เดินหน้าแล้ว "ยอดศึก" ประชุม 10 กลุ่มติดอาวุธชาติพันธุ์ สานฝัน "กองทัพสหพันธรัฐ"
++
สถานการณ์ความขัดแย้งทางการเมืองในเมียนมา มีแนวโน้มจะเกิด “สงครามกลางเมือง” เมื่อประชาชนเมียนที่ต่อสู้กับเผด็จการทหาร ทนเห็นการเข่นฆ่าเช่นผักปลาไม่ไหว จึงเรียกร้องให้กองกำลังกลุ่มชาติพันธุ์รวมตัวกันเป็น “กองทัพสหพันธรัฐ” เพื่อปกป้องประชาชนผู้บริสุทธิ์
ความฝันของคนหนุ่มสาวเมียนมาคือ การลุกฮือของประชาชนประสานกับกองกำลังกลุ่มชาติพันธุ์ ดำเนินสงครามประชาชน เป็นหนทางเดียวที่จะโค่นล้มระบอบตั๊ดมะด่อหรือกองทัพเมียนมาได้
ตัวแทนคณะกรรมการผู้แทนแห่งสหภาพ (CRPH) หรือรัฐบาลคู่ขนาน ได้ขายฝันการปฏิวัติฤดูใบไม้ผลิ ด้วยข้อเสนอ "กองทัพสหพันธรัฐ" (federal army) ซึ่งมีการพูดคุยระหว่างตัวแทนพรรคเอ็นแอลดีกับผู้นำชาติพันธุ์บางกลุ่มไปแล้ว
เจ้ายอดศึกประชุมออนไลน์
แม่ทัพยอดศึก
++
วันที่ 3 เม.ย.64 พล.อ.เจ้ายอดศึก ในฐานะหัวหน้าทีมขับเคลื่อนกระบวนการสันติภาพ PPST (Peace Process Steering Team) ได้ประชุมผ่านระบบออนไลน์กับ 9 ผู้นำกลุ่มชาติพันธุ์ เพื่อหารือถึงสถานการณ์ภายในประเทศเมียนมา
เจ้ายอดศึก หัวหน้าทีมขับเคลื่อนกระบวนการสันติภาพ PPST เรียกร้องให้คณะรัฐประหาร หยุดการการกระทำที่รุนแรงทั้งหมดโดยสิ้นเชิง และขอประณามการโจมตีทางอากาศในพื้นที่ของสหภาพแห่งชาติกะเหรี่ยง(KNU) จนทำให้มีผู้เสียชีวิต บาดเจ็บ และมีผู้พลัดถิ่นจำนวนมาก
การประชุมครั้งนี้ 10 กลุ่มชาติพันธุ์ ได้หารือถึงแนวทางการช่วยเหลือและสนับสนุนการเคลื่อนไหวของประชาชนผู้ร่วมการปฏิวัติฤดูใบไม้ผลิ Spring Revulation และอารยะขัดขืน (CDM) ของประชาชน และเพื่อป้องกันการปราบปรามประชาชน
10 กลุ่มชาติพันธุ์ จะยืนหยัดร่วมกับประชาชนทุกภาคส่วนในการต่อต้านการยึดอำนาจของคณะรัฐประหาร สนับสนุนให้ยกเลิกรัฐธรรมนูญ 2008 กระบวนการประชาธิปไตย และการจัดตั้งสหภาพสหพันธรัฐ และการปล่อยตัวผู้ถูกจับกุมทางการเมืองทันที
ที่สำคัญ 10 กลุ่มชาติพันธุ์ กำลังเจรจากับคณะกรรมการผู้แทนแห่งสหภาพ (CRPH) หรือรัฐบาลคู่ขนาน เกี่ยวกับการจัดตั้งกองทัพสหพันธรัฐ
กองกำลังของเจ้ายอดศึก
20 ชาติพันธุ์ติดอาวุธ
++
วันนี้ กลุ่มชาติพันธุ์ติดอาวุธ 10 กลุ่มที่ลงนามหยุดยิงทั่วประเทศ (NCA) ได้ลงมือพูดคุยกันแล้ว โดยมีเจ้ายอดศึก ประธานสภากอบกู้รัฐฉาน (RCSS/SSA) และมูตู เซพอ ประธานสหภาพแห่งชาติกะเหรี่ยง (KNU) เป็นแกนหลัก
ปัจจุบัน กองกำลังติดอาวุธชาติพันธุ์ 10 กลุ่ม มีกำลังพลรวมกันแล้ว ไม่ต่ำกว่า 20,000 คน มีเพียงสหภาพแห่งชาติกะเหรี่ยง(KNU) และสภาเพื่อการกอบกู้รัฐฉาน/กองทัพรัฐฉาน (RCSS/SSA) เท่านั้น ที่มีศักยภาพในการรบกึ่งแบบแผน
อย่างไรก็ตาม พันธมิตรฝ่ายเหนือ (FPNCC) ที่ยังไม่ร่วมลงนามหยุดยิงทั่วประเทศ เป็นกลุ่มที่มีอำนาจต่อรองสูง แกนนำหลักคือกองทัพสหรัฐว้า(UWSA) มีกำลังพล 30,000 นาย นับแต่เกิดรัฐประหารโดยกองทัพเมียนมา กองทัพสหรัฐว้า(UWSA) ยังไม่ได้มีปฏิกิริยาใดๆ และไม่มีการชุมนุมต่อต้านกองทัพเมียนมาในเขตปกครองพิเศษชนชาติว้า รัฐฉานเหนือ
ทั้งกองทัพสหรัฐว้า (UWSA) และองค์กรเอกราชคะฉิ่น/กองทัพเอกราชคะฉิ่น (KIO/KIA) เป็นกลุ่มติดอาวุธชาติพันธุ์ ที่มีศักยภาพในการสู้รบมากที่สุด เพราะกำลังพลมีระเบียบวินัย สู้รบเก่ง อาวุธทันสมัย และมีแหล่งทุนสนับสนุนทำสงคราม
เหนืออื่นใด ทั้งกองทัพสหรัฐว้า และกองทัพเอกราชคะฉิ่น ยังเป็นพี่เลี้ยงของกองทัพเมืองลา (NDAA),กองทัพปลดปล่อยแห่งชาติตะอาง(TNLA), กองทัพโกก้าง(MNDAA), กองทัพไทใหญ่เหนือ (SSPP/SSA)และกองทัพอาระกัน (AA)
ไม่ใช่เรื่องง่ายเลย สำหรับการนำกองทัพชาติพันธุ์ ทั้งภาคเหนือและภาคใต้ กว่า 20 กลุ่มมาผนึกกำลังเป็น “กองทัพสหพันธรัฐ” ใต้ร่มธงรัฐบาลประชาชน
เจ้ายอดศึกให้สัมภาษณ์สื่อนอก
ข่าวที่เกี่ยวข้อง