คอลัมนิสต์

ไล่รายวัน "ม็อบ 13 สิงหา" ทะลุฟ้าบุกบ้าน "ประยุทธ์" ส่อเค้าจลาจล

เกาะติดข่าวสาร >> คมชัดลึก ออนไลน์
logoline

ไม่มีถอย "ม็อบ 13 สิงหา" ตามไล่ล่าประยุทธ์ เดินหน้าปะทะ ชูธงปฏิวัติประชาชน คอลัมน์ท่องยุทธภพ โดยขุนน้ำหมึก

++
จลาจล-ปฏิวัติ
++

ก่อนที่ “เพนกวิน” จะเข้าเรือนจำรอบสอง ตอนกลางดึกวันที่ 9 ส.ค.2564 เขาได้แสดงอารยะขัดขืน และตะโกนก้องลั่นรถห้องขังว่า “ปฏิวัติประชาชน” 

อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง:

ลับลวงพราง 'ประวิตร' คิดแผนสำรอง 'ทักษิณ" ตัวช่วย

"ประยุทธ์" บอบช้ำ ไปต่อลำบาก พปชร.เล็ง "ประวิตร" นายกฯสำรอง

สิงหาชี้ชะตา 'ณัฐวุฒิ' ปลุกแดงจัดคาร์ม็อบ 'เพื่อไทย' ลุยเชือดประยุทธ์

 

ถัดมา ในทวิตเตอร์ @Panusaya S. “รุ้ง” ปนัสยา สิทธิจิรวัฒนกุล ได้ทวีตข้อความ “คำสุดท้ายจากเพื่อนเรา คือ ปฏิวัติประชาชน” จากนั้น #ปฏิวัติประชาชน ก็ยิ่งกว่าไฟลามทุ่ง

 

ปี 2519 นักศึกษาหลายพันคน เลือกหนทาง “ปฏิวัติประชาชน” โดยเข้าร่วมกับพรรคคอมมิวนิสต์แห่งประเทศไทย (พคท.) สำหรับ พ.ศ.นี้ “เพนกวิน” และผองเพื่อน จะปฏิวัติประชาชนแบบไหน?

ไล่รายวัน "ม็อบ 13 สิงหา" ทะลุฟ้าบุกบ้าน "ประยุทธ์" ส่อเค้าจลาจล

กลุ่มทะลุฟ้า นัดบุกบ้านประยุทธ์อีกครั้ง

ที่แน่ๆ บ่ายสามโมง วันศุกร์ที่ 13 ส.ค.2564 กลุ่มทะลุฟ้า ได้นัดมวลชนที่อนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ ฝั่งเกาะพญาไท “เราจะเดินคล้องแขนไปบ้านประยุทธ์ พบการต่อสู้ทุกรูปแบบจากประชาชน..ขอพี่น้องประชาชนจงออกมาเพิ่มกำลังคน ร่วมกันและต่อสู้อย่างสันติอหิงสา เพื่อประจันหน้ากับพวกทรราช” 

แล้วก็ติดแฮชแท็ก #ทะลุฟ้า #ประยุทธ์ออกไป #ปฏิวัติประชาชน ซึ่งในกลุ่มเยาวชนคนรุ่นใหม่ ต่างก็ชูคำขวัญ “ปฏิวัติประชาชน” ตามที่ “เพนกวิน” ตะโกนดังๆในค่ำคืนนั้น 

แกนนำกลุ่มทะลุฟ้า เยาวชนปลดแอก แนวร่วมธรรมศาสตร์และการชุมนุม ราษฎร และฟื้นฟูประชาธิปไตย คงเห็นพ้องต้องกันว่า เดินหน้าชุมนุมต่อไป ไม่มีถอย หากหยุดการชุมนุม จะทำให้ฝ่ายเผด็จการบดขยี้

++
ทฤษฎีโกลาหล
++

30 ปีที่แล้ว ช่วงที่สังคมไทยอยู่ในภาวะถดถอยทางอุดมการณ์ หลังสิ้นสุดสงครามเย็น ได้มีนักวิชาการบางคนเสนอ “ทฤษฎีไร้ระเบียบ” หรือ “ทฤษฎีโกลาหล” (chaos theory) พูดถึงการเปลี่ยนทางสังคมเชิงโครงสร้าง

 

อย่างไรก็ตาม ทฤษฎีไร้ระเบียบ ได้ถูกคนบางกลุ่มตีความไปในทางลบ และหวังการเปลี่ยนแปลงการเมือง ด้วยทฤษฎีโกลาหลจลาจล

 

ชั่วโมงนี้ นักวิชาการบางคนมองว่า การจลาจลในเหตุการณ์ 14 ตุลาคม 25616 และการจลาจลในเดือนพฤษภาคม 2535 ไม่ได้นำมาซึ่งการเปลี่ยนแปลงเชิงโครงสร้าง 

 

ดังนั้น หากจะมีจลาจลเกิดขึ้นอีกครั้ง ต้องเป็นการจลาจลที่ไม่ “เสียของ” เหมือนปี 2516 และ 2535

++
สถานการณ์สุกงอม
++

นักวิชาการอิสระอย่าง พิชิต ลิขิตกิจสมบูรณ์ โพสต์เฟซบุ๊คว่า แนวทางของฝ่ายรัฐในวันนี้คือการเดินสองขา คือปราบปรามอย่างรุนแรง และจับกุมแกนเข้าคุก หวังให้การชุมนุมของเยาวชน “ฝ่อลงไปเรื่อยๆ”

“น่าจะคาดผิด รากเหง้าของปัญหาเชิงระบอบยังคงอยู่ ความรุนแรงจากฝ่ายรัฐ มีแต่จะทำให้ผู้คนยิ่งโกรธแค้น ผลด้านกลับคือจำนวนคนที่เผชิญหน้ากับ จนท.จะมีมากขึ้น การปะทะกันจะยิ่งบานปลายและรุนแรงต่อไปโดยที่แม้แต่ผู้จัดชุมนุมก็ควบคุมไม่ได้”

 

แล้ว “พิชิต” ก็สรุปว่า การที่รัฐใช้ความรุนแรงกับประชาชน “ผลมีสองอย่าง (ส่วนใหญ่) บานปลายเป็นจลาจล และรัฐรักษาอำนาจไว้ด้วยการฆ่าหมู่ประชาชนครั้งใหญ่ และ (ส่วนน้อย) การเปลี่ยนแปลงรัฐบาลหรือกระทั่งเปลี่ยนระบอบ”

 

ไล่รายวัน "ม็อบ 13 สิงหา" ทะลุฟ้าบุกบ้าน "ประยุทธ์" ส่อเค้าจลาจล เพนกวิน ก่อนเข้าเรือนจำ

 

ตอนท้าย “พิชิต” โค้ดคำพูดของเช กูวาร่า “Vive la révolution!” แปลว่า มีชีวิตอยู่เพื่อการปฎิวัติ

 

ขณะที่ “ใบตองแห้ง” นำเสนอผ่านเฟซบุ๊ค Atukkit Sawangsuk บอกว่า นี่คือ ม็อบ New Normal อยู่เหนือการควบคุม

 

“ว่าที่จริง 14 ตุลา พฤษภา 35 ก็เป็นแบบนี้แหละ การใช้กำลังรุนแรงกับม็อบปะทุความโกรธแค้น เกิดการตอบโต้อย่างกว้างขวาง ประชาชนพับเพียบให้ทหารกระทืบซะเมื่อไหร สถานการณ์ไม่มีใครคุมอยู่ กลายเป็นจลาจล ลุกลาม”

 

ในฐานะคนเดือนตุลา และเคยเข้าป่า ร่วมกับ พคท. “ใบตองแห้ง” จึงสรุปว่า “การตอบโต้เมื่อถูกกระทำ จึงเป็นส่วนหนึ่งของการไล่ประยุทธ์ พอๆกับคาร์ม็อบคาร์ปาร์ค ถ้าเกิดทุกวันเป็น New Normal ก็อยากรู้ว่ามันจะอยู่อย่างไร”

 

พูดง่ายๆ “ไล่ประยุทธ์” ทุกวันจะทนอยู่ได้หรือ? และโอกาสเกิดจลาจลมีสูง ซึ่งจะจบด้วย “รัฐประหาร” หรือ “ปฏิวัติประชาชน” เท่านั้นเอง

logoline

ข่าวที่น่าสนใจ