาสตร์ ได้ออกมาสรุปไทม์ไลน์รายละเอียด ระบุว่า เขาหาว่า คุณหมอ ธนีย์ ไม่เคยเป็นอาจารย์ Harvard  สรุปกรณีที่มีคนมาโพสต์หาเรื่อง คุณหมอ ธนีย์ Tany (คุณหมอชื่อดัง ที่ทำช่องยูทูปให้ความรู้ด้านสุขภาพ และคอยแก้ไขข่าวปลอม ข่าวมั่ว โดยเฉพาะที่เกี่ยวกับเรื่องโรคโควิด และวัคซีน) นะครับ


มีคนโพสต์ข้อความผ่านเพจเฟซบุ๊กหนึ่ง (ซึ่งไม่ได้ใช้ชื่อจริง ระบุเพียงเป็นคนนครศรีธรรมราช) ซึ่งเมื่อเลื่อนดูแล้ว จะเห็นได้ว่าเคยโพสต์ข้อความจำนวนมากในเชิงต่อต้านวัคซีน mRNA โควิด และวัคซีนไข้หวัดใหญ่ เขาได้โพสต์ตั้งคำถามว่า "แพทย์หรือตัวแทนบริษัทวัคซีนกันแน่ ? " โดยเน้นไปที่โจมตี คุณหมอธนีย์ ว่าคิดว่าเป็นผู้แทนวัคซีนไฟเซอร์ เป็นแพทย์หรือตัวแทนบริษัทผู้ผลิตวัคซีนกันแน่

โดยเขาได้อ้างว่า  "ไม่มีข้อมูลที่ระบุชัดเจน ว่า นพ.ธนีย์ ธนียวัน 
ทำงานที่ Harvard Medical School โดยตรง 
การเป็นอาจารย์แพทย์ในสหรัฐอเมริกานั้น ก็ "ไม่ได้ระบุชื่อสถาบันอย่างชัดเจน
ช่อง YouTube ชื่อ "Doctor Tany" ไม่พบข้อมูลเกี่ยวกับการเชื่อมโยงกับ Harvard 
หนังสือ Health Talk กับ Doctor Tany  และหนังสืออื่น ๆ ของเขา ไม่ได้ระบุสถานที่ทำงานปัจจุบัน  


ทำให้เขาสรุปว่า "ไม่มีหลักฐานอ้างอิงที่ชัดเจน ในผลการค้นหาปัจจุบัน ที่ยืนยันว่า นพ.ธนีย์ ธนียวัน ทำงานที่ Harvard Medical School" รวมทั้งการสืบค้นในฐานข้อมูลของแพทยสภา พบ นพ. ธนีย์ ธนว*** TANY TNYV***, M.D. เป็นผู้ประกอบวิชาชีพเวชกรรมตั้งแต่ พ.ศ. 2549 แต่ข้อมูลไม่บอกสถานะความรู้ความชำนาญเฉพาะทาง ที่แพทยสภารับรอง 
(ซึ่งทั้งหมดนี้ ผมคิดว่าเป็นการกล่าวหาที่ร้ายแรงมาก และเข้าข่ายให้ฟ้องหมิ่นประมาทได้ .. เพราะมีทั้งคำที่กล่าวหาให้เสียชื่อเสียง และมีคนมาคอมเมนต์ร่วมกล่าวหา เสียๆ หายๆ อีกเป็นจำนวนมาก)

ล่าสุด คุณหมอ ธนีย์ ได้โพสต์คลิปผ่านยูทูป อธิบายตอบประเด็นข้อกล่าวหาดังกล่าว ในชื่อคลิปว่า "เขาว่าผมไม่เคยเป็นอาจารย์ Harvard!? ไม่ใช่หมอเฉพาะทาง!? — งั้นมาดูหลักฐานชัดๆ #กรี๊ดสิครับ" โดยชี้แจงหลายประเด็น ดังนี้


คุณหมอเคยทำงานที่เป็นอาจารย์แพทย์ Harvard Medical School และ  Brigham and Women's Hospital แต่ปัจจุบันลาออกแล้ว เนื่องจากเกิดการควบรวมเข้ากับโรงพยาบาล Massachusetts General Hospital ทำให้เกิดปัญหาด้านการบริหาร ระบบที่สับสน ตัดงบงานวิจัย ทำงานได้ไม่เต็มประสิทธิภาพ จึงลาออกมา

ส่วนการที่ใช้คำว่า "อาจารย์แพทย์" นั้น คุณหมอบอกว่าเป็นความคิดส่วนตัว จากการที่เขายังคงทำงานด้านการให้ความรู้ด้านการแพทย์อยู่ เหมือนกับอาจารย์แพทย์ที่เกษียณแล้ว ก็ยังเรียกกันว่าเป็นอาจารย์ ..ใครไม่เห็นด้วยก็ไม่เป็นไร


ตั้งแต่เริ่มทำคลิปยูทูปมา คุณหมอก็ไม่ได้โปรโมทว่าตนเองเป็นอาจารย์แพทย์ที่โรงพยาบาลไหน ไม่ได้จงใจพูดในรายการเพื่อให้คนเชื่อตนจากสังกัด อยากให้เน้นที่เนื้อหามากกว่า ... แต่ผู้ชมไปทราบกันทีหลังเอง 

คุณหมอได้แสดงหลักฐานต่าง ๆ ดังเช่น บัตรประจำตัว ที่ Harvard Medical School และที่โรงพยาบาล  Brigham and Women's Hospital , บัตรประจำตัวที่ โรงพยาบาล Dana-Farber Cancer Institute (เป็นที่ปรึกษาอยู่ที่นั้น) , หนังสือรับเข้าทำงานที่  Harvard Medical School และ  Brigham and Women's Hospital เมื่อปี 2018 (มีระบุชัดเจนว่า ได้เงินเดือนจ้าง หลักแสนเหรียญ ไม่ใช่แค่ไปทำ fellow ที่นั่น) , ประกาศนียบัตร รับรองให้ทำอาชีพแพทย์ที่รัฐแมสสาชูเซต เมืองบอสตัน ได้ , เอกสารระบุการเป็นผู้เชี่ยวชาญด้านการปลูกถ่ายปอด และการดูแลผู้ป่วยปลูกถ่ายอวัยวะระยะวิกฤติ ในการจัดคอร์สสอนต่างๆ ของ Brigham and Women's Hospital 

 

คุณหมอแสดงหลักฐานผลงานทางวิชาการ เช่น ร่วมแต่งหนังสือ Lung Transplantation (2 เล่ม ปี 2022 และ 2023) และระบุว่า ยังทำงานที่ Veterans Affairs Boston Health Care ที่บอสตัน อีกแห่งหนึ่งด้วย


ส่วนประวัติการศึกษานั้น ตอนประถมและมัธยมต้น เรียนที่โรงเรียนเซนต์ดอมินิก มัธยมปลายที่โรงเรียนเตรียมอุดม ฯ และคุณหมอมีหลักฐานแสดงถึงการจบแพทยศาสตร์บัณฑิต จากจุฬาฯ เกียรตินิยมอันดับหนึ่ง (จบ ปี พ.ศ. 2549) ผลการเรียนดีทุกวิชา , เคยทำกิจกรรมใหญ่ อย่างการเป็น chairperson ให้กับงาน The 25th Asian Medical Students Conference สมัยเรียนปี 5 , เคยเป็นหัวหน้าแผนกวิเทศสัมพันธ์ (หมายถึง ติดต่อกับต่างประเทศ) ของสโมสรนิสิตคณะแพทย์ , เรียนจบ เป็นสมาชิกแพทย์สภา , ทำงานใช้ทุนที่โรงพยาบาล สมเด็จพระบรมราชเทวี ณ ศรีราชา 3 ปี , สอบผ่านประกาศนียบัตร ECFMG (Educational Commission for Foreign Medical Graduates ) ด้วยคะแนนดีมาก เพื่อไปที่สหรัฐอเมริกา  , ไปเรียน residency (Resident in Internal Medicine อยุรกรรม) ที่สถาบัน Albert Einstein Medical Center ที่เมืองฟิลาเดลเฟีย รัฐเพนซิลวาเนีย และมีภาพข่าวประกอบในหนังสือพิมพ์ และจดหมายระบุถึงการเป็นคนไม่กี่คนที่ได้คะแนนสูงสุด รวมถึงรางวัลอื่นๆ อีกหลายอย่างของสถาบัน 


สอบ หมออยุรกรรม ได้ประกาศนียบัตรจาก The American Board of Internal Medicine , ไปเรียนต่อจนจบ ด้าน โรคปอดและวิกฤติบำบัด จาก Department of Medicine School of Medicine Emory University และได้รางวัล outstanding fellow และ The Brainiac Award รวมทั้งชนะเลิศการแข่งขันรางวัลทางวิชาการต่างๆ  , สอบได้ใบประกาศนียบัตร ด้านโรคปอด และอีกใบ ด้าน เวชบำบัดวิกฤติ จาก The American Board of Internal Medicine , ไปเรียนด้านการปลูกถ่ายปอด จากมหาวิทยาลัย Duke University Medical Center 

คุณหมอทิ้งท้ายว่า จริงๆ แล้วเรื่องพวกนี้ไม่เคยเอามาเล่าให้ใครฟังเลย ไม่คิดจะนำมาอวดอะไร แค่บอกแนะนำตัวว่าเป็นอาจารย์แพทย์ที่อเมริกา .. แต่อยากให้ฟังจากเนื้อหาข้อมูล รวมถึงตรรกะ ที่นำมาอธิบายทางรายการมากกว่า  สรุปสั้นๆ ก็คือ โพสต์ของคนคนนั้น เป็นการกล่าวหาคุณหมอ ที่มั่ว และน่าเกลียดมากครับ โดยคุณหมอได้ชี้แจงอย่างชัดเจนมาก พร้อมหลักฐานประกอบครบถ้วน แก้ข้อกล่าวหาได้ (แถมอึ้งเลย ว่าคุณหมอจะโคตรเก่งอะไรปานนั้น 55) 


แต่ถึงอย่างนั้นดราม่าก็ยังไม่จบ เพราะในกลุ่มที่โพสต์ตั้งคำถามมีการพูดถึงต่อเป็น EP 2 และ 3 อ่านต่อที่นี่ 

 

ดราม่าแรง \"นพ.ธนีย์\" งัดหลักฐานโชว์  หลังโดนทัวร์ตั้งคำถามไม่ใช่อาจารย์หมอ

 

ดราม่าแรง \"นพ.ธนีย์\" งัดหลักฐานโชว์  หลังโดนทัวร์ตั้งคำถามไม่ใช่อาจารย์หมอ