คอลัมนิสต์

ไร้เงา "กปปส."  ดุลเปลี่ยน 3 ป.เป็นรองสีน้ำเงิน

เกาะติดข่าวสาร >> คมชัดลึก ออนไลน์
logoline

ดุลการเมืองเปลี่ยน เมื่อไร้ กปปส.ในรัฐบาลประยุทธ์ จึงเป็นจังหวะและโอกาสของค่ายสีน้ำเงิน  คอลัมน์... ท่องยุทธภพ โดย... ขุนน้ำหมึก


++
สึนามีการเมืองเรื่อง กปปส. ส่งผลสะเทือนไปถึง “3 ป.” อย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ เพราะทุกคนรู้อยู่เต็มอกว่า กำเนิด กปปส.นั้น เกี่ยวโยงมาถึงการเกิดขึ้นของ คสช. ที่ครองอำนาจมาตั้งแต่ปี 2557 คั่นด้วยการเลือกตั้งปี 2562 ก่อนจะเป็น “รัฐบาลประยุทธ์” เวอร์ชั่นรัฐธรรมนูญ 2560

 

อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง...  ปรับ ครม. "ศึกชิงเก้าอี้" ปะทุ

ไร้เงา "กปปส."  ดุลเปลี่ยน 3 ป.เป็นรองสีน้ำเงิน

สุเทพ และอนาคตของ รปช. จะไปยังไง


    

ส.ว.บางกลุ่มจึงมองว่า ผลแห่งคดี กปปส. ทำให้ดุลการเมืองเปลี่ยน เหมือนว่าเวลานี้ ในกระดานอำนาจ เหลือเพียง “3 ป.” กับฝ่ายระบอบทักษิณ (เพื่อไทย และอดีตไทยรักไทย) 
    

คอลัมนิสต์การเมืองสำนักข่าวหัวเขียว อ่านขาดสถานการณ์ร้อน จึงวิเคราะห์การปรับ ครม.ครั้งใหม่ว่า “โฟกัสไปที่ภูมิใจไทยก่อน ความเหนียวแน่นและหนาแน่นของภูมิใจไทย ภายใต้การนำของ อนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกฯและ รมว.สาธารณสุข และครูใหญ่ เนวิน ชิดชอบ ชื่อและยี่ห้อนี้รับประกันคุณภาพในการเล่นการเมือง ถึง สาม ป. จะได้เปรียบ เรื่องของโครงสร้างภาพรวมแต่ ด้านการเมือง แล้วเสียเปรียบร้อยเปอร์เซ็นต์ ยิ่งภาพของ พล.อ.ประยุทธ์ ต้องมาผูกติดกับ กปปส. ก็ยิ่งทำให้การเคลื่อนไหวของ พล.อ.ประยุทธ์ ไม่คล่องตัว และต้องคอยรับช่วงของวิบากกรรมที่ กปปส. ทำเอาไว้ในอดีตด้วย”
    

ถอดรหัสจากบทความชิ้นนี้ หมายความว่า “บ้านใหญ่บุรีรัมย์” นำโดย เนวิน ชิดชอบ, ศักดิ์สยาม ชิดชอบ และอนุทิน ชาญวีรกูล มีความได้เปรียบเหนือ “บ้านป่ารอยต่อ” 
    

หากวันข้างหน้า ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยว่าการแก้ไขรัฐธรรมนูญตามมาตรา 256 ของรัฐสภา เพื่อตั้งสมาชิกสภาร่างรัฐธรรมนูญ (ส.ส.ร.) ขึ้นมายกร่างรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ ขัดรัฐธรรมนูญ ก็อาจเป็นเงื่อนไขหนึ่งที่ค่ายสีน้ำเงิน อาจพลิกเดินเกมสภา เขย่าเสถียรภาพรัฐบาลอีกรอบ    

 

 

ไร้เงา "กปปส."  ดุลเปลี่ยน 3 ป.เป็นรองสีน้ำเงิน

3 สหายแห่งค่ายสีน้ำเงิน


++
กลืนเลือด
++
หลังได้รับการปล่อยตัวชั่วคราว สุเทพ เทือกสุบรรณ ออกมาให้สัมภาษณ์สื่อพอจับความได้ว่า ไม่ได้เตรียมตัวเตรียมใจมาก่อน ซึ่งอดีตแกนนำ กปปส.อีก 7 คน ก็คงคิดอ่านไว้ล่วงหน้าไม่ต่างกัน


หลังเลือกตั้งปี 2562 “ลุงกำนัน” รู้สึกผิดหวังที่พรรครวมพลังประชาชาติไทย ได้ ส.ส.ทั้งเขตและบัญชีรายชื่อรวมกัน 5 คน แต่ก็ได้ร่วมรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา พร้อมกับโควต้ากระทรวงแรงงาน 
    

มีเหตุต้องปรับ ครม.ปีที่แล้ว พรรคลุงกำนันถอยจากแรงงาน ไปคุมกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.) โดย เอนก เหล่าธรรมทัศน์ เป็นรัฐมนตรี อว.

 

สำหรับ ณัฐฏพล ทีปสุวรรณ รัฐมนตรีศึกษาธิการ ,พุทธิพงษ์ ปุณณกันต์ รัฐมนตรีดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม และถาวร เสนเนียม รัฐมนตรีช่วยคมนาคม แม้จะได้ตำแหน่งจากโควต้าพรรคพลังประชารัฐ และพรรคประชาธิปัตย์ แต่ในความเป็นจริง พวกเขาก็คือ อดีต กปปส. 
    

วันนี้ ทั้ง 3 คน หลุดจากตำแหน่งรัฐมนตรี ทำให้เหลือ 1 เก้าอี้รัฐมนตรีในโควต้า กปปส.คือ อาจารย์อเนก ส่วนอีก 3 เก้าอี้คงต้องจัดสรรปันส่วนกันไปในกลุ่มมุ้งต่างๆ ของเครือข่ายลุงป้อม
 

ไร้เงา "กปปส."  ดุลเปลี่ยน 3 ป.เป็นรองสีน้ำเงิน

มวลชนมาต้อนรับ ส.ส.ลูกหมี กลับบ้านชุมพร

 

++
คนใจนักเลง
++
เมื่อวันที่ 27 ก.พ.2564 หน้าลานพระบรมรูปพระปิยะมหาราช ชาวชุมพรประมาณ 2 พันคน ได้มารวมตัวกัน เพื่อให้กำลังใจ ชุมพล จุลใส อดีต ส.ส.ชุมพร พรรคประชาธิปัตย์ หลังต้องคำพิพากษาศาลชั้นต้นตัดสินพ้นสภาพ ส.ส. 
    

“วันนี้ผมฝากให้พี่น้องประชาชนต้องช่วยกันสนับสนุนท่าน นายกประยุทธ์ จันทร์โอชา เพราะบ้านเมืองเราต้องเดินหน้าต่อ ส่วนเรื่องคดีความของผม ก็ให้ว่าไปตามกฎหมาย” บางถ้อยคำของ “ส.ส.ลูกหมี” ที่บอกกล่าวกับคนชุมพร
    

“ผมถูกมากกว่าเพื่อน ทั้งหมดรวม 9 ปี 24 เดือน แต่ไม่เป็นไร ผมบอกแล้วว่าถ้าผมไปต่อสู้ ผมจะเดินสุดทาง เมื่อกลับถึงบ้าน ผมบอกภรรยาผมว่า “เราต้องอดทน” เราต้องปฎิบัติตามกฎหมาย”
    

วันนั้น “ส.ส.ลูกช้าง” สุพล จุลใส และ “นายกโต้ง” นพพร อุสิทธิ์ ก็มาให้กำลังใจ “ส.ส.ลูกหมี” พร้อมกับทีมงาน “จุลใสแฟมิลี่” 
    

สไตล์คนใจถึงพึ่งได้แบบ “ส.ส.ลูกหมี” จึงไม่มีคำโอดครวญหลุดออกมาจากปาก แม้จะรู้อยู่แก่ใจในหลายเรื่อง แต่ก็เก็บงำไว้ ซึ่งต่อหน้ามวลชนที่มารอต้อนรับ ส.ส.ลูกหมียังฝากทุกคนให้สนับสนุนรัฐบาลลุงตู่

logoline

ข่าวที่น่าสนใจ