นายกฯ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ได้ออกแถลงการณ์ตั้งเป้าประเทศไทยต้องเปิดประเทศภายใน 120 วัน เพื่อให้ประชาชนกลับมาทำมาหากินตามปกติให้ได้ ถือว่าเป็น"คำมั่น"ที่นายกฯให้ไว้กับประชาชนทั้งประเทศ.แต่กว่าจะถึงวันนั้นรัฐบาลมี"โรดแม็พ"อย่างไรบ้าง.. ที่นี่มีคำตอบ
เมื่อวานนี้(16 มิ.ย. )พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ได้ออกแถลงการณ์ผ่านโทรทัศน์รวมการเฉพาะกิจ ตั้งเป้าประเทศไทยต้องเปิดประเทศภายใน 120 วันหรือประมาณ 4 เดือนข้างหน้าเพื่อให้ประชาชนกลับมาใช้ชีวิตตามปกติและทำมาค้าขายได้หลังต้องเผชิญกับภาวะวิกฤต โควิด-19
คราวนี้มาพลิกดู"โรดแม็พ"ที่ประเทศไทยจะต้องเดินหน้าต่อไปเพื่อนำไปสู่เป้าหมาย"เปิดประเทศ"ตาม"คำมั่น"ที่นายกฯให้ไว้กับประชาชนทั้งประเทศ มีดังนี้
-เดินหน้าจัดหาวัคซีนเพิ่มเติมโดยมีการลงนามในสัญญาจองหรือสัญญาซื้อไปแล้ว 105.5 ล้านโดส ทำได้เกินเป้าหมายที่เคยตั้งไว้สำหรับปีนี้ โดยทั้งหมดจะทยอยส่งมอบเข้ามาภายในปีนี้และจะทยอยฉีดต่อไป พร้อมกันนี้ยังจะเดินหน้าจัดหาวัคซีนเพิ่มเติมอีกสำหรับปีหน้า
-เดินหน้าเจรจากับผู้ผลิตวัคซีนรายใหม่ๆ จำนวน 6 ราย ได้แก่ ไฟเซอร์, จอห์นสัน แอนด์ จอห์นสัน, โมเดิร์นน่า,แอสตรา เซเนกา, ซิโนแวค และซิโนฟาร์ม
-การเดินหน้าตามแผนฉีดวัคซีนนี้ จะสามารถฉีดวัคซีนให้ประชาชนได้โดยเฉลี่ย ประมาณเดือนละกว่า 10 ล้านโดส หากวัคซีนส่งมาเพียงพอในแต่ละเดือน ประมาณต้นเดือนตุลาคม จะมีประชาชนที่ได้รับการฉีดวัคซีน อย่างน้อยเข็มแรกแล้ว จำนวน 50 ล้านคน เพราะการได้รับวัคซีนแม้แค่เพียงเข็มแรก ก็สามารถช่วยเพิ่มภูมิคุ้มกันและช่วยลดความเสี่ยงในการเจ็บป่วยหรือเสียชีวิตได้ในระดับที่มากพอสมควรแล้ว
-นำร่องเปิดประเทศที่จังหวัดภูเก็ตที่เตรียมผ่อนคลายบางมาตรการและเปิดรับนักท่องเที่ยวเข้ามาแบบ Sandbox ในวันที่ 1 ก.ค. นี้ โดยนำเรื่องนี้เข้าที่ประชุมคณะรัฐมนตรีเพื่อพิจารณาและอนุมัติในช่วงสัปดาห์หน้า เป็นการเตรียมการเพื่อเปิดประเทศในระยะต่อไป
ในระยะยาว การจัดการกับโควิด-19 คือ การมีฐานการผลิตหรือโรงงานผลิตวัคซีนโควิด-19 ตั้งอยู่ในประเทศไทย ซึ่งจะช่วยให้ประชาชนทุกคนสามารถเข้าถึงวัคซีนได้ในระยะยาวต่อไป
"การปูพรมฉีดวัคซีนทั่วประเทศให้ได้ครบตามเป้าหมายภายในเวลาเพียงไม่กี่เดือน เป็นภารกิจสำคัญครั้งประวัติศาสตร์ และเป็นสิ่งที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน"
กับ"คำมั่น"ของนายกฯที่ว่าจะเปิดประเทศให้ได้ภายใน 120 วัน
ข่าวที่เกี่ยวข้อง