คอลัมนิสต์

"ม็อบหมอ" มาแล้ว เปลี่ยน "ม้า" กลางศึก

เกาะติดข่าวสาร >> คมชัดลึก ออนไลน์
logoline

หมอไม่ทน กดดัน "ประยุทธ์" ขาลง วัดใจจะกู้ศรัทธา เปลี่ยนม้ากลางศึกหรือไม่ คอลัมน์ .. ท่องยุทธภพ โดย .. ขุนน้ำหมึก

แม้ว่า “จำนวน” ผู้เข้าร่วมชุมนุมบนท้องถนน อาจจะไม่ถึงหลักหมื่นหลักแสน อันเนื่องสถานการณ์การระบาดของโควิดในเขตกรุงเทพฯ ค่อนข้างรุนแรง แต่แรงกดดันผ่านโซเชียล หรือปากต่อปาก ที่ออกโรงขย่ม พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ด้วยการหยิบยกการบริหารงานที่ผิดพลาด นับวันจะเพิ่มทวีความรุนแรงขึ้นเรื่อยๆ ประเมินว่า ปะทุอารมณ์ของผู้คนในสังคมเวลานี้ อาจจะผลักให้คนลงสู่ท้องถนนมากขึ้นในอนาคตอันใกล้นี้

 

 

 

 

หมอไม่ทนอีกแล้ว

ปมเอกสารที่ประชุมวิชาการของคณะแพทย์ 3 ฝ่าย ระบุว่า มีผู้ค้านการฉีดวัคซีน Pfizer เพื่อเป็นการกระตุ้นเข็ม 3 ให้กับบุคลากรทางการแพทย์ด่านหน้า เหมือนเอาน้ำมันราดกองไฟบรรดาบุคลากรทางการแพทย์ ในนาม “หมอไม่ทน” เรียกร้องให้มีการแสดงพลังติดโบว์ดำ สวมเสื้อดำทั้งประเทศ วันที่ 7 ก.ค.2564 เพื่อเป็นการไว้อาลัยแก่ผู้เสียชีวิต ผู้ที่ติดเชื้อโควิด-19 และผู้ได้รับผลกระทบทั้งหมด 

 

 

"ม็อบหมอ" มาแล้ว เปลี่ยน "ม้า" กลางศึก

หมอไม่ทน ขยับแล้ว

 

 

พร้อมกับยื่นข้อเรียกร้องต่อ อนุทิน ชาญวีรกูล รัฐมนตรีสาธารณสุข และ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ในฐานะ ผอ. ศบค. ให้นำเข้าวัคซีน mRNA (ไฟเซอร์และโมเดอร์นา) ให้ได้เร็วที่สุด, ให้นำวัคซีน mRNA เป็นวัคซีนฉีดกระตุ้นเข็ม 3 แก่บุคลากรทางการแพทย์ด่านหน้า, เปิดเผยสัญญาการสั่งซื้อวัคซีน AstraZeneca และ Sinovac รวมถึงวัคซีนอื่นๆ ที่ทางรัฐบาลไทยจะทำสัญญาในอนาคต ฯลฯ 

 

ขณะเดียวกัน เฟซบุ๊ก ภาคีบุคลากรสาธารณสุข ได้โพสต์ข้อความเชิญชวนลงชื่อในแคมเปญ #ต้องการ mRNAvaccine เพื่อเรียกร้องให้รัฐบาล รวมถึงองค์การเภสัชกรรม นำเข้าวัคซีนประเภท mRNA (ไฟเซอร์และโมเดอร์นา)โดยเร่งด่วน  ถ้ายังจำกันได้ ปลายเดือน เม.ย.2564 กลุ่ม “หมอไม่ทน” ได้ล่ารายชื่อผ่านเว็บไซต์เรียกร้องให้ อนุทิน ชาญวีรกูล ลาออกจากตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข  จากความล้มเหลวในการแก้ปัญหาการระบาดโควิด-19

 

ถัดมา กลุ่ม “หมอไม่ทน” ผุดแคมเปญล่ารายชื่อผ่านเวบไซต์เรียกร้องรัฐบาล กระทรวงสาธารณสุข และองค์การเภสัชกรรม ให้ดำเนินการจัดหาวัคซีนหลากหลายยี่ห้อและมีประสิทธิสิทธิภาพเพื่อเป็นทางเลือกแก่ประชาชน

 

 

 

 

 

 

เปลี่ยนม้ากลางศึก

เมื่อวันที่ 5 ก.ค.2564 นพ.สุรพงษ์ สืบวงศ์ลี โพสต์เฟซบุ๊คส่วนตัวว่า “อเมริกาเปลี่ยนประธานาธิบดีด้วยการเลือกตั้ง ในวันที่ทุกอย่างกำลังทรุดหนัก มองไม่เห็นอนาคต ผู้ป่วยโควิดใหม่วันละสองถึงสามแสนคน ผ่านมา 5 เดือนครึ่ง อเมริกากลับมายืนหนึ่งเรื่องรับมือโควิดได้ดีที่สุดในโลก เพราะเปลี่ยนผู้นำแค่คนเดียว”

 

ตอนท้าย “หมอเลี้ยบ” ตั้งคำถามว่า “ได้เวลา ‘เปลี่ยนม้ากลางศึก’ หรือยัง”  จริงๆแล้ว เสียงเรียกร้องให้เปลี่ยน “ม้า” กลางศึก ดังสนั่นลั่นโซเชียลมานานพอสมควร นับตั้งแต่ประเทศไทย ย่างเข้าสู่จุดที่เรียกว่า “วิกฤตโควิด” ยอดผู้ป่วยล้นโรงพยาบาล รวมถึงโรงพยาบาลสนามก็ขยายแล้วขยายอีก มีคำถามเกี่ยวกับบทบาทแม่ทัพ ศบค. ของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และ รมว.กลาโหม ที่เล่นสั่งการแบบซิงเกิลคอมมานด์ แต่ในทางปฏิบัติ ก็เต็มไปด้วยปัญหามากมาย

 

 

"ม็อบหมอ" มาแล้ว เปลี่ยน "ม้า" กลางศึก

นายกฯประยุทธ์ และทีมอาจารย์หมอ 

 

 

เวลานี้ ได้มีนักกฎหมายในรั้วมหาวิทยาลัยชั้นนำ ได้ยื่นฟ้องศาลเอาผิดกับผู้บริหารสูงสุดของรัฐ ในการบริหารสถานการณ์ฉุกเฉินที่ผิดพลาด จนก่อให้เกิดความเสียหายใหญ่หลวงต่อประชาชน ดูเหมือนว่า รัฐมนตรีทั้งคณะ จะมีเพียง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา และอนุทิน ชาญวีรกูล ในฐานะ รมว.สาธารณสุข รับแรงเสียดทานไปเต็มๆ ด้วยอำนาจหน้าที่ที่เกี่ยวข้องกับโควิด ส่วนรัฐมนตรี และ ส.ส. จากพรรคพลังประชารัฐ และพรรคร่วมรัฐบาล ก็ลอยตัว ทำงานเฉพาะในส่วนที่เกี่ยวข้องเท่านั้น เพื่อประคับประคองตัวเองไม่ให้บอบช้ำ สำหรับการเลือกตั้งครั้งต่อไป ในสถานการณ์ที่ พล.อ.ประยุทธ์ ต้องเผชิญแนวรบโควิดสาหัสสากรรจ์ คลังสมองหรือฝ่ายเสนาธิการของนายกฯประยุทธ์ คงต้องตัดสินใจเปลี่ยน “ม้า” (นักการเมืองบางคน) กลางศึก เพื่อกู้วิกฤตศรัทธา 

 

 

หากนายกฯประยุทธ์ ไม่ยอมตัดสินใจ ลากนักการเมืองบางคนต่อไป ก็น่าจะเป็นคิวของ “บิ๊กตู่” ที่ต้องเจอ “พลังมวลชน” กดดันให้เปลี่ยนม้ากลางศึกเสียเอง 

logoline

ข่าวที่น่าสนใจ