ข่าว

อย่าชะล่าใจ! ใครได้ยินเสียงตุ๊บๆ ในหูไม่ใช่เรื่องเล่น อันตรายถึงตาย

อย่าชะล่าใจ! ใครได้ยินเสียงตุ๊บๆ ในหูไม่ใช่เรื่องเล่น อันตรายถึงตาย

09 มี.ค. 2568

อย่าชะล่าใจ! ใครได้ยินเสียงตุ๊บๆ ในหูไม่ใช่เรื่องเล่น อันตรายถึงตาย เช็กด่วนใครมีอาการเหล่านี้ หาหมอด่วนๆ

9 มี.ค. 2568 ผศ.นพ.สุรัตน์ ตันประเวช แพทย์เวชปฏิบัติทางประสาทวิทยาที่มีความเชี่ยวชาญพิเศษด้านสมองและความผิดปกติทางประสาทวิทยา โพสต์เคสคนป่วยเพื่อเตือนภัย ใครมีอาการเหล่านี้พบหมอด่วน อันตรายถึงตาย

โดยรายละเอียดระบุว่า  คนไข้ : หมอ ผมได้ยินเสียงหัวใจตัวเอง ตุ๊บๆ เลย คงจะมีความรัก 

หมอ : เวรละ นั่นมันสัญญาณโรคหลอดเลือดสมอง ที่เส้นเลือดเชื่อมกัน Arterio Venous Fistular (AVM) รีบไปฉีดสี เส้นเลือดสมอง  1 สัปดาห์ กลับมา  ภาพฉายรังสีเส้นเลือด มีการเชื่อม เส้นเลือดแดงและดำ เลยรีบส่ง ให้หมอตั้ม ไปอุดเส้นเลือด เอ้อ ได้ยินเสียงหัวใจตัวเอง จะเสี่ยงตายน่อ 

มาคุยเรื่อง ได้ยินเสียงหัวใจ ในหูดีกว่า ฟู่ ๆ ตุ้บๆ  อันตราย  คนปกติเราไม่ได้ ยิน แต่หากได้ยิน เราเรียก pulsatile tinnitus อันตราย รีบไปตรวจ 

 

Pulsatile Tinnitus คืออาการที่ได้ยินเสียงในหูเป็นจังหวะ ๆ มักจะสอดคล้องกับจังหวะการเต้นของหัวใจ (เหมือนได้ยินเสียงหัวใจเต้น ตุ้บ ๆ หรือฟู่ ๆ ในหู) ซึ่งแตกต่างจากหูอื้อทั่วไป (Tinnitus) ที่มักเป็นเสียงวี๊ง ๆ หรือจี๊ด ๆ คงที่ ไม่มีจังหวะ 

 

Pulsatile Tinnitus เกิดจากความผิดปกติที่เกี่ยวข้องกับการไหลเวียนของเลือดในร่างกาย โดยเฉพาะบริเวณใกล้หู คอ หรือสมอง สาเหตุของ Pulsatile Tinnitus มันเกิดได้จากหลายสาเหตุ ตั้งแต่ไม่ร้ายแรงไปจนถึงอันตราย ซึ่งหลัก ๆ แบ่งออกเป็นกลุ่มใหญ่ ๆ ดังนี้:

 

 


 

1. ปัญหาเกี่ยวกับเส้นเลือด (Vascular Causes)

  •  Arteriovenous Malformation (AVM): การเชื่อมต่อผิดปกติระหว่างเส้นเลือดแดงและเส้นเลือดดำ ทำให้เลือดไหลแรงผิดปกติและเกิดเสียง
  •  Carotid Artery Stenosis: เส้นเลือดแดงใหญ่ที่คอตีบ ทำให้เกิดการไหลของเลือดที่ปั่นป่วน (turbulent flow) สร้างเสียงได้
  •  Aneurysm: เส้นเลือดโป่งพอง อาจอยู่ในสมองหรือใกล้หู
  •  Venous Hum: เส้นเลือดดำใกล้หู (เช่น jugular vein) ไหลแรงเกินไป มักพบในคนที่เป็นโรคโลหิตจางหรือมีความดันในกะโหลกสูง
  •  Dural Arteriovenous Fistula (DAVF): การเชื่อมต่อผิดปกติระหว่างเส้นเลือดในเยื่อหุ้มสมอง

 

2. ความดันในกะโหลกสูง (Increased Intracranial Pressure)  เช่นในภาวะ Idiopathic Intracranial Hypertension (IIH) ซึ่งมักพบในคนอ้วนหรือผู้หญิงวัยเจริญพันธุ์ อาจทำให้ได้ยินเสียงฟู่ ๆ ในหู

 

3. ปัญหาที่หูหรือโครงสร้างรอบ ๆ หู

  •  Glomus Tumor: เนื้องอกของเส้นเลือดที่หูชั้นกลางหรือรอบ ๆ หู ซึ่งมีเลือดไหลผ่านเยอะ
  •  Middle Ear Effusion: มีของเหลวในหูชั้นกลาง ทำให้ได้ยินเสียงการไหลของเลือดชัดขึ้น

 

4. สาเหตุอื่น ๆ

  •  โลหิตจาง (Anemia): ทำให้เลือดไหลเร็วขึ้นเพื่อชดเชยออกซิเจนที่ขาด
  •  ต่อมไทรอยด์ทำงานมากเกิน (Hyperthyroidism): เพิ่มการไหลเวียนของเลือดทั่วร่างกาย
  •  ความเครียดหรือความดันโลหิตสูง: อาจทำให้รับรู้เสียงการไหลเวียนเลือดมากขึ้น

 

อาการ

  • ได้ยินเสียงในหูเป็นจังหวะ ๆ (มักดังขึ้นตอนอยู่ในที่เงียบ ๆ หรือตอนนอน)
  •  เสียงอาจดังข้างเดียวหรือทั้งสองข้าง
  •  บางคนอาจมีอาการอื่นร่วมด้วย เช่น ปวดหัว มองเห็นภาพซ้อน หูอื้อ หรือเวียนศีรษะ

 


อันตรายหรือไม่?

 

  •  ถ้าเป็นแค่กรณีที่ไม่ร้ายแรง เช่น venous hum จากความเครียดหรือโลหิตจางเล็กน้อย อาจไม่ถึงกับอันตราย แต่ก็ควรแก้ไขสาเหตุ
  •  แต่ถ้าเกิดจากปัญหาเส้นเลือดในสมอง เช่น AVM หรือ aneurysm อันนี้อาจเสี่ยงต่อภาวะเลือดออกในสมอง หรือเส้นเลือดสมองตีบได้ ถือว่าอันตราย ต้องรีบตรวจและรักษา ทำ MRA ดูเส้นเลือดสมอง 

 


การรักษา


ขึ้นอยู่กับสาเหตุที่พบ เช่น

  •  ถ้าเป็น โลหิตจาง หรือ ไทรอยด์ทำงานมากเกิน: รักษาภาวะนั้น เช่น ให้ธาตุเหล็ก หรือยาควบคุมไทรอยด์
  •  ถ้าเป็น AVM หรือ Aneurysm: อาจต้องทำหัตถการ เช่น อุดเส้นเลือด (Embolization) หรือผ่าตัด
  • ถ้าเป็น Venous Hum จากความดันในกะโหลกสูง: อาจต้องลดความดันในกะโหลกด้วยยาหรือการเจาะระบายน้ำ
  •  ถ้าไม่รุนแรง: บางครั้งแค่ลดความเครียด ออกกำลังกาย หรือปรับพฤติกรรมก็ช่วยได้

 

 

ข้อแนะนำ

  •  ถ้าได้ยินเสียงจังหวะในหู โดยเฉพาะถ้ามีอาการอื่นร่วมด้วย เช่น ปวดหัวรุนแรง แขนขาอ่อนแรง หรือมองเห็นภาพซ้อน อย่ารอช้า รีบไปพบหมอเลย
  •  หลีกเลี่ยงการอยู่ในที่เงียบเกินไป เพราะอาจทำให้รู้สึกถึงเสียงชัดขึ้น
  •  ถ้าสงสัยอะไรเพิ่ม ถามหมอได้เลย ไม่ต้องกลัว!
  • Pulsatile Tinnitus ไม่ใช่เรื่องล้อเล่นนะ ถ้าเจออาการนี้ อย่าคิดว่าแค่ “ได้ยินหัวใจตัวเอง” แล้วปล่อยผ่าน รีบตรวจให้ชัวร์ดีกว่า! 

อจ. สุรัตน์