คอลัมนิสต์

"โทนี่" สอน "ตู่" กู้วิกฤตศรัทธา

01 ก.ค. 2564

รุกใหญ่ "โทนี่" ได้เวลาเอาคืน เปิดเกมรุกใส่ "บิ๊กตู่" คู่ขนานเกมท้องถนน คอลัมน์ .. ท่องยุทธภพ โดย .. ขุนน้ำหมึก

ถ้าเปรียบเหมือนการชกมวยไทย ก็เหมือนนักมวยยกสี่ “บิ๊กตู่” เจอหมัดเจอเท้า เข่าศอกหลายชุด ถึงกับทรุด ขึ้นยกที่ห้า “โทนี่” จึงรุกไล่ทันที ดังนั้น แอดมินเพจ CARE  คิด เคลื่อน ไทย จึงอัพคลิป “ฟังพี่โทนี่แนะจริงจัง หลังน้องตู่ อารมณ์สวิง ควรไปตรวจฮอร์โมน บ้างนะจ๊ะ...” คลิปนี้ถือว่าจงใจขยี้ “บิ๊กตู่” ชัดๆ ซึ่งสร้างความพออกพอใจแก่สาวกทักษิณเป็นอย่างมาก ต้องยอมรับว่า ชั่วโมงนี้ ศูนย์บริหารสถานการณ์แพร่ระบาดของโรคติดต่อเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (ศบค.) ตกเป็นตำบลกระสุนตก 



  

วันที่ 1 ก.ค.2564 ในการประชุมสภาผู้แทนราษฎร ได้พิจารณาญัตติด่วน ของ ส.ส.ฝ่ายค้านและรัฐบาล เกี่ยวกับการแก้ไขปัญหาโควิด โดย พิธา ลิ้มเจริญรัตน์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล ได้เสนอญัตติให้ยุบ ศบค. เพื่อส่งให้รัฐบาลพิจารณาต่อไป

ในวันที่ “โทนี่” ออกคลับเฮ้าส์หนล่าสุด ก็ยังวิจารณ์วิธีคิดวิธีทำงานของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี อย่างที่รู้กัน สมัยรัฐบาลไทยรักไทย ทักษิณ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ได้พยายามปรับเปลี่ยนระบบราชการ โดยการตั้งผู้ว่าฯ ซีอีโอ ทำให้เกิด “คลื่นใต้น้ำ” ในกระทรวงมหาดไทย เพราะเหล่า “สิงห์มหาดไทย” รู้สึกถูกนักการเมืองกดหัว จนสูญสิ้นศักดิ์ศรีฉะนั้น หลังรัฐประหาร 2549 และ 2557 คณะทหารที่ได้บริหารราชการแผ่นดิน ได้ยุบทิ้งผู้ว่าฯ ซีอีโอ และฟื้นระบบราชการแบบเดิม 

เมื่อมีผู้ถามว่า การมีศูนย์กลาง (ศบค) จำเป็นมั้ย หรือ ราชการปกติก็เพียงพอแล้ว “โทนี่” ตอบทันทีว่า “การรวมศูนย์แบบนี้เป็นการบริหารงานแบบโบราณ บริหารสมัยนี้ไม่รวมศูนย์ อยู่ไหนก็ประชุมได้หาข้อยุติได้ ต้องวางแผนให้ชัดเจน ดักปัญหาล่วงหน้า ไม่ใช่วิ่งตามปัญหา วันนี้นายกคิดยังไงก็ไม่มีใครกล้าแย้ง ล้อมด้วยหมอรักษาโรค ทั้งที่จริงต้องมีหมอระบาด

 “โทนี่” ยังวิจารณ์มาตรการควบคุมโควิดของ ศบค.ชุดใหม่ว่า “ขอวิจารณ์สองสามเรื่อง ถ้าเราไม่ศึกษาให้ชัดเจนว่าอะไรห้ามไม่ห้าม นึกอยากจะสั่งก็สั่ง นึกอยากจะเลียนแบบเมืองนอกก็เลียนแบบ เราเป็นประเทศกำลังพัฒนา จะชดเชยเหมือนเมืองนอกทำไม่ไหว เราจึงรู้ว่าควรจะปิดอะไรไม่ปิดอะไร วันนี้เราไม่รู้อะไรเลย เพราะเราไม่ค่อยมีการตรวจทางลึก ถ้าไม่ป่วย ไม่เดินเข้าโรงพยาบาลเองก็ไม่รู้ว่าติดกี่ราย ตอนนี้เริ่มเปิดตรวจฟรีบ้างแล้วแต่น้อยมาก”

แล้วโทนี่ก็วกมาที่เรื่อง “ลักหลับล็อกดาวน์” ว่า “เรื่องที่อยู่ๆ ตีหนึ่งสั่งประกาศ ผมเรียนวิชาอาชญวิทยา เขาเรียก modus operundi แผนประทุษกรรม คนไหนที่เคยทำอะไรมันก็จะชอบมีพฤติกรรมแบบนั้น คือ ท่านเป็นนักปฏิวัติ หัวค่ำบอกไม่ปฏิวัติ ตอนดึกปฏิวัติ มันเป็นนิสัยท่าน ผมคิดว่าท่านคงทำแบบนั้น ช่วงนี้ผมคิดว่าท่านควรจะตรวจฮอร์โมน ผู้ชายอายุมาก อารมณ์เปลี่ยน ผมว่ามันสวิง”

เพียงแค่ประโยคสั้นๆ “ผมคิดว่าท่านควรจะตรวจฮอร์โมน ผู้ชายอายุมาก อารมณ์เปลี่ยน ผมว่ามันสวิง” ก็ถูกขยายผลในฟากฝ่ายเพื่อไทย 

 

\"โทนี่\" สอน \"ตู่\" กู้วิกฤตศรัทธา

โทนี่แนะลุงตู่ ตรวจสุขภาพ

สำหรับประเด็นการสื่อสารหรือวิธีการจัดการการสื่อสารในวิกฤติ “โทนี่” สอนว่า “ก็ต้องรู้จริง วางแผนร่วมกันอย่างชัดเจนว่าจะทำอะไร ไม่ใช่นึกอะไรได้ก็สั่ง ประเทศไม่ใช่เรื่องเล่น มันเกี่ยวกับองคาพยพจำนวนมาก ผู้นำสั่งเคลื่อนกำลังที มัน break ไม่ทัน โฆษกพูดก็ได้ แต่ต้องพูด on behalf ของรัฐบาลที่มีความชัดเจน แต่พูดจากการกลั่นกรองที่มีจบแล้วของที่ประชุม นายกต้องมีเหตุผลว่าทำไมถึงเป็นแบบนี้ อธิบายประชาชนได้”

 

\"โทนี่\" สอน \"ตู่\" กู้วิกฤตศรัทธา

ตอนนี้ โทนี่ได้ทีขี่แพะไล่ 

ตอนท้ายของการออกคลับเฮ้าส์คืนนั้น นพ.สุรพงษ์ สืบวงศ์ลี กล่าวถึงความเป็นผู้นำ ต้องมีหัวใจ “... ถ้าผู้นำการเมืองไม่มีหัวใจ จะไม่เข้าใจว่าคนเขาทุกข์กันยังไง เป็นหัวใจสำคัญที่คุณ

“โทนี่” พูดเสริมว่า “empathy เป็นคียเวิร์ดที่สำคัญมากสำหรับนักการเมือง ถ้าไม่รู้จัก empathy เสียเวลาทั้งตัวเองและประเทศ” (คำว่า empathy หมายถึงความตระหนักในความรู้สึก ความต้องการ และความกังวลของผู้อื่น)

เหมือนช่วงนี้ “โทนี่” พูดอะไรก็โดนใจแฟนคลับ เนื่องจาก “บิ๊กตู่” กำลังเจออภิมหาวิกฤตโควิด เปรียบเสมือนนักมวยยกที่ห้า เอาหลังพิงเชือก สู้ไปถอยไป ประคองตัวจนเสียงระฆังดัง