คนใช้จริงรีวิว เปิดงบติดตั้ง Flood Gate กำแพงกันน้ำท่วม ลงทุนครั้งเดียวคุ้ม
สาวเปิดงบ รีวิว Flood Gate ระบบป้องกันน้ำท่วม คล้ายโรงแรมดังเชียงใหม่ใช้ป้องกันน้ำท่วม เผย ลงทุนครั้งเดียว ไม่ต้องผวาน้ำท่วม
สถานการณ์ น้ำท่วมเชียงใหม่ มวลน้ำที่ไหลเข้าท่วมบ้านเรือนทำให้ได้รับความเสียหายอย่างหนัก แต่หนึ่งในสถานที่ที่กลายเป็นไวรัลคือ โรงแรมหรูระดับ 5 ดาว ซึ่งมีวิธีป้องกันน้ำท่วมด้วยการใช้ Flood Gate ทำให้ตัวโรงแรม และผู้พักด้านในไม่ได้รับความเดือดร้อนจากน้ำท่วมในครั้งนี้
สำหรับ Flood Gate หลายต่อหลายคนตั้งคำถามว่า หากติดตั้งที่บ้านเรือนของตัวเองเพื่อป้องกันน้ำท่วม จะคุ้มค่าหรือไม่ ซึ่งผู้ใช้งานเฟซบุ๊กชื่อว่า "นัฐจิรา ถุงแป้ง ยิ่งยง" ได้ออกมารีวิวการติดตั้ง Flood Gate ที่บ้านของเธอ คล้ายกับกำแพงกันน้ำท่วมแบบเดียวกับ โรงแรมแชงกรีล่าเชียงใหม่ ลงทุนครั้งเดียวสุดคุ้ม
"นัฐจิรา ถุงแป้ง ยิ่งยง" ระบุว่า รูปเมื่อ 2 ปีก่อน ตอนนั้นก็คิดหาวิธีทำอย่างไรไม่ให้น้ำท่วมเข้าบ้านเหมือนกัน สุดท้ายก็ยอมจบที่ flood gate เหมือนกับโรงแรมดังเชียงใหม่ที่เป็นข่าวอยู่ อยากจะบอกว่าลงทุนครั้งเดียวไม่ต้องหลอนทุกหน้าฝนอีกยาวๆไป
สิ่งที่ต้องเตรียมรับมือมากกว่านั้น คือเตรียมไดโว่สูบน้ำพร้อมสายยางแบบผ้าใบไว้ซัก2ตัวและเครื่องปั่นไฟแบบใช้น้ำมัน 4500 W เพื่อรองรับการตัดไฟจากทางการไฟฟ้า และทำจุดเบรคเกอร์เสริมคล้ายๆ ATS เพื่อต่อไฟจากเครื่องปั่นไฟไปจ่ายเข้าบ้านแทนการไฟฟ้า และปรับปรุงระบบน้ำประปาให้มีหัวต่อสายยางน้ำเข้าจากไดโว่เพื่อสูบน้ำที่ท่วมเข้ามาผ่านระบบกรองน้ำใช้ที่มีอยู่แล้วให้สะอาด และทำการจ่ายน้ำเข้าถังพัก 2000 ลิตรในตัวบ้าน เพื่อไว้ใช้ตอนที่ประปาถูกน้ำท่วม จะบอกว่าการเตรียมพร้อมนั้นเป็นสิ่งที่สำคัญมาก เร็ว ๆ นี้วางแผนจะติดโซล่าเซลล์แบบ Hybrid On/Off 10kw พร้อม แบตอีก 300Ah ทีนี้น้ำท่วมซัก2เมตรก็มาเถอะฮะ พร้อมบวก... ไฟที่เหลือก็เอามาคั่วกาแฟกับเครื่อง M10 ต่อสบายๆ
ปกติจะหลอนทุกๆหน้าฝนมาก ถ้ามีพายุเข้ามา เพราะน้ำป่าที่ไหลทะลักมา มันเร็วกว่าที่จะได้ทันตั้งตัว ขอบคุณที่ทางโรงแรมมาก ที่ทำให้เห็นว่าการที่มีการเตรียมความพร้อมไว้นั้น ไม่ใช่เรื่องเกินกว่าเหตุ เพ้อเจ้อ หรือสิ้นเปลืองใดๆ และมันช่วยตอกย้ำให้เรารู้อีกว่า เรามาถูกทางแล้ว
มีทักเข้ามาเยอะ อยากจะขอชี้แจงในโพสนี้ทีละข้อๆน่าจะดีกว่า เผื่อท่านอื่นๆสงสัยในคำถามเดียวกัน คงจะเป็นประโยชน์กับหลายๆท่านไม่มากก็น้อย และขอออกตัวก่อนว่า ไม่ใช่กูรูทางด้านนี้นะ เป็นเพียงผู้ประสบภัยที่อยากจะปกป้องทรัพย์สินด้วยตนเองเท่าที่จะเป็นไปได้
1.การทำงานของ flood gate ภาพนี้เป็นรูปถ่ายตอนกำลังติดตั้งและทดสอบ flood gate ที่มีขนาดความยาว3เมตร จำนวน2บาน จากลูกศรสีแดงชี้นั้น จะมีการรั่วไหลของน้ำ ซึ่งเกิดจากพื้นปูนมีแอ่งเกิดขึ้น แต่บริเวณอื่นสามารถกันน้ำได้อย่างสมบูรณ์ จึงปรับปรุงพื้นใหม่และทำการทดสอบอีกครั้ง ผลที่ได้ก็สามารถกันน้ำได้100%คือไม่มีการรั่วไหลของน้ำจากพื้นด้านในเลย ตัวflood gate เป็นอลูมิเนียมแผ่นยาวที่สามารถถอดออกมาได้เป็นแผ่นๆและจะมีเสาตัวUอยู่ด้านข้างเพื่อทำการเข้าลิ่มสลักและแต่ละแผ่นก็จะมีสลักและซีลยางกันน้ำอยู่ทุกๆแผ่น แผ่นมีน้ำหนักที่เบาสามารถถอดรื้อและประกอบคนเดียวได้ แค่ใช้ประแจหกเหลี่ยมในการขันสกรูจากด้านข้างและด้านบนสุดที่หัวเสาด้านข้าง เพื่อกดให้แผ่นแน่นกับพื้นปูนเพื่อป้องกันน้ำ
1.2 Flood gate นี้สามารถทนแรงดันน้ำได้แค่ไหน เท่าที่ลองผลักแรงๆดูมีความแข็งแรงพอสมควร ความแข็งแรงจะขึ้นอยู่กับความสูงและความกว้างของตัว flood gate ที่มาติดตั้งด้วย ถ้าสูงและกว้างมากก็จะทนแรงดันน้ำได้น้อยลง และขึ้นอยู่กับความแรงของน้ำและทิศทางน้ำด้วยว่าประตูนี้อยู่ในตำแหน่งขวางทางน้ำหรือไม่ ถ้าขวางก็อาจจะต้องใช้กระสอบทรายหนุนหลังประตูหรือเสริมขาเหล็กในการค้ำยันช่วยอีกที
1.3 ได้ flood gate นี้มาจากไหน? หามาจากในออนไลน์ ซึ่งตอนนั้นปี2022 หาข้อมูลอยู่พักนึงก่อนตัดสินใจ เพราะเป็นเรื่องที่ใหม่ เราติตต่อไปที่ทางโรงงาน ทางโรงงานก็จะให้เราวัดขนาดของประตูไปให้เค้า และตีราคาออกมา จากนั้นเค้าก็จะตัดไซด์ตามที่เราต้องการและส่งมาให้ เราก็นำมาติดตั้งเองทั้งหมด เพราะมันไม่ยากอะไรและจึงไม่ได้ให้บริษัทไหนมาเกี่ยวข้อง ซึ่งค่าใช้จ่ายที่เกิดขึ้นจะอยู่ราวๆประตูละ 16,500บาท 2บานก็ 33,000บาท ซึ่งราคาจะไม่เท่ากันจะขึ้นอยู่กับความสูงและความกว้างของประตู ส่วนพิกัดแหล่งจัดหามานั้น จะไม่ขอพูดถึง กลัวจะมองว่าเป็นการปูเสื่อขายของ แนะนำให้ลองค้นหาในออนไลน์ดูเอา
1.4 ทำไมถึงต้องขนาด หา flood gate มาติดตั้ง? ทุกครั้งที่เกิดน้ำท่วมจะอยู่สู้กับน้ำทุกครั้ง ได้เห็นธรรมชาติของน้ำที่ค่อยๆไหลเข้ามาทุกๆทิศทาง หลักๆเลยคือบ้านรั้วต่ำมากและมีระแนงไม้ด้วย น้ำจึงเข้ามาอย่างรวดเร็ว เพราะเป็นน้ำป่าจากภูเขา เราจึงก่อกำแพงขึ้นแล้วทำแบบทึบไม่ให้น้ำเข้า ทีนี้ก็จะเหลือประตูรั้วอย่างเดียวที่กันน้ำไม่ได้ จึงต้องจัดหามาเพื่อชะลอน้ำไม่ให้ไหลเข้ามาเร็วจนเกินไป
1.5 เรื่องอายุการใช้งาน ตัว flood gate เป็นอลูมิเนียมแคลือบอโนไดซ์ไม่เป็นสนิม วัสดุพวกสกรูยึดก็เป็นแบบไร้สนิม ส่วนซีลยางกันน้ำในจุดต่างๆก็อาจจะเสื่อมได้ แต่สามารถหาทดแทนได้ไม่ยาก โดยรวมอายุการใช้งานถ้าเก็บรักษาไว้ในที่ไม่ถูกแดดและความร้อน น่าจะอยู่ได้เป็นสิบปี กว่าซีลยางกันน้ำจะเริ่มเสื่อม แต่ถึงจะเสื่อมก็สามารถใช้งานได้ แต่อาจจะมีการซึมของน้ำเข้ามาบ้างเล็กน้อย
หวังว่าคงจะได้ข้อมูลในการตัดสินใจเกี่ยวกับ Flood gate และอาจจะไม่ได้เหมาะกับหน้างานทุกหน้างาน แต่ที่เราจัดหามาใช้ เพราะโครงสร้างบ้านได้ออกแบบให้ยกพื้นขึ้นไป 50 เซนติเมตรโดยใช้แผ่นพื้นสำเร็จในการยก จึงทำให้พื้นตัวบ้านไม่ได้ติดอยู่กับพื้นดิน จึงไม่ได้มีปัญหาเรื่องน้ำซึมมาจากดินโดยตรงและปัญหากระเบื้องพื้นเกิดระเบิดขึ้น flood gate จึงมีบทบาทสำคัญมากๆในการชะลอการไหลของน้ำที่เข้ามาจากรั้วบ้าน ส่วนเรื่องแรงดันน้ำที่ย้อนมาจากท่อระบายนั้น ไม่เป็นปัญหาสำหรับบ้านเรา และได้เม้นท์รายละเอียดไว้แล้วในโพสต้นเรื่องแล้ว
ปล.ปีนี้ที่บ้านไม่เกิดพายุเข้า และเจอภัยแล้ง น้ำป่าจึงไม่ได้มากพอที่จะท่วมในปีนี้ บ้านเราอยู่เขตทางภาคอีสาน ไม่ได้อยู่ที่ภาคเหนือ เดี๋ยวจะเข้าใจผิด และขอให้ทุกๆท่านปลอดภัย และผ่านพ้นเรื่องร้าย ๆ ไปไว ๆ ฮะ
ขอบคุณ : นัฐจิรา ถุงแป้ง ยิ่งยง